AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เตือนแม่ท้อง! ระวัง ไวรัสซิการะบาด กทม.

ไวรัสซิการะบาด ในกรุงเทพ! เตือนพ่อแม่เฝ้าระวังตัวเองและคนในครอบครัวให้ดี!

 

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครได้เปิดเผยว่า ในขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวๅ นพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานครแล้วจำนวน 60 ราย ซึ่งการแพร่กระจายของโรคนั้นพบในพื้นที่ 27 เขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตบางนา และเขตสวนหลวง และในจำนวนดังกล่าว ยังพบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้วจำนวนทั้งสิ้น 4 ราย

ล่าสุด กทม. ได้จัดทำมาตรการควบคุมการแพร่กระจายของโรคดังกล่าวด้วยการ ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด โดยดำเนินการกำจัดยุงและแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย กระตุ้นให้ชุมชนและอาสาสมัครมีส่วนในการป้องกันควบคุมโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงตั้งครรภ์ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ของโรคอย่างต่อเนื่อง

ทำความรู้จักโรคเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไป


เครดิต: Matichon

 

ไวรัสซิการะบาด อะไรคือสาเหตุ

เชื้อไวรัสดังกล่าว เป็นเชื้อในตระกูลเฟลวิไวรัส มีลักษณะคล้ายคลึงกับไวรัสไข้เหลือง  ไวรัสเดงกี  ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออก รวมทั้งไวรัสเวสต์ไนล์ที่เป็นสาเหตุของไข้สมองอักเสบ และเชื้อไข้สมองอักเสบจีอี   ทั้งหมดเกิดจากยุงลายเป็นพาหะ   เชื้อไวรัสนี้พบได้ในแถบประเทศแอฟริกา ทวีปอเมริกา  ทวีปเอเชียใต้  และหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก

อาการของโรค

ไวรัสดังกล่าวจะฟักตัวโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 4 – 7 วัน ซึ่งอาการที่พบได้แก่

 

ใครคือกลุ่มเสี่ยงบ้าง คลิก!

 

กลุ่มเสี่ยงของโรคดังกล่าวนี้ ได้แก่

พาหะนำโรค

ยุงลายบ้าน ถือเป็นตัวการสำคัญที่นำพาเชื้อไวรัสดังกล่าวมาสู่คน และแพร่กระจายในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งยุงลายบ้านเป็นพาหะนำไข้เหลือง ไข้เลือดออก และไวรัสชิคุนกุน ความรุนแรงของไวรัสซิกาเป็นเชื้อโรคที่อันตรายและร้ายแรงมาก  ปัจจุบันทำได้แค่เพียงควบคุมและลดปริมาณในการขยายตัวของยุงลาย  โดยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคนั่นเองค่ะ

วิธีการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

1. ปิดปากภาชนะเก็บน้ำด้วยผ้า ตาข่ายไนล่อน อะลูมิเนียม หรือวัสดุอื่นที่สามารถปิดปากภาชนะเก็บน้ำนั้นได้อย่างมิดชิด จนยุงไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปวางไข่ได้
2. หมั่นเปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน ซึ่งเหมาะสำหรับภาชนะเล็ก ๆ ที่มีน้ำไม่มากนัก เช่น แจกันดอกไม้สด ทั้งที่เป็นแจกันที่หิ้งบูชาพระ แจกันที่ศาลพระภูมิ หรือแจกันประดับตามโต๊ะ รวมทั้งภาชนะและขวดประเภทต่าง ๆ ที่ใช้เลี้ยงต้นพลูด่าง ฯลฯ
3. ใส่ทรายในจานรองกระถางต้นไม้ ใส่ให้ลึกประมาณ 3 ใน 4 ของความลึกของจานกระถางต้นไม้นั้น เพื่อให้ทรายดูดซึมน้ำส่วนเกินจากการรดน้ำต้นไม้ไว้ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับกระถางต้นไม้ที่ใหญ่และหนัก ส่วนต้นไม้เล็กอาจใช้วิธีเทน้ำที่ขังอยู่ในจานรองกระถางต้นไม้ทิ้งไปทุก 7 วัน
4. การเก็บทำลายเศษวัสดุ เช่น ขวด ไห กระป๋อง ฯลฯ และยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้ หรือคลุมให้มิดชิดเพื่อไม่ให้รองรับน้ำได้
5. บริเวณที่ปลูกต้นไม้ หากมีต้นไม้เยอะๆ ก็ทำให้มียุงเยอะ เพราะยุงจะชอบเกาะพักอยู่ในที่มืด ๆ อับ ๆ ควรแก้ไขให้ดูโปร่งตาขึ้น ถ้าเป็นต้นไม้ประดับในบริเวณบ้าน ก็ต้องคอยสังเกตุว่ารดน้ำมากไปจนมีน้ำขังอยู่ในจานรองกระถางหรือเปล่า พยายามเทน้ำทิ้งบ่อย ๆ

การรักษา

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ปัจจุบันวงการแพทย์ยังคงไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยารักษาเฉพาะโรคนี้ สิ่งที่ทำได้ก็คือการรักษาตามอาการเท่านั้น

ซึ่งวิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การทำลายแหล่งเพาะยุง และพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ ๆ มีการระบาดค่ะ

อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids