AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ขนาดอวัยวะเพศชาย ดูได้จากขนาดของเท้าจริงหรือ?

เขาว่ากันว่า อยากรู้ว่า ขนาดอวัยวะเพศชาย ของแต่ละคนใหญ่แค่ไหน ให้ดูจากรองเท้าก็รู้เลยจริง ๆ น่ะเหรอ

 

 

งานนี้ใครอยากรู้ว่า ผู้ชายแต่ละคนมีขนาดของน้องชายเท่าไร คงมีก้มหน้ามองดูแต่รองเท้ากันแน่ ๆ เลยใช่ไหมละคะ คุณพ่อคุณแม่คิดว่ามันคือเรื่องจริงหรือเปล่าเอ่ย? แน่นอนค่ะว่า เป็นความเชื่อที่ยากจะหาบทพิสูจน์ แต่ถ้าใครอยากจะพิสูจน์ละก็ เย็นนี้กลับบ้านไป รีบไปเช็คกับคุณสามีเลยนะคะว่า เรื่องนี้จริงหรือไม่จริง!

แต่ที่แน่ ๆ ด้วยทฤษฎีความเชื่อดังกล่าว ทำให้มีทีมแพทย์ผู้เชียวชาญด้านนี้โดยเฉพาะถึงกับต้องทำการวิจัย เพื่อพิสูจน์กันเลยละค่ะว่า ขนาดของรองเท้ากับอวัยวะเพศชายนั้น สัมพันธ์กันจริงหรือไม่ งานนี้เราไปดูผลงานวิจัยนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

อ่านต่อผลงานวิจัย >>

 

ขนาดอวัยวะเพศชายสัมพันธ์กับขนาดของรองเท้าจริงหรือไม่?

ในปี 1993 มีแพทย์ชาวแคนาดาสองคนได้ทำการวัดขนาดความยาวของอวัยวะเพศ ส่วนสูง รวมถึงขนาดเท้า ของชายจำนวน 63 คน โดยได้ข้อสรุปออกมาว่า ขนาดของอวัยวะเพศสัมพันธ์กับส่วนสูงและขนาดเท้าอยู่บ้าง แต่ว่าแทบไม่มีความแน่นอนเลย หนำซ้ำยังมีนักวิจัยท่านอื่นที่ชนะรางวัล Ig Nobel Prize for Statistics ในปี 1998 ออกมาค้านอีกว่า “ผลจากการคาดเดาขนาดของอวัยเพศจากส่วนสูงและขนาดเท้า มันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย”

ต่อมาในปี 1999 นักวิจัยชาวเกาหลีก็ได้ทำการวิจัยเรื่องนี้อีกเช่นกัน โดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นชายชาวเกาหลีจำนวน 655 คน พวกเขาวัดความยาวและเส้นรอบวงของอวัยวะเพศชายตอนยังไม่แข็งตัว ขนาดเท้า ความยาวของนิ้วมือและเท้า ขนาดของใบหู รวมไปจนถึงจำนวนเส้นผมบนศีรษะอีกด้วย จนสุดท้ายผลสรุปพบว่า มีความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยระหว่างความยาวของอวัยวะเพศและเส้นรอบวง (ซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว) แต่อย่างอื่นไม่พบความสัมพันธ์ใด ๆ ที่ชัดเจนกับส่วนอื่น ๆ เลย

ยังค่ะยังไม่จบ เพราะในปี 2000 ก็ได้มีการค้นคว้าวิจัยโดย ริชาร์ด เอ็ดเวิร์ดทำแบบสอบถามเกี่ยวกับขนาดของอวัยวะเพศผ่านทางเว็บไซต์ พบว่า ทฤษฎีนี้ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างขนาดเท้าและขนาดอวัยวะเพศ แต่ว่ามีความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดระหว่างส่วนสูงและขนาดอวัยวะเพศแทน แต่ความสัมพันธ์นี้เห็นความแตกต่างน้อยลงเมื่อผู้ชายตัวสูงมากขึ้น

จนสุดท้ายในปี 2002 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ได้ทำงานวิจัยเรื่องนี้อีกครั้ง โดยวัดขนาดอวัยวะเพศและขนาดเท้าของชาย 104 คน แต่ผลสรุปที่ออกมาก็ยังคงบอกว่าขนาดของทั้งสองสิ่งไม่สัมพันธ์กันอยู่ดี!!!

แหม! เรียกได้ว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนพากันสนใจกันจริง ๆ เลยนะคะ แต่เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเชื่อค่ะ ของแบบนี้ลองกลับไปพิสูจน์เองที่บ้านดูก็ได้นะคะ ไม่ลองไม่รู้ใช่ไหมละคะ

อ่านต่อ 11 วิธีดูแลน้องชายให้พร้อมรบ! >>


เครดิต: Catdumb และ Inspiremore

 

 

11 วิธีดูแลน้องชายให้พร้อมรับ

จงปล่อยอายุให้เป็นเพียงตัวเลข เพราะเมื่อไรก็ตามที่ก้าวเข้าสู่เลข 3 ปัญหาน้องชายไม่แข็งตัว ไม่ทำงานนั้นพบได้มากจริง ๆ ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลของคุณพ่อหรือคุณสามีทั้งหลายกันด้วยนะคะ และนี่คือวิธีการดูแลที่เรานำมาฝากกันค่ะ

1. เลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการเลือกสรรอาหารดีมีประโยชน์บำรุงร่างกาย เพราะอาหาร คือ กลไกสำคัญที่ช่วยในการรักษาสุขภาพร่างกายให้ดีและแข็งแรง ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ลดปริมาณไขมันอิ่มตัว และหลีกเลี่ยงไขมันจากสัตว์ น้ำตาล ของทอด และอาหารขยะทั้งหลาย จะส่งผลให้เจ้าน้องชายของคุณมีการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ช่วยให้ไม่คอตกเศร้าหงอยอยู่ตลอดเวลา

2. ยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สำหรับข้อนี้ หากใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาที และประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ละก็ จะช่วยแก้ปัญหาการหลั่งเร็ว เสริมสมรรถภาพร่างกาย สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้ค่ะ

3. อย่าปล่อยให้น้องเหงา ใช่แล้วละค่ะ พยายามใช้งานเขาบ่อย ๆ และสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศอยู่ในภาวะปกติ แต่ควรใช้กับภรรยาคนสวยของเราเท่านั้นนะคะ มิเช่นนั้น มีงานเข้ากันแน่ ๆ

4. หยุดตัวการทำลายสมรรถภาพ อย่างเช่น แอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะจากการสำรวจสถิติ พบว่า ผู้ชายที่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดจะมีความเสี่ยงต่อการเป็น โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศสูง เพราะการสูบบหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะส่งให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทที่ช้ในการควบคุมการแข็งตัวขององคชาตเสีย ทำให้องคชาตไม่แข็งตัว และยังทำให้เส้นเลือดที่ควบคุมการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายเสื่อม จำนวนอสุจิลดลง รวมถึงทำให้ให้น้องชายอ่อนแรง เสื่อมสมรรถภาพก่อนวัยอันควรนั่นเอง

5. อาบน้ำให้น้องชายให้ได้รับความสะอาด สิ่งสำคัญที่ผู้ชายหลายคนละเลย คือ การทำความสะอาดเจ้าน้องชายให้สะอาด โดยการทำความสะอาดที่ดี ควรทำวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็นด้วยน้ำและสบู่และเช็ดด้วยผ้าให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณคอหยักและใต้หนังหุ้มปลาย ที่ควรต้องให้ความสำคัญและเน้นให้มาก ๆ เพราะอาจนำมาซึ่งกลิ่นเหม็น เป็นผื่นคัน อักเสบ หรือร้ายแรงเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้

อ่านต่อ 11 วิธีดูแลน้องชายให้พร้อมรบ! >>

 

6. พักผ่อนให้เพียงพอ โดยเวลาที่เหมาะสมคือ การเข้านอนตอน 22.00 น. เรื่องจากเป็นเวลาที่ร่างกายได้หลับสนิทและพักผ่อนอย่างเพียงพอ พร้อมกับระบบฮอร์โมนที่ช่วยการเจริญพันธุ์และฮอร์โมนทุกๆชนิดจะเริ่มทำงาน เกิดกระบวนการหล่อเลี้ยงด้วยออกซิเจนในเส้นเลือด ซึ่งจะทำให้น้องชายของคุณตื่น (แข็งตัว) อยู่ราวๆ 3-5 ชั่วโมง นอกจากนี้ การนอนหลับยังถือเป็นการเพิ่มปริมาณการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนให้เพียงพอ ทำให้พลังเพศมีความสมบูรณ์ทั้งชายและหญิงอีกด้วย

7. การดูแลกางเกงในให้ดี อย่าใช้ผ้าที่อับชื้น และเปียก เพราะจะเป็นการหมักหมมเชื้อแบคทีเรียทำให้เป็นโรคผิวหนังได้

8. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจจะเสี่ยงและทำให้น้องชายได้รับบาดเจ็บ เชื่อไหมคะว่า มีผลการสำรวจพบว่าผู้ชายที่เกิดปัญหาไร้สมรรถภาพทางเพศ 1 ใน 3 มีประวัติเกี่ยวเนื่องจากการบาดเจ็บที่น้องชาย โดยเกิดได้จากการ “หัก” หรือ “ฉีกขาด” ของเยื่อหุ้มรอบแกน ซึ่งอาจจะเกิดจากการสำเร็จความใคร่ที่รุนแรงเกินไป หรือ การร่วมรักในท่วงท่าที่ผาดโผนจนเกินไป โดยการรักษาเมื่อมีการหักหรือฉีกขาดของเนื้อเยื่อภายในน้องชาย แพทย์จะทำการผ่าตัดแล้วเย็บกล้ามเนื้อกลับเข้าที่เดิม แต่บางรายอาจจะกลับมาใช้ได้ไม่เหมือนเดิม

9. หาวเยอะ ๆ มีส่วนช่วยทำให้น้องชายสุขภาพดี เรื่องแปลกแต่จริง เพราะการตอบสนองทั้งสองถูกควบคุมโดยสารเคมีที่เรียกว่า “ไนตริกออกไซด์” โดยกระบวนการผลิตสารไนตริกออกไซด์นี้ได้จากการหาว และสารเคมีตัวนี้เองเป็นสารสำคัญที่มีบทบาทในการควบคุมการหดตัวของเส้นเลือดในองคชาต อาจทำให้น้องชายของคุณแข็งตัวได้ดีและแข็งตัวได้นานมากขึ้น

10. ตรวจสอบความผิดปกติของอวัยวะเพศชายเป็นประจำ ยกตัวอย่างเช่น ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆเป็นประจำสม่ำเสมอ หรือตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยตัวเอง ขั้นตอนง่าย ๆ คือใช้มือตรวจอัณฑะทีละข้าง โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ค่อย ๆ คลำเลื่อนไปเรื่อย ๆ คลำดูว่ามีก้อนหรือการอักเสบเกิดขึ้นหรือไม่บริเวณ ด้านหลังของอัณฑะจะคลำแล้วหยุ่น ๆ มือซึ่งถือว่าเป็นปกติ แต่หากคลำและรู้สึกเป็นก้อน ๆ อาจจะเกิดความผิดปกติ ดังนั้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและการรักษาต่อไปค่ะ

11. บำรุงน้องชายกันบ้าง อาจจะลองหาวิตามินต่าง ๆ มาทาน ยกตัวอย่างเช่น วิตามิน A, วิตามิน B complex, วิตามิน C, วิตามิน E, โครเมียม, แอลอาร์จินิน รวมไปถึงสมุนไพรบางชนิด เช่น ถั่งเช่า ใบแปะก๊วย โสมเกาหลี กระชายดำ “ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยป้องกันปัญหาต่าง ๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เสริมความแข็งแรงให้ผนังหลอดเลือด คืนความหนุ่มให้กับร่างกาย เสริมพลังทางเพศ และลดความอ่อนล้าของร่างกายได้อีกด้วย

ถ้าหากคุณสามีทั้งหลายทำตาม 11 ขั้นตอนที่กล่าวไปแล้วได้ละก็ รับรองเลยละค่ะว่า ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนน้องชายก็พร้อมก้าวเข้าสู่สนามรบแน่นอน

เครดิต: OMG

อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids