เมื่ออายุเข้าเลข 4 ฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงในผู้หญิง เรียกว่า วัยหมดประจำเดือน แต่หากเกิดความเปลี่ยนแปลงในผู้ชาย เราเรียกว่า “ผู้ชายวัยทอง”
เทคนิครับมือ ผู้ชายวัยทอง เพียงแค่เข้าใจชีวิตก็เป็นสุขได้
ผู้ชายวัยทอง เป็นภาวะที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือแอนโดรเจนที่ลดต่ำลง ฮอร์โมนเหล่านี้เป็นฮอร์โมนเพศชายที่ถูกผลิตจากลูกอัณฑะ ทำหน้าที่เกี่ยวกับระบบเผาผลาญไขมัน (Metabolism) การสร้างกล้ามเนื้อเพศชาย ความแข็งแรงของโครงสร้างกระดูก เสียงที่ทุ้มหรือต่ำลง รวมถึงแรงขับทางเพศด้วย ซึ่งจะมีการผลิตฮอร์โมนดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นในช่วงวัยรุ่นและลดต่ำลงเมื่อแก่ตัวลง ทั้งนี้ การผลิตฮอร์โมนนี้จะค่อย ๆ ลดลงประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเมื่อย่างเข้าสู่อายุ 30 ปีเป็นต้นไป โดยวัยทองผู้ชายอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงอายุ 45-50 ปี และอาจมีอาการมากขึ้นในช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป
ผู้ชายวัยทอง มีอาการอย่างไร?
ผู้ชายแต่ละคน จะมีอาการวัยทองที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของแต่ละคน แต่จะมีอาการวัยทองที่คล้าย ๆ กันดังนี้
- อารมณ์แปรปรวน เครียด มีอาการซึมเศร้า
- เบื่อง่าย หงุดหงิดง่าย
- อ้วนลงพุง เพราะการเผาผลาญไขมันในร่างกายลดลง ในบางรายอาจมีไขมันส่วนเกินสะสมที่หน้าอก
- นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย มีสมาธิลดลง และมีปัญหาเกี่ยวกับการจดจำสิ่งต่าง ๆ
- มีอาการร้อนวูบวาบ
- อาจเกิดโรคกระดูกพรุน เพราะมีความแข็งแรงของกระดูกลดลง
- ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง ทำให้ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเหมือนก่อน
- หย่อนสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน มีลูกยาก อัณฑะมีขนาดเล็กลง
- หัวล้าน ผมบาง ผมร่วง รวมถึงขนตามร่างกายก็อาจร่วงได้ด้วยเช่นกัน
- ไม่มั่นใจในตนเอง ไม่มีแรงจูงใจในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ ผู้ชายวัยทอง ต่างจากผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหรือไม่?
ผู้ชายวัยทอง ต่างจากผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหรือไม่?
ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เกิดจากการหยุดการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนของผู้หญิงในรังไข่ จึงทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งต่างจากวัยทองของผู้ชาย เพราะเมื่อมีอายุมากขึ้น การผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนของลูกอัณฑะจะค่อย ๆ ลดลงและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและอารมณ์ แต่ก็ยังคงมีการผลิตฮอร์โมนดังกล่าวอยู่ และแม้จะลดการผลิตฮอร์โมนเพศลงไปก็ตาม (ต่างจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิงจะหยุดการสร้างไปเลย) ดังนั้น ผู้ชายที่เข้าสู่วัยทอง จนถึงผู้ชายที่มีอายุ 80 ปี ร่างกายก็จะยังสามารถผลิตสเปิร์มได้ต่อไป เพียงแต่ลดปริมาณลง
ปัจจัยอื่น ๆ ที่นำไปสู่ภาวะวัยทองได้เร็วขึ้น
ปัจจัยหลักที่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง คือ อายุ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้ชายเข้าสู่วัยทองได้เร็วกว่าปกติ นั่นคือ
- กรรมพันธุ์
- การทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ความเครียด
- ความอ้วน
- การขาดสารอาหารบางชนิด
- มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น ความดันเลือดสูง เบาหวาน เป็นต้น
- ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เป็นประจำ
- ยาบางชนิดก็ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงได้
- การออกกำลังกายที่มากเกินไป
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ อยากเป็นหนุ่มนาน ๆ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้
อยากเป็นหนุ่มนาน ๆ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้
แม้ว่าปัจจัยหลักของอาการวัยทองนั้นมาจากอายุ แต่ปัจจัยอื่น ๆ ที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นก็ส่งผลต่ออาการวัยทองได้เช่นกัน ดังนั้น หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ ก็อาจช่วยยืดเวลาของอาการวัยทองได้ไม่มากก็น้อย
- อาหาร ควรทานอาหารที่มีประโยชน์ ถูกสัดส่วน ไม่มากหรือน้อยเกินไป ทานอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และ ไขมันให้น้อยที่สุด เลี่ยงอาหารรสหวาน เน้นทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศชาย เช่น ผักใบเขียว ถั่ว ไข่แดง แตงโม หรือหอยนางรม (ผู้ที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูงต้องระวัง ควรปรึกษาแพทย์และเลือกรับประทานให้เหมาะกับร่างกาย)
- ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายเป็นประจำและสม่ำเสมอ โดยเน้นชนิดกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ปั่นจักรยาน ตีสควอช วิ่ง เป็นต้น
- จิตใจ มองโลกในแง่ดีและรู้วิธีจัดการกับความเครียด ซึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างดีคือ กำลังใจและความเข้าใจจากคนในครอบครัว
- พักผ่อน ควรให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยควรนอนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนดึก เพราะฮอร์โมนเพศชายจะสร้างตอนกลางคืน
- งด ปัจจัยที่เร่งให้เกิดภาวะวัยทองได้เร็วขึ้น เช่น การดื่มเหล้า และ การสูบบุหรี่ เพราะนอกจากจะเร่งให้เกิดภาวะวัยทองและ ยังทำลายสุขภาพร่างกายในด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ภาวะวัยทอง เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อวันเวลาผ่านไป อายุของทุก ๆ คนก็จะต้องเพิ่มมากขึ้น เราไม่สามารถยับยั้งกฏของเวลาได้ แต่หากผู้ชายคนนั้น รู้จักเรียนรู้และยอมรับในความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย พร้อมทั้งเอาใจใส่ ดูแลร่างกายและจิตใจ ให้แข็งแรง พร้อมทั้งจัดการกับชีวิตต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมลงตัว ผู้ชายคนนั้นก็อาจจะก้าวข้ามผ่านวัยทองของชีวิตได้โดยไม่มีปัญหาอะไร และยังมีความสุขไปกับภาวะนี้ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำอื่น ๆ พร้อมทั้งหาทางออกในการรักษาภาวะนี้ร่วมกัน โดยแพทย์อาจรักษาโดยการรับฮอร์โมนทดแทน ที่มีทั้งรูแบบยาเม็ด เจล แผ่นแปะผิวหนัง การฝังหรือฉีดฮอร์โมน ทั้งนี้ควรปรึกษาถึงข้อดีข้อเสียถึงการใช้ฮอร์โมนนี้ก่อนเสมอ
อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก
นักวิจัยค้นพบ! ยาฉีดคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ ไม่ต้องทำหมัน ประสิทธิภาพสูงเกือบ 100%
พ่อสูบบุหรี่ ผลต่อลูก ทำร้ายได้ถึง 20 เท่า!!
วัคซีนผู้ใหญ่ ใครว่าไม่สำคัญ พ่อแม่ควรฉีดถ้าอยากอยู่กับลูกไปนานๆ
ข้อมูลอ้างอิง : www.bangkokhospital.com, www.pobpad.com, หมอชาวบ้าน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่