อีกหนึ่งเรื่องราวเตือนใจ สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่อยากผอมทางลัด โดยหันมาทาน ยาลดน้ำหนัก แทนการบริหาร!
เรื่องราวนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เป็นที่แพร่หลายอย่างมากในโลกโซเชียลจากสมาชิกเฟซบุ๊กนามว่า Ssaddy Lee โดยเธอได้เขียนเรื่องราวนี้ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อเป็นการเตือนสติผู้หญิงทุกคนที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการหาซื้อยามารับประทาน แทนการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร
คุณ Ssaddy Lee ได้เปลี่ยนยาลดน้ำหนักมาหลายยี่ห้อ จนกระทั่งมาเจอกับยาที่ทำให้ร่างกายของเธอถึงกับต้านทานไว้ไม่อยู่ จนหูดับและเกือบเป็นอัมพาต … เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไร ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
“รีวิวยาลดน้ำหนัก ยาวนิดนึงแต่อยากให้หลายคนได้อ่าน
#เตือนคนที่กินหรือคิดที่จะกิน #ไม่อยากตายอ่าน
#เลิกโง่ตกเป็นทาสยาลดน้ำหนัก
#ถ้าคิดว่าฉันมั่วไปเสิร์ช google หรือถามหมอที่รพได้
ฉันเองก็เป็นหนึ่งคนที่อยากจะลดน้ำหนัก ประเด็นคืออยากลดแค่เฉพาะขา เพราะส่วนบนเราไม่ได้อ้วนมาก เลยคิดถ้าน้ำหนักลดลงไปเท่า ๆ เดิม รูปร่างมันคงจะลดตามลงไปเอง ด้วยความขี้เกียจ+อยากผอมไว+โง่ ก็ลองซื้อยาลดน้ำหนักตัวแรกมากิน กินช่วงแรกก็รู้สึกใจสั่นนิด ๆ หน่อย ๆ จนหมด 1 ชุด ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย 555555 เปลี่ยนมากินอีกแบบ หมดไปอีก 1 ชุด ก็ไม่ได้เห็นผลอะไรมากมาย สรุป กินมา 2 ตัว ไม่เห็นผล เลิกกินไปเสียดายตังค์ หยุดมาประมาณเกือบ ๆ ปี แต่ก็คือใจก็ยังอยากลดขาอยู่ ทำไงก็ไม่ลด กินน้อย เลิกกินดึก ไม่ลด ตัดสินใจซื้ออาหารเสริมลดนนตัวนึงมากิน นั่นแหละจุดพีคเลย
อ่านต่อเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
คือกินวันแรกมีอาการใจสั่นเป็นพัก ๆ นอนไม่หลับ นอนไม่หลับเลยนะ ไม่ง่วง หลับได้ 2-3 ชม.ต่อวัน แต่ไม่รู้สึกว่าง่วง แล้วก็ไม่หิวเลย ไม่อยากกินอะไรเลย เราก็พยายามกิน ๆ เข้าไปบ้าง วันที่ 4 ถึงเริ่มนอนหลับได้บ้าง แต่ยังมีอาการใจสั่น เป็นงี้เรื่อย ๆ กิน 6 วัน น้ำหนักลด 3 โลเลยจ้า จนวันที่ 7 กินยาปกติตอนเช้า ระหว่างวันก็มีใจสั่นเปนพัก ๆ ก็ไม่ได้สนใจไร คืดว่าปกติ อ้อคือเราปรึกษาคนขายแล้วเค้าบอกว่าเปนอาการช่วงแรก ยามันกำลังปรับตัวกับร่างกาย แต่คิดว่าร่างกายเราคงรับยาไม่ไหวจริง ๆ 555555555555
คืนนั้นแบบนอน ๆ อยู่ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วมากกกกก ๆ เริ่มรู้สึกชาตามเท้าและมือ หลังขึ้นมาราวหัวไหล่ ท้ายทอย กกหูและสมอง หูดับทันที ตกใจมากคือรีบลุกเลย ไม่กล้านอนต่อกลัวมาก ๆ ให้แฟนพาไปรพ. ทันที ตอนเจาะเลือดไปตรวจ เลือดฉันหนืดข้นมาก ดูดแทบไม่ขึ้นอะคิดดู ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเลือดไม่ไหลเวียน สรุปคือ หมอบอกเรามีภาวะขาดน้ำขั้นรุนแรง สารอาหารในร่างกายไม่เหลือไปเลี้ยงเลือด หัวใจเต้นพริ้ว คนปกติเวลาตื่นเต้น ตกใจจะเต้น 100 ของเราเต้น 130/นาที ถ้ามาช้ากว่านี้หัวใจอาจจะวายได้ เพราะมันทำงานหนักจนเกินไป และที่ชาตามร่างกายคือเลือดมันไม่ไปเลี้ยง ทำให้ชา ปล่อยไว้นานคือ เซลล์ตายเป็นอัมพาตได้ ลำไส้ไม่ทำงาน คือนิ่งเลย ไม่มีการย่อยอาหารใด ๆ เราต้องฉีดยา calm down ให้หัวใจเต้นช้าลง และหมอต้องให้เติมน้ำเกลือและวิตามิน 6000 cc เพื่อทดแทนน้ำที่ขาด
คุณหมอบอกว่า ในยาลดน้ำหนักแทบทุกตัวมีสารประกอบที่อันตรายต่อร่างกายอยู่แล้ว เช่น
- Phentermine มันจะกดประสาทลดความอยากอาหาร ไม่หิว กินน้อย เบื่ออาหาร
- ยาไทรอยด์ฮอร์โมน เพื่อเผาผลาญพลังงาน แต่มันก็จะทำลายโปรตีนของกล้ามเนื้อ สาเหตุที่ทำให้ใจสั่นนี่แหละ
- มียาขับปัสสะวะ ยาระบาย คือมันขับน้ำออกจากร่างกาย แต่มันจะเอาวิตามินและแร่ธาตุออกไปด้วยเช่นกัน เพื่อลดมวลในร่างกาย
อ่านต่อเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
เวลาชั่งน้ำหนักก็ดีใจน้ำหนักลดลง 555555555 พอร่างกายขาดน้ำสารอาหารมาก ๆ สมองก็เบลอ หัวใจทำงานผิดปกติ หัวใจวาย ตายจบ บางตัวมีสาร เอมเฟตามีน คือกินละรู้สึกปากแห้งคอแห้ง ที่มันบอกว่าให้จิบน้ำเยอะ ๆ นั่นแหละจ้า ทำให้นอนไม่หลับ กระวนกระวาย รวม ๆ แล้วไม่มีไรดีเลย5555555555
หมอบอกฉันว่า โชคดีนะทานแค่ 7 วันแล้วอาการกำเริบหนักมาเลย รักษาทัน บางคนแข็งแรงต้านทานสารพวกนี้ไหวก็นานหน่อย 2-3 เดือน 5 เดือน บางคนเป็นปี ๆ เพิ่งออกอาการก็มี บางคนจะไปออกฤทธิ์ตอนแก่ หมอบอกบางคนอาการหนักกว่านี้ก็มี มือสั่น ตัวสั่น จิตหลอน พูดคนเดียว คือรวมๆแล้วยาลดความอ้วนทำให้เป็นบ้าได้อะ
ฝากไว้สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก ถ้าไม่อยากตายไว อย่าทาน ฉันเคยไม่เชื่อ เพราะฉันทานแล้วก็เคยไม่เป็นไรสบายดี แต่เชื่อเหอะ มันไม่ดีจริง ๆ ถ้าอยากลดความอ้วนแนะนำไปพบแพทย์โดยตรง ไม่ก็ออกกำลังกาย มันไม่เห็นออกผลตอนนี้ ถ้าคุณยังทานไปเรื่อย ๆ ก็คอยดูได้เลย หยุดทานก่อนจะสายเกินไป555555555 ตอนนี้ถึงจะรักษาอาการดีขึ้นแล้ว แต่เอฟเฟคยายังอยู่นะอีกนานกว่าจะหายดี เสียทั้งเงินทั้งสุขภาพ สุดท้ายได้โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะกลับมาด้วย ต้องกินยา cardenol ลดอัตราการเต้นให้ช้าลง ทำไรก็เหนื่อยง่ายมาก อาบน้ำยังเหนื่อย ซื้อยาลดหลักร้อย เสียค่ารักษาหลายหมื่น ได้ของแถมโรคอีกเพียบ คุ้มไหม ถามใจดู5555555555555 เศร้าใจ
ใครขี้เกียจอ่านฉันสรุปให้ฟัง
#ยาลดความอ้วนทานแล้วไม่ตายก็เป็นบ้า
#ใจสั่นหัวใจเต้นเร็วนอนไม่หลับปากแห้งคอแห้งไม่หิวข้าว
#ย้ำอีกทีอาการใจสั่นตัวชาเต้นเร็วไม่ใช่อาการปกติของการปรับตัว
#อาการใจสั่นเต้นเร็วมึนเบลอนอนไม่หลับคืออาการแพ้ยา
#ยาลดน้ำหนักหยุดกินแล้วโยโย่หรือได้โรคประจำตัวกลับมา
#มันไม่ได้ปรับตัวกับร่างกายแต่มันทำลายร่างกายคุณ
#กินแล้วน้ำหนักลดจริงไม่ลดได้ไงมันดูดน้ำกะสารอาหารออกไปหมด
ปล1. ยาลดเฉพาะส่วนเช่น แขน ขา ไม่มีอยู่จริง ออกกำลังกายเท่านั้น ถึงลดสัดส่วนได้
ปล2. ยาลดน้ำหนักมีจริงแต่ไปปรึกษาและซื้อกับแพทย์เท่านั้น เหมือนคุณป่วยละไปหาหมออะ
ปล3. ฉันไม่ได้กินยาเถื่อน ราคาหลักพัน มีอย. มีมาตรฐาน ทำจากสมุนไพร ของหมอของหมา วางขายร้านยาไรก็อย่าทาน มันหลอก!! จบ
ปล4. ไม่ต้องถามว่ากินยี่ห้อไหนของอะไร ไม่บอกไม่โจมตีแบรนด์ ขึ้นชื่อว่ายาลดน้ำหนักมันก็คือสารประกอบตัวเดียวกัน จบ
ปล5. ไม่เชื่อไม่เป็นไร ไว้ไปเชื่อหมอที่โรงบาลตอนนอนเติมน้ำเกลือบนเตียงแบบฉันก็ได้ 55555555
อ่านต่อ >> 5 โทษของยาลดน้ำหนัก
เครดิต: TNews และ Ssaddy Lee
5 โทษของ ยาลดน้ำหนัก
1. โทษจากยาลดความอ้วน กระตุ้นการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานมากกว่าปกติ เมื่อกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ จึงทำให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน เลือดที่ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ในร่างกายอาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้หัวใจต้องทำงานมากเกินกว่าปกติซึ่งเป็นตัวการทำให้สุขภาพภายในร่างกายแย่ลงเป็นอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นข่าวคนที่ทานยาลดความอ้วนแล้วเสียชีวิต
2. เพิ่มความดันในกระแสโลหิต ยาลดความอ้วน ทำให้ความดันในกระแสโลหิตผิดปกติ เพราะเลือดเข้าไปสูบฉีดไม่เพียงพอต่อการใช้งานของร่ายกาย ซึ่งเป็นผลจากการทานยาลดความอ้วน แล้วอดอาหาร การอดอาหารยังเป็นการทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ขาดพลังงาน เมื่อร่างกายไม่มีพลังงาน แต่ใช้พลังงานมากกว่าปกติ จึงทำให้สุขภาพย่ำแย่ลงเป็นอันมาก
3. นอนไม่หลับ เพราะยาลดความอ้วนไปกดประสาท ยาลดความอ้วน จะเข้าไปกดประสาท ทำให้ประสาทส่วนกลางสั่งการให้อดอาหาร ทำให้มีผลข้างเคียงเพราะร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่ควรได้รับเช่น ผิวแห้ง ปากแห้ง คอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ อาการกดประสาทอาจทำให้หลอน จนติดยา หากใช้ไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรง ประกอบกับไม่ได้รับสารอาหาร อาจทำให้เสียชีวิตได้
4. กดความอยากอาหาร ผลเสียยาลดความอ้วน การใช้ยาลดความอ้วนอาจะเป็นผลดีในระยะแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นจะทำให้คุณรู้จักโทษของยาลดความอ้วนเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเมื่อระบบประสาทถูกส่วนกลางถูกกดทับ ระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายก็จะทำงานผิดปกติไปด้วย ยิ่งไม่ได้รับสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามิน ที่มีประโยชน์เข้าไปบำรุงเพาะเลี้ยงร่างกายไปนาน ๆ จะทำให้สุขภาพกาย และสุขภาพจิตย่ำแย่ลง หรืออาจทำให้เสียชีวิตลงได้
5. ยาลดความอ้วนทำให้เสียชีวิต ยาลดความอ้วนทำให้เสียชีวิต การเสียชีวิตจากยาลดความอ้วน เพราะตัวยาทำให้เราอดอาหาร เมื่อเราอดอาหารไปนาน ๆ ประกอบกับอาการกดทับปราสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ ระบบไหลเวียนโลหิต ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ สมอง หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายยังทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นจนเกิดอาการช็อก และเสียชีวิตในที่สุด
เมื่อโทษมันเยอะขนาดนี้แล้ว หากคุณแม่อยากสวยอยากผอมละก็ หันมาควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยกันดีกว่าค่ะ คราวนี้แหละ ผอม สวย ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงจริงแท้แน่นอน
เครดิต: Thai Fit
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่