พบกับเรื่องราวสุดอั้นของสะใภ้ กับโพสต์ระบายความในใจเกี่ยวกับ แม่สามี ที่ทำให้เธอต้องเลือก
คุณแม่ ๆ ทั้งหลายคะ ความสัมพันธ์ของคุณแม่และคุณแม่ของสามีเป็นอย่างไรกันบ้างคะ ราบรื่นกันดีอยู่หรือเปล่า … เรียกได้ว่า ปัญหาระหว่างคุณแม่สามีกับลูกสะใภ้นั้น เป็นหนึ่งในปัญหาของครอบครัวที่อาจจะต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะจูนกันติด บางครอบครัวก็ใช้เวลาไม่นาน แต่บางครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหามากมาย ที่ทำอย่างไรก็ไม่มีวันเข้ากันได้เลย จนกลายเป็นปัญหาคาใจที่อยู่ต่อไปก็ไม่มีความสุข ดังเช่นเรื่องราวของสะใภ้ท่านนี้ ที่นอกจากจะต้องรับมือกับคุณแม่สามีแล้ว เธอยังต้องรับมือกับลูกติด ที่ห้ามไปเสียทุกอย่าง หนำซ้ำยังห้ามให้เธอมีลูกเป็นของตัวเองอีกด้วย
โดยเรื่องราวที่ว่านี้ เป็นเรื่องราวของสมาชิกท่านหนึ่งในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เธอขอโพสต์เรื่องราวเพื่อแชร์ประสบการณ์ระหว่างให้ได้อ่านกัน พร้อมแล้วไปอ่านเรื่องราวของคุณผู้หญิงท่านนี้กันเลยค่ะ
อ่านต่อเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
สวัสดีค่ะ ชื่อพายค่ะ อายุ 26 แต่งงานมาแล้วสองปีค่ะ เรากับแฟนอายุห่างกัน 12 ปี ก่อนอื่นเลยเราเป็นอีกคนหนึ่งที่มีปัญหา “แม่ผัวกับลูกสะใภ้” ขึ้นชื่อว่าเมื่อมาอยู่บ้านเดียวกัน มันจะมีพลังงานบางอย่างหรือเคมี บางอย่างที่ทำให้แม่สามีเเละลูกสะใภ้ หลาย ๆ คู่ไม่ชอบหน้ากัน …. เเต่ของฉันไม่เรียกว่าชอบขี้หน้าก็ไม่เชิง เเต่แม่สามีมีความอิจฉามากกว่า…
ก่อนหน้าจะแต่งงานหนึ่งปี เราคบกับสามีเราก่อนจะแต่งงาน โดยสามีเคยเเต่งงานมาเเล้วเเละหย่าเรียบร้อยเเล้ว มีลูกติด 1 คน เป็นเด็กผู้ชายอายุ 7 ขวบ แม่สามีเป็นคนเลี้ยง ครอบครัวสามีมีธุรกิจครอบครัว มีโรงงานเล็ก ๆ มีอพาร์ทเม้นท์ มีร้านอาหาร เราก็ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัทเเห่งหนึ่ง …เราสองคนรักกันมากเเม้จะอายุห่างกันมาก เเต่เขาเป็น ผช. ที่ดีมาก ๆ เราไม่เคยทะเลาะกันเลย เรากับเขาคบกับได้ 1 ปี เขาขอเราแต่งงาน เขาจึงพาไปแนะนำให้ที่ผ่านรู้จัก ซึ่งเราก็ได้มีโอกาสได้พบแม่สามีเเละลูกเขาครั้งเเรก ก่อนแต่งงาน 3 เดือน พบกันตอนเเรก ก็ดีมาก ๆ ทั้งเเม่ พี่สาวเขา เเละลูกเขา แต่หารู้ไม่ว่า การตัดสินใจเเต่งงานครั้งนี้ จะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขนาดนี้ !!!
คือ หลังจากแต่งงาน สามีก็ให้ลาออกจากงานไม่ต้องทำงาน สามีเลี้ยง (ดูสบายเนอะ) ซึ่งก็เสียดายตำเเหน่งและเงินเดือนเหมือนกัน เเต่ก็คิดเอาว่า เราคงมีเงินใช้อยู่เเล้วและเพราะสามีซับพอร์ต หุหุ เเละสร้างบ้านติดกับบ้านเเม่สามี เพราะเเม่เขาต้องการ หลังจากแต่ง ได้ 2 เดือนเริ่มละ เริ่มเยอะ ! (แม่สามีนะ) โอ้โห !! เเม่สามีเเละสามี ทะเลาะกันบ่อยมาก !! ทะเลาะกันเสียงดัง (คือเเม่สามีเขาคิดว่าเขาใหญ่สุดในบ้าน ทุกต้องฟัง เวลาพูดจะถูกเสมอ ต้องครับ/ต้องค่ะ)
ครั้งแรกที่สามีกับแม่ทะเลาะกัน เพราะสามีขอร้องแม่ว่าอย่าเข้ามายุ่งวุ่นวายกับครอบครัวเรามากไปมันอึดอัด แม่สามีเป็นคนควบคุมทุกอย่าง
1. ตั้งเเต่เงินเดินสามีเงินเดือนหลักแสนนิด ๆ ซึ่งจะไม่ใช้เงินสด จะใช้ในวงเงินบัตรเครดิต ส่วนมากจะมีเงินสดไว้ใช้ เเค่เดือนละ 3 หมื่นบาท เรื่องเงินเราไม่มีปัญหา เราไม่ได้สนใจเงินเท่าไร ต่อมาก็ควบคุมเรื่องความคิด เเสดงความคิดเห็นไม่ได้ !! พูดอะไรก็ไม่เชื่อ ! ต้องฟังเเม่แก เชื่อเเม่แก ควบคุมเรื่องเสื้อผ้า เรื่องไปกิน การไปการมา แกจะเข้ามาจัดการให้หมด เราก็เข้าใจว่า แม่เเกคงจะรักลูกมาก จึงอยากให้ลูกอยู่ใกล้ ๆ อะไรประมาณนี้
2. เรื่องลูก เเม่สามีเลี้ยงลูกเขาจนนิสัยเสีย มารยาทเเย่มาก !! ดื้อมาก ซนมาก เป็นเด็กก้าวร้าว ไม่ทานข้าวเอง ต้องป้อน เสื้อผ้าใส่เองไม่เป็น เเละก็ขี้เกียจมาก ๆ เวลาเราจับใส่เสื้อผ้าก็จะทำตัวอ่อน ๆ ไม่มีเรี่ยวเเรง ให้เราทำยาก ๆ ข้าวถ้าไม่ป้อนก็จะไม่กิน กินข้าวยากมาก ๆ พูดอะไรก็ไม่ฟัง !! สามีก็ไม่ชอบลูกจะคอยดุตลอด พอดุปุ๊บ คุณย่า (แม่สามี) ก็จะด่าสามีเราทันที ด่า ๆ (เราก็คิดโอ๊ยเเตะต้องไม่ได้เลย) ลูกหลานเทวดา !! เราก็ต้องอดทน ! แต่เด็กคนนี้ร้ายกาจเเต่เด็กเชียว เวลาอยู่กับเราทำอีกอย่าง อยู่กับย่าทำอีกอย่าง เรียกง่าย ๆ ว่ายิ้ม ! เด็กคนนี้จะมานอนบ้านเรา ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
เด็กก็ไม่ชอบพ่อเพราะพ่อจะดุบ่อย ๆ ชอบคนตามใจ เหมือนย่าเขาตามใจ เเต่บางครั้งก่อยากจะเรียกร้องความสนใจจากพ่อเหมือนกัน สามีเขากับเราจะเน้นเหตุผลในสอนเด็กคนนี้เสมอ เช่น อยากได้อะไร ต้องบอกเหตุผลมาก่อนว่าทำไมถึงอยากได้ จำเป็นมากเเค่ไหน มีครั้งหนึ่ง เขาชอบ รูปโลกเเละดวงดาว เราก็ซื้อโปสเตอร์ หนังสือ โมเดล รูปดาวเคราะห์ต่าง ๆ สติ๊กเกอร์ เชื่อไหม ว่าเขาต้องการไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่มันเหมือนกัน
เขาก็ต้องการเรื่อย ๆ จนเต็มเลย เหมือนหุ่นยนต์อะ มีประมาณสามลังได้ ถ้าไม่ได้เขาก็จะโวยวายร้องไห้ ร้องลั่น !! คุณย่าเขาก็จะซื้อให้ตลอดดด #เราก็คิดว่า เฮ้ยไม่ไหวเเละ ทำยังงี้ต่อไป นิสัยยิ่งจะก้าวร้าว เด็กโตขึ้น เขาต้องเอาแต่ใจมาก ๆ เราเป็นห่วงเด็กด้วย .. เรื่องข้าวไม่ยอมทานผัก เนื้อหมู ไก่ ปลา อาหารทะเลทุกอย่างที่เป็นเนื้อจะไม่ทาน จะทานเเต่ไข่กับแฮมเเละขนม ขนมปัง ช็อกโกเเล็ต และอื่น ๆ ที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งเวลาไม่ทานข้าว พ่อเด็กก็จะดุ ว่าเวลาทานข้าว ต้องทานข้าวอย่างเดียวห้ามทำอย่างอื่น ใช้เวลาทานข้าว 1-2 ชั่วโมง สำหรับเด็กอายุ 7 ขวบ ซึ่งน่าจะโตพอที่จะพูดรู้เรื่อง พอพ่อบอก พ่อสอน หรือดุเวลาดื้อ เเม่สามีก็จะเข้ามาด่า มาว่าเรากับสามีตลอดว่า อย่าดุ อย่าด่า เเละก็พาลมาว่าเราว่า ถ้าสามีเราด่าลูก ให้เรานะด่าสามี !! หรือเวลาลูกทำอะไรไม่ดี ทำอะไรผิด อย่าบอกพ่อ !! เราก็เอ้า ! นี่คนเป็นพ่อจะไม่ให้เขารับรู้เรื่องของลูกเขาเลยเหรอ ? ถึงเราไม่บอกสามีก็รู้ เพราะพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เด็กเเสดงออกมา ใครเห็น ใครก็ว่ามันผิดปกติ จากเด็กคนอื่น สมาธิสั้น โมโหร้าย ก้าวร้าวไม่มีมารยาท เรากับสามีเราก็กลัวโตขึ้นจะนิสัยไม่ดี เเต่เเม่สามีไม่คิด คิดเเต่ว่ายังเด็ก ทำอะไรก็ดีหมด เราก็อดทนนะ ทำดีมาก ๆ กับเด็กคนนั้น เพราะสงสารเขาที่ขาดความอบอุ่น ไม่เคยเกลียดเลย เเต่จะมีบ้างที่เหนื่อยใจ เพราะเลี้ยงยาก ถือว่าได้บุญเลี้ยงเด็ก
อ่านต่อเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
3. เรื่องจำกัดการมีลูกของเรา !! เราเเต่งงานเราก็อยากมีลูกสามีก็อยากมี เรากับสามีอยากได้ลูกสาว เพราะลูกชายมีเเล้ว (เราคิดเสมอว่าเด็กผู้ชายคนนั้นคือลูกของเรา) พอเราพูดเรื่องนี้ขึ้นมารู้ไหม เเม่สามีบอกเราว่าไง ?? ลูกผู้หญิง ฟังเเล้วเจ็บปวด คือ ห้ามเรามีลูก !!! เราฟังเเล้วอึ้งมาก ! เเละก็เสียใจ น้อยใจด้วย แต่ก็ไม่ได้เเสดงออกอะไร ให้เหตุผลว่า เราต้องเลี้ยงหลานเขาเท่านั้นเพราะถ้าเรามีลูกออกมาเราจะรักลูกเรามากกว่า ซึ่งเราฟังเเล้ว คิดทำไมเเม่เห็นเเก่ตัวจัง ถ้าเรามีลูก เราก็รู้จักผิดชอบชั่วดีในการเลี้ยง เเต่บางคนอาจจะคิด รักลูกเรามากกว่า เเต่เรากลับคิดว่า ถ้าเรามีลูกจะได้มาเป็นเพื่อนเล่นกัน อารมณ์ของเด็กอาจจะแผ่วเบาลง ใจเย็นขึ้น และเด็กมันก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ ช่วยเหลือตัวเองได้เอง สามีกับเเม่ก็ทะเลาะกันเรื่องนี้อีก เชื่อไหม วันต่อมา เเม่สามีไปซื้อถุงยางให้เราเเทบจะเหมาหมดร้านขายยา !! มาให้ เพราะเราบอกว่าเราไม่ทานยาคุมนะ สามีโกรธ มากที่เเม่มาก้าวก่ายชีวิต ครอบครัวมากไป
4. เรื่องฉันสั่งต้องทำ ตอบค่ะอย่างเดียว ถามต้องตอบค่ะอย่างเดียว อืม.. ถามว่าอึดอัดไหม อึดอัดมาก ได้เเต่เก็บกดไว้เพราะไม่ยากให้แม่สามีเเละสามีเราทะเลาะกันบ่อย ๆ
5. เวลาเด็กคนนั้นพูดกับย่าว่า ไม่ชอบพ่อ ไม่ชอบเรา เพราะเราไม่เล่นด้วยไม่ตามใจ ไม่ให้กินขนมพ่อชอบด่า ตกใจ เเละกลัว เอาละงานน้ำตามา ไม่อยากไปบ้านพ่อ เมื่อเป็นเช่นจะเหลือเหรอ ??? แม่สามีก็โทรมาด่าใหญ่เลย ด่าเราด้วย #ไม่ฟังเหตุผลด้วยนะ
6. ความรู้สึกเหมือนเป็นคนใช้ ! ทำความสะอาดบ้าน สองบ้านชั้นต้องทำด้วย ร่วมกับเเม่บ้านหนึ่งคน เเม่เเกสั่ง ให้ทำกับข้าวให้เเกตอนเช้า เย็น ต้องมาทานด้วยกันเเต่ สามีไม่อยากไปทานด้วยเพราะไปเจอหน้าเเม่ทีไร ต้องทะเลาะกัน เพราะเเม่จะออกคำสั่ง มีหลายครั้ง ที่ฉันทำกับข้าวเเล้วอร่อยเเกจะไม่ชม เเต่จะบอกว่าซื้อมาจากไหนเราก็ได้เเต่ทำหน้า ถอนหายใจบอกว่า ทำเองค่ะ ไม่ได้ซื้อ หรือบางครั้งสามีสั่งของมาทาน อยากทานสองคนกับเมีย อยากมีเวลาส่วนตัว เอาละ เเม่เเกอาละวาด โทรมาด่าเราใหญ่ บอกว่า กินกันเเค่สองคน ไม่ชวนเขา !!! เเละก็จะชอบให้เราล้างห้องน้ำซักรองเท้าให้เเม่ ทำความสะอาดให้เเม่ เเละยังลามไปถึงบ้านพี่สาวเขา บอกเราต้องไปช่วยพี่สาวทำ เเละต้องไปทำกับข้าวให้พี่สาวสามีกินด้วย ! เอ้า ชีวิต วัน ๆ หนึ่งไม่ได้พักเลย ต้องคอยเเทคเเคร์คนนั้นคนนี้ ! เวลาส่วนตัวหรือดูเเลตัวเองไม่มีเลย สั่งให้เราทำนั้นทำนี้อยู่เรื่อย ๆ ไม่ถูกใจก็ด่า ด่าเเบบไม่รักษาน้ำใจ เราก็ได้เเต่อดทนเพื่อสามี
7. ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะไปไหน จะเเต่งตัวยังไง จะซื้ออะไร เเม่สามีก็จะเข้ามาจุ้นหมด ไม่ว่าจะย่างก้าวทำอะไร จะเข้ามายุ่งวุ่นวายไปหมด เราไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเลย หรือเวลาสวีทหรือออกเดทกับสามี เเทบไม่มีเลย เพราะเเม่สามีจะไม่ให้ไปต้องดูเเลลูกเอาลูกมาอ้าง เบื่ออีกอย่างคือ จะคอยถามว่าทำอะไร ทำอันนี้หรือยัง ทำอันนั้นหรือยัง หรือเลี้ยงเด็กคนนั้นอยู่ก็จะคอยมาบอกว่า อาบน้ำด้วยนะ กินอันนี้ด้วยนะ เวลาไปไหนทำไรห้ามด่านะ ใส่ชุดนี้ด้วยนะ กินยาอันนี้ด้วย ไปเที่ยวตรงนี้ด้วย ไปมายัง ? ทำไรอยู่ สอนการบ้านยัง ? เล่นด้วยไหม ? คือแบบ โอ๊ยยย ฉันอายุป่านนี้เเล้ว ฉันคิดเองได้นะ !! นี้มาควบคุมเเม้กระทั่งความคิด !!!
8. ปี ๆ หนึ่งเราไม่สบายหลายครั้ง เพราะพักผ่อนน้อยเเละเครียดเยอะสามีจะคอยดูเเลเอาใจใส่พาไปหาหมอ ไปนอนเฝ้า รพ. เอาละเเม่สามีมาละโรคยิ้มกำเริบ บอกเเม่ก็ไม่สบายนะ เจ็บตรงนั้นปวดตรงนี้ ไปหาหมอ ทำไม สามีเราไม่มาดูเเลเขาเเบบนี้บ้าง ? คือเขาไม่ได้ป่วยจริง เเต่เขาอยากเรียกร้องความสนใจจากลูกเขา เเต่กับเป็นเราที่คอยดูเเลเเม่เขาเเทน ซึ่งสามีก็จำเลือกที่จะทำงานแทนเพราะรู้ว่าเเม่ไม่ได้ป่วยจริง มีครั้งหนึ่ง เรานอน รพ. สามวันเพราะเป็นไข้สูง เเละต่อมทอนซิลอักเสบ เจ็บคอมาก ทานอะไรไม่ได้เลย คุณเเม่สามีก็เอาละ ชั้นก็เจ็บคอเหมือนกัน ชั้นจะไปหาหมอ ? แม่เเกบอก ไป รพ. เดียวกะชั้นด้วย เเล้วก็พูดประชดว่า จะเเต่งงานใหม่ดีกว่าจะได้มีสามีมาคอยดูเเลเอาเอาใจ เหมือนเรา #เราก็คิดว่า เเทนที่จะเป็นห่วงเรา ถามเราสักคำว่าเป็นอะไรมากไหม เป็นไงบ้าง ไม่มี มีเเต่คำประชดประชัน ซึ่งเราก็ได้เเต่อดทน เเต่ไม่เถียงไม่ตอบโต้ มาตลอด #จนสามี บอกว่า เราใจสวยมาก 555 (ความจริงเราก็โกรธ ก็เเค้นนะเเต่ พอปล่อยวางไม่คิดอะไร มันก็ลืมไปเอง)
ยังมีอีกเยอะสำหรับเรื่องเเม่สามี มันมีความกดดัน เก็บกด อึดอัด ตลอด 2 ปี โดนด่าตลอดไม่ว่าเราทำดีเเค่ไหนก็ตาม ไม่มีทางเห็น มีเเต่สั่ง ๆ ให้ทำนั่น ๆ นี่ ๆ ล่าสุดเราพาเด็กคนนั้นไปหาหมอ เเม่สามีก็ไปด้วย เเล้วถามเราว่าทำข้าวเย็นไว้ไหม เราบอกว่าทำ ข้าวห่อสาหร่ายไว้คะ เเกก็พูดคนมาทำหรือซื้อ ? ทำเผื่อเเกไหม ? หรือทำกินเเค่สองคนกับสามี เราฟังเเล้วเเบบ !! เสียใจอะ เราก็บอกว่าทำเผื่อคะ ทำไว้เยอะ ทานด้วยกันคะ แกไม่พอใจ คำพูดนี้ เเกต้องการให้พูดว่า แม่คะวันนี้หนูทำข้าวห่อสาหร่ายนะคะ วันนี้เรามาทานข้าวเย็นด้วยกันนะคะ เเละก็บอกอีกด้วย เวลาเรียกเขามาทานข้าวด้วยห้ามถามว่าว่างเปล่า ? เพราะถ้าเเม่แกตอบว่าไม่ว่าง เราก็จะไม่ชวนเขามากิน ! โอ๊ย ต้องให้พูดเชิญมากิน ไม่ต้องถาม ?? เอ้า เอาใจยากจริง ๆ พอเราบอกสามี เรื่องที่เเม่บอกว่าเราซื้อข้าวห่อสาหร่ายมา ไม่ได้ทำเอง เราเสียใจ สามีเราก็โกรธเเม่ว่าทำไมแม่ไม่รักษาน้ำใจ กันเลยเวลาพูด ก็ทะเลาะกันอีก หลังทะเลาะกันทีไร จะเหลือเหรอ ? เเน่นอนเราก็โดนด่าสิ แกบอกว่า ถ้าไม่ชอบ ไม่พอใจหรือมีความเครียดอะไร ให้พูดกับเขาตรง ๆ ไม่ต้องไปพูดกับสามี เราก็ เอ้า !!! เราเเต่งงานกับสามีนะ เเต่งเพราะรักเเละอยู่ด้วยกัน มีอะไรก็ต้องเล่าต้องระบายให้สามีฟังสิ จะเล่าให้พ่อเเม่เราฟังมากก็ไม่ได้เพราะท่านจะเป็นห่วง นี้ขนาดจะปรึกษาสามียังไม่ได้ โอ๊ย ตาย ๆ จำกัดเเม้กระทั่งความคิดเห็นเรา
ณ ตอนนี้พูดเลย อึดอัดมาก ร้องไห้บ่อยมาตลอดสองปี เหนื่อยต้องมาเอาใจ ดูเเลคนนั้นคนนี้ เเม่สามี พี่สาวสามี ลูกติดอีก เรายังคิดว่า ว่าทำไม เราต้องยอมทำขนาดนี้ เพราะเราอยากอยู่กับสามีไปนาน ๆ ไง จนมาตอนนี้เริ่มไม่เเน่ใจ มันทุกทรมานมากที่อยู่บ้านหลังนี้ จะขอกลับบ้านไปหาพ่อเเม่ เเม่สามีก็ไม่ให้ไป ! อยากมีลูกก็ไม่ไห้มี อยากทำงานนอกบ้านก็ไม่ไห้ทำ จนตอนนี้ไม่ไหวเเล้ว ทางเดียวที่จะหนีจากขุมนรกนี้ คือการหย่า เครียดมาก รักก็รัก อยากมีอิสรภาพก็อยากมี ยอมรับว่า มีเเค่เวลานอน เท่านั้นที่พอจะมีความสุข เพราะได้อยู่กับคนที่เรารัก นอกนั้นไม่มีความสุขเลย มันเหนื่อยมันท้อไปหมด ตอนนี้ก็คิดว่า เราเอาเวลาที่ดูเเลพวกเขากลับไปดูเเลพ่อเเม่เราดีกว่าไหม ? เราดูเเลพวกเขามากกว่าครอบครัวเราเสียอีก ร้องไห้ ๆ บ่อยมาก ทำไม พวกเขาใจเเคบ ใจดำกับเราจัง ! ไม่ถึงความดีที่เราทำเลย คิดนะเรายังสาว ยังสวย หาผัวใหม่ได้สบาย ๆ ฮ่า ๆ
เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในชีวิตจริงที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่คุณสามียังเข้าใจ … และเพื่อให้เกิดประโยชน์เพิ่มเติมนั้น วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็จะขอนำเสนอวิธีรับมือกับคุณแม่สามีมาฝากคุณแม่ ๆ ทุกท่านกันค่ะ
อ่านต่อวิธีการรับมือกับคุณแม่สามีได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
เครดิต: เว็บไซต์พันธิปดอทคอม และ Kapook
5 วิธีรับมือกับ แม่สามี
- อยู่ให้เป็น คำ ๆ นี้อาจจะฟังแล้วดูกล้ำกลืนฝืนทนไปบ้าง ที่จะต้องให้เรามานั่งฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ…แต่การอยู่ให้เป็น เข้าหาให้ถูกทาง เข้าหา เอาอกเอาใจเสมือนญาติผู้ใหญ่คนนึงบ้างอาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่สามีก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า อยากให้พวกเราให้ความสำคัญบ้างเท่านั้นเองค่ะ
- มองบวก พยายามมองว่า การที่เขาบ่น เขาว่า อาจจะเป็นเพราะเขาแค่เป็นห่วงลูกชาย อยากให้ลูกชายสบาย แม้ว่าจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วก็ตาม
- ปรึกษากับคุณสามี หมดยุคการเป็นนางเอกที่ต้องยอมเก็บทุกเรื่องราวไว้ในใจแล้วไปนั่งร้องไห้คนเดียว ในเมื่อคนที่คุณกำลังมีปัญหาอยู่ด้วยนั้น เป็นคุณแม่สามี อย่างน้อยการที่เราเล่าให้สามีได้รับรู้ถึงสถานการณ์บ้างก็อาจจะช่วยทำให้อะไร ๆ บรรเทาได้บ้าง
- ตอบโต้เมื่อจำเป็น ไม่มีใครอยากที่จะก้าวร้าวใส่ผู้ใหญ่หรอกค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณแม่ของคนที่เรารัก แต่ถ้ามันทนไม่ไหวจริง ๆ ก็คงต้องมีกันบ้าง แต่…ควรทำด้วยวิธีการไม่ก้าวร้าวกับผู้ใหญ่นะคะ มิเช่นนั้น ใครฟังเราพูดอาจจะทำให้เรากลายเป็นมารร้ายในสายตาของคนรอบข้างได้ทันที
- ให้คุณสามีจัดการ ข้อนี้อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำได้ ในเมื่อเป็นแม่ของเขา หากเขารับรู้แล้ว คนที่จะพูดกับแม่ได้ดีที่สุดก็คือ ตัวคุณสามีเองนี่ละค่ะ เขาจะต้องทำหน้าที่เป็นคนกลางที่ดี คอยไกล่เกลี่ยปัญหาให้ดีขึ้น
แล้วคุณแม่ ๆ ที่บ้านละคะ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับ แม่สามี นั้นยังดีกันอยู่หรือเปล่า ถ้าหากไม่ คุณแม่ ๆ มีวิธีการรับมือกันอย่างไรบ้างคะ
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่