AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

25 เคล็ดลับ พิชิตใจให้แม่สามีรัก ภายใน 7 วัน

ทำอย่างไรให้ ชนะใจแม่สามีสุดยอดปัญหาคลาสสิคสำหรับหลายๆ ครอบครัวคงหนีไม่พ้นเรื่องของลูกสะใภ้กับแม่สามี ซึ่งบางทีไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ดี แต่เกิดปัญหาไม่ชอบหน้าขึ้นมา ก็ขอให้มองว่าเรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมชาติ

เพราะสามีภรรยาก็จะมีส่วนที่เหมือนกันและต่างกัน  ไม่มีทางที่จะเหมือนกันได้ 100% ซึ่งก็ถือว่ามีความขัดแย้งได้เกิดขึ้นแล้ว  เช่นเดียวกันกับกรณีแม่สามีและลูกสะใภ้  ก็มีมุมขัดแย้งที่เป็นธรรมชาติเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน  ซึ่งก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คุณแม่ ๆ ทุกคน มักจะเห็นลูกของเขายังเป็นเด็ก ๆ และมักจะมีอิทธิพลในการตัดสินใจของลูก ไม่มากก็น้อย แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถเอาชนะใจแม่สามี ให้แม่สามีรักคุณเหมือนที่รักลูกชายของเขาได้ Amarin Baby & Kids มีเคล็ดลับเด็ดๆ กับวิธีทำให้แม่สามีรักคุณมาแนะนำค่ะ

25 วิธีเอา ชนะใจแม่สามี

การจะพิชิตใจแม่สามีนั้น จะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป มาดูกันว่าในฐานะ ‘ลูกสะใภ้’ จะมีวิธีพิชิตใจ ‘คุณแม่สามี’ ได้อย่างไรบ้าง

1.ชนะใจด้วยของฝาก อย่าเข้าบ้านเขาด้วยมือเปล่า ควรติดขนมหรือผลไม้ไปสักหน่อย หรือถ้าไปเที่ยวไหนๆ กลับกันมาก็ควรซื้อของมาฝากด้วยอย่าได้ลืม แต่มีข้อแม้ว่า ราคาต้องไม่สูงเกินตัว เพราะนอกจากกำลังทรัพย์จะไม่ไหวแล้ว การซื้อของแพงให้อาจทำให้คิดว่า คุณอวดรวยได้เหมือนกัน

2.มือไม้อ่อนเข้าไว้ มาถึงไหว้ ลากลับไหว้ คงไม่หนักเท่าไหร่ ที่สำคัญ จะต้องออกปากเรียก คุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ อีกสักนิด จะช่วยเพิ่มคะแนนได้อีกหน่อย นอกจากนี้ ถ้าท่านยื่นสิ่งของหรือตักข้าวให้ ห้ามลืมพนมมือและกล่าวคำขอบคุณด้วย

3.วาจาสุภาพ เอ่ยปากทุกคำต้องมีลงท้ายคะขา ด้วยความอ่อนหวานแบบที่ใส่จริตพอดีตัว เพราะถ้าหวานจนเวอร์ แม่เขาอาจมองว่าคุณพูดจาไม่จริงใจ แถมยังตำหนิไปถึงบุพการีคุณได้

4.เป็นตัวของตัวเอง ข้อนี้สำคัญมากค่ะ อย่าพยายามทำตัวเป็นนักแสดง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณรู้สึกว่าทำแล้วจะดูดี เพื่อที่จะให้แม่ของแฟนประทับใจทั้ง ๆ ที่มันไม่เป็นตัวของตัวเอง

5.พูดน้อย ฟังเยอะ เมื่อมีบทสนทนาเกิดขึ้น ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ให้ฟังเป็นส่วนมาก โต้ตอบเป็นส่วนน้อย ถ้ามีการขอความคิดเห็นที่เกิดขึ้น ให้ตอบแบบกลางๆ ในปริมาณพอดีๆ ไม่ใช่พอท่านถาม คุณก็พูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง จนกลายเป็นสาวช่างจ้อ น่ารำคาญมากกว่าน่าเอ็นดู

6.ช่วยเหลือการงาน อย่านิ่งเฉยนั่งรับลมเอื่อยๆ ที่บ้านเขาเด็ดขาด ถ้าเห็นแม่เขาเช็ดถูกวาดบ้าน ให้เอ่ยปากขอเข้าไปช่วยเหลือ และแม้คำตอบที่ได้จะไม่เป็นไร ก็อย่าสนใจ จงกุลีกุจอยื่นมือเข้าช่วยอย่าลังเล รวมทั้งสิ่งใดที่ทำแล้วเห็นว่าน่าจะเกิดประโยชน์ต่อคนในครอบครัวของเขาก็ควรทำด้วย

7.ใช้เวลากับแม่ของแฟนคุณบ้างถ้ามีโอกาส แม่ของแฟนคุณจะต้องชอบทำอะไร หรือมีงานอดิเรกอะไรบางอย่าง อาจจะเป็นการจัดสวน การทำอาหาร หรืองานฝีมือ คุณควรจะแสดงความสนใจ ถามไถ่บ้าง จะทำให้คุณแม่รู้สึกว่า คุณเป็นแฟนของลูกเธอนะ เธอก็อาจจะเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าคุณ เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความสนใจในตัวเธอด้วย และอยากจะรู้จักใกล้ชิดกับเธอจริง ๆ ไม่ใช่คนที่จะมาพรากลูกไปจากเธอ

อ่านต่อ >> “เคล็ดลับการเอาชนะใจแม่สามี ข้อที่ 8-16” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

8.ให้การยกย่องแฟนของคุณเป็นพิเศษ อาจมีคุณแม่ของแฟนบางคนที่อยากรู้ว่า คุณจะปฏิบัติต่อลูกของเธอดีแค่ไหน การเล่าถึงด้วยความชื่นชมให้แม่เขาฟังกรณีที่ลูกชายเขาเคยทำอะไรที่เป็นการช่วยเหลือผู้อื่น อย่าง ช่วยคนตาบอดข้ามถนน ช่วยคนแก่ยกของ ถ้าเรื่องที่คุณพูดมันเกี่ยวกับว่า แฟนของคุณนั้นเขาดีขนาดไหน แบบนี้แม่ของเขาจึงจะวางใจว่า ลูกได้คนที่ดีแล้ว

9.อย่าสวีทต่อหน้า เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่เคร่งครัดมากๆ ข้อหนึ่ง ประเอื้อมไปจูงลูกชาย ป้อนข้าว เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง คุณไม่อยากดูเป็นผู้หญิงใจง่ายในสายตาของแม่เขาหรอก จริงไหม

10.ถามไถ่ความต้องการ ทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวกันสองต่อสอง อย่าลืมนึกถึงท่านและเอ่ยปากสอบถามว่า อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่า คำตอบคือ ไม่เป็นไร แต่ที่ควรถามเพราะอย่างน้อย คุณก็ได้แสดงน้ำใจกับท่านนั่นเอง

11.ถามไถ่ถึงสุขภาพ แสดงความห่วงใยท่านด้วยการถามถึงสุขภาพ และควรรับฟังคำตอบด้วย ไม่ใช่สักแต่ว่าฟังไปเฉยๆ คราวหน้าเจอกันจะได้อัพเดทสุขภาพท่านได้ถูก

12.เยี่ยมเยียนเมื่อเจ็บไข้ เมื่อรู้ข่าวว่าท่านไม่สบาย ต้องสอบถามอาการ โดยเริ่มต้นที่การถามไถ่กับลูกชาย (ก็แฟนคุณนั่นแหล่ะ) จากนั้นโทรศัพท์ไปสอบถามกับเจ้าตัว และหาเวลาไปเยี่ยมพร้อมกับอาหารบำรุงร่างกาย แต่ก่อนไป อย่าลืมเช็คว่า คุณหมอห้ามทานอะไรหรือเปล่า คุณจะได้ไหวตัวทันไม่ซื้อไปเยี่ยม

13.ปรนนิบัติเหมือนแม่ตัว เมื่อรักตัวลูก ก็ต้องรักตัวแม่ไม่ต่างกัน และคิดเสมอว่าท่านก็เหมือนแม่ของคุณ ดังนั้น คุณก็ต้องทำกับท่านเสมอว่าเป็นแม่ของคุณ แต่ทั้งนี้พึงระวัง อย่าปรนนิบัตพัดวีจนออกนอกหน้า อย่างนั้นเรียกว่าล้ำเส้น

14.สวยถูกเวลา ไม่ว่าจะแต่งหน้าแต่งตัว อย่าให้เกิดงาม แม้ว่าจะแต่งเป็นประจำอยู่แล้วก็ไม่ได้ จงคิดไว้เสมอว่า กาลเทศะต้องมาก่อน ยิ่งถ้าไปเจอแม่เขาครั้งแรกยิ่งต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ ถ้าแต่งเยอะเกินไป ปากแดงมาตั้งแต่ปากซอย คุณแม่ไม่ปลื้มแน่

15.ไม่ทิ้งให้โดดเดี่ยว ชวนท่านออกไปเที่ยวบ้างก็ไม่เลว ถือว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์เบื้องต้น ดีกว่าปล่อยให้ท่านอยู่บ้านคนเดียวเหงาๆ แต่สถานที่ที่จะไปก็ต้องเลือกสรรให้เหมาะสมด้วย ไม่ใช่ว่าท่านอายุเกินเกษียณ แต่คุณกลับพาไปนั่งฟังเพลงในผับแด๊นซ์ อันนี้ก็ผิดมหันต์ (เว้นแต่คุณแม่จะขอร้อง)

16.อย่าอวดฉลาด เรื่องไหนไม่รู้ก็ให้บอกไม่รู้ เรื่องไหนพอรู้ให้พูดพอประมาณ อย่าทำตัวฉลาดรู้ไปหมดทุกเรื่อง เพราะนอกจากแม่เขาจะไม่ชื่นชมแล้ว ยังนึกหมั่นไส้อยู่ในใจอีกด้วย

อ่านต่อ >> “เคล็ดลับการเอาชนะใจแม่สามี ข้อที่ 17-25” คลิกหน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

17.รู้เทศกาล แม้จะไม่มีเวลาไปเยี่ยมเยือน เมื่อถึงเทศกาลต่างๆ ให้โทรศัทพ์หาเพื่ออวยพร ท่านจะได้รู้สึกว่าคุณยังนึกถึงท่านอยู่เสมอ

18.อย่าด่าลูกให้แม่ฟัง ไม่ว่าจะขัดใจเขามากแค่ไหน ห้ามเปิดปากฟ้องแม้เขาเด็ดขาด เพราะท่านจะคิดว่า ลูกของท่าน เขาก็ถูกเสมอ

19.ขอคำแนะนำเมื่อมีปัญหา ให้ความสำคัญกับท่านด้วยการขอคำปรึกษาบ้าง เพื่อให้ท่านรู้สึกว่า คำแนะนำหรือความเห็นนั้นมีความหมายกับคุณไม่ต่างจากครอบครัวของคุณเอง

20.อย่าเบียดบังเวลา เมื่อไรก็ตามที่เป็นเวลาของครอบครัวเขา จงปล่อยให้เขาได้ใกล้ชิดใช้เวลานั้นตามลำพัง ยิ่งเป็นวันพิเศษของแม่เขาด้วย อย่าปรากฏกายให้เห็นโดยไม่ได้รับเชิญเด็ดขาด เพราะนอกจากคุณจะกลายเป็นส่วนเกินแล้ว จะทำให้เขาไม่สามารถดูแลแม่ได้เต็มที่ เพราะต้องคอยแบ่งเวลาไปดูแลคุณด้วยนั่นเอง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

21.ดูแลเขาให้เท่ากับที่แม่เขาดูแล ใส่ใจรายละเอียดของเขาให้ดีเท่ากับ หรือมากกว่าที่แม่เขาดูแล เพื่อให้ท่านวางใจได้ว่า ถ้าเขาได้คุณเป็นภรรยา เขาจะได้รับการดูแลที่ดีเสมอกันนั่นเอง

22.ดีกับญาติเขาเสมอดีกับตัวเขา ถ้าคิดจะเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาก็จะต้องทำดีกับเครือญาติทั้งหมดไม่ต้องกับที่ทำดีกับตัวเขา เพราะเพียง 1 คอมเม้นต์ก็ทำให้คะแนนคุณพุ่งหรือร่วงได้ไม่ยาก

23.เรียนรู้วัฒนธรรมครอบครัว ทำใจเป็นกลางและเปิดรับรูปแบบการใช้ชีวิตของครอบครัวเขาให้ได้ อย่าลืมว่าถ้าวันนี้คุณรับไม่ได้หรือทำตัวกลมกลืนไม่ไหว อนาคตร่วมกับเขาลำบากชัวร์

24.อย่ากดขี่เขาให้แม่เห็น ไม่มีแม่ที่ไหนอยากเห็นลูกตัวเองเป็นเบี้ยล่างให้ใคร โดยเฉพาะผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา ฉะนั้น เก็บอาการหมั่นเขี้ยวอยากลงไม้ลงมือไว้ทำในที่ลับตาท่านจะดีที่สุด

25.อย่าพรีเซ้นต์ว่า เสียตัวแล้ว แม้ว่าชีวิตจริงคุณและเขาจะมีอะไรกันเรียบร้อยแล้วแต่ไม่จำเป็นที่จะต้องป่าวประกาศออกมาตรงๆ ยิ่งถ้าไปต่างจังหวัดที่ต้องมีการค้างคืน ก็ควรขนเพื่อนทั้งโขยงมาค้าง เพราะอย่างไรคุณแม่ก็อยากมองหน้าลูกสะใภ้ได้อย่างผุดผ่องมากกว่า (ถึงใจจริงจะรู้ แต่ผู้ใหญ่นิยมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มากกว่านะ) ต่อให้เป็นฝรั่งก็เถอะ คาทอลิกบางบ้านยังต้องให้คู่รักนอนแยกห้องกันเลย

ตลอด 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ ถ้าคุณสามารถปฏิบัติและพึงระลึกใน 24 วิธีนี้อย่างเคร่งครัดคุณจะสามารถชนะหัวใจแม่สามีของคุณได้อย่างแน่นอน

อ่านต่อ >> “วิธีแก้ปัญหาเมื่อแม่สามีไม่ถูกกับลูกสะใภ้” คลิกหน้า 4

ทั้งนี้หากมีปัญหาขัดแย้งกันระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้อย่ามองว่าเป็นเฉพาะคู่ของเรา

จริง ๆ แล้วไม่ว่าเราจะแต่งงานกับใครมันก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาได้  พอมีความขัดแย้งในคู่สามีภรรยา ก็เลยมองว่าถ้าเราแต่งงานใหม่กับคนอื่นคงไม่เกิดปัญหานี้ แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราแต่งงานใหม่ก็ต้องเกิดปัญหาใหม่ขึ้นได้เช่นเดียวกัน

ในมุมของแม่สามีและลูกสะใภ้  น่าจะเป็นเรื่องความคาดหวังในเรื่องของความต่างระหว่างวัย  เพราะปัจจุบันผู้หญิงทำงานนอกบ้าน  แม่สามีอาจจะคาดหวังลูกสะใภ้ในเรื่องงานบ้านงานเรือน หรือประสบการณ์ในมุมมองของการเลี้ยงดู  ดูแลบ้าน แม่สามีอาจจะเห็นว่าการพูดตักเตือนเป็นเรื่องของความหวังดี  แต่มุมของลูกสะใภ้อาจคิดว่ากำลังถูกจู้จี้ จ้องจับผิดอยู่ก็ได้

วิธีแก้ปัญหาวิธีแรก คือ ควรคิดถึงเหตุผล เราอาจจะเป็นฝ่ายถูกจริงๆ หรืออาจจะเป็นฝ่ายผิดก็ได้ นี่คือวิธีคิดที่ดีที่สุด  แต่ส่วนใหญ่วิธีคิดนี้จะไม่สำเร็จ

วิธีที่สอง  คือ เรื่องของท่าที  คือแม่สามีเขาคิดว่าตนเองมีศักดิ์ที่สูงกว่า  ทำให้ลูกสะใภ้ทนไม่ไหว  วิธีแก้คือ  คนเรามีธรรมชาติที่ชอบให้คนชื่นชมยกย่อง  คือชมแล้วอธิบายตาม  จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด  เพราะจะทำให้เขาฟังเรามากขึ้น

วิธีที่สาม คือ ต้องใช้บุคคลที่สาม  คือใช้เสียงส่วนใหญ่  ต้องอาศัยความเห็นของคนอื่น  แต่ส่วนใหญ่จะลืมวิธีที่สอง วิธีที่สาม เราจะลืมชื่นชมกันแล้วใช้วิธีเถียงเอา  ก็จะทำให้เกิดปัญหา เรื่องก็จะขยายเป็นเรื่องใหญ่ออกไปไม่ใช่เรื่องเดิมแล้ว

♠ สำหรับสามีคือคนกลาง

ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  คือต้องมีความหวังและพยายาม มี  3 วิธี คือ

วิธีแรก  มักถูกใช้บ่อยที่สุดแต่ได้ผลน้อยที่สุด คือ อธิบายแก้ตัวให้กัน แก้ต่างให้ด้วยเหตุผล

วิธีที่สอง พูดข้อดี  คนกลางต้องหัดชื่นชมทั้ง 2 ฝ่าย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ทั้งสองฝ่ายยอมอ่อนลง เพราะแคร์ลูกชายและสามีของตน ไม่อยากให้ลูกชายหรือสามีต้องเสียใจ แต่ต้องยืนบนฐานความจริง การชื่นชมความดีของแม่หรือภรรยาต้องจริงใจ ไม่โกหก เนื่องจากทั้งหมดเป็นเรื่องศักดิ์ศรี

วิธีสุดท้าย เป็นเรื่องของการสร้างโอกาส  มอบของให้กัน แบ่งปันกัน เพื่อละลายศักดิ์ศรีและความโกรธออกไป เพราะฉะนั้นคนกลางจะต้องมีสติมากที่สุด

แต่ถ้าทำมาทุกวิธีที่กล่าวมาแล้วยังไม่ได้ผล และถ้าคุณคิดว่าความรักในครั้งนี้ มันคือ ‘รักแท้’ โปรดจำไว้ว่า ‘ความอดทน’ จะช่วยคุณได้ ไม่ว่าคุณจะอึดอัดคับข้องใจแค่ไหน และจะมีอะไรเกิดขึ้น หากคุณสามารถผ่านมันไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง เหตุการณ์ทั้งหมดจะเป็นบทพิสูจน์ว่า คุณพร้อมจะเคียงข้างคนรักของคุณ และฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปได้ในทุกสถานการณ์

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร WE www.weweddingguide.com , www.familynetwork.or.th