AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

แนวสอนดี! ดู๋ สัญญา ให้ลูกชายฝึกงานช่วงปิดเทอม เรียนรู้ความลำบากกว่าจะหาเงินได้

ถือเป็นอีกหนึ่งแนวคิดในการเลี้ยงลูกที่ดี ของคุณพ่อ ดู๋ สัญญา คุณากร กับการสอนลูกชายสุดหล่อ “น้องเอม” ที่ตอนนี้อายุ 17 ปี และใกล้จะเรียกจบชั้นมัธยมศึกษาแล้ว ให้ฝึกทำงานในช่วงปิดเทอม

กลายเป็นกระแสที่สังคมชาวโซเชี่ยลต่างพากันยกนิ้วให้กับการเลี้ยงลูกที่ทางพ่อดู๋ได้แนะนำแนวทางอาชีพให้กับลูกชาย เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาปิดภาคเรียน 3 เดือนเต็มๆ โดยส่งให้ลูกไปฝึกงานในสายอาชีพต่างๆ เพื่อถือเป็นการค้นหาตัวเองตั้งแต่ยังเด็กๆ และเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์การทำงานให้ตัวเองไปอีกทางหนึ่ง

แนวสอนดี! ดู๋ สัญญา ให้ลูกชายฝึกงานช่วงปิดเทอม เรียนรู้ความลำบากกว่าจะหาเงินได้

โดยพ่อดู๋ สัญญา ได้โพสต์ภาพลูกชายขณะทำงานเป็นพนักงานโรงแรมในช่วงปิดเทอม ซึ่งทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับและคอยยกกระเป๋าที่โรงแรมชื่อดัง Renaissance Hotel Bangkok พร้อมแคปชั่นว่า

“ตอนนี้เอมอายุ17 สองปีแล้วที่ผมทำแบบนี้ เมื่อลูกปิดเทอม ผมจะให้ลูกหางานทำ หาที่ฝึกงาน ให้ได้รู้จักชีวิตคนทำงาน ต้องตื่นเช้า กลับค่ำ รถติด เดินทางเองด้วยระบบขนส่งสาธารณะ อดทน เป็นผู้รับใช้ ให้บริการผู้อื่น ทำวันละ8ชั่วโมง ให้รู้ว่า กว่าผู้คนจะหาเงินมาเลี้ยงตน เป็นอย่างไร……

โชคดีจัง …. ลูกเห็นด้วย

ขอบคุณเป็นอย่างสูง Renaissance Hotel Bangkok ที่กรุณารับเขาฝึกงานครับ”

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : IG @sanyakunakorn

อ่านต่อ >> ดู๋ สัญญา เผยข้อคิดไม่เคยสอนให้ลูกโตขึ้นไปเป็นเจ้าคนนายคน” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

นอกจากนี้คุณพ่อดู๋ ยังเล่าถึงการทำงานของลูกชายว่า

“จริง ๆ งานที่ลูกทำก็ไม่ได้ลำบากมาก หรือยิ่งใหญ่มากแต่อย่างใด แต่ผมสอนเขาว่า งานทุกงานมีคุณค่าเสมอ อยู่ที่แง่มุมมองและกำลังสติปัญญาของเรา ว่าเข้าใจอย่างถ่องแท้หรือไม่ … ผมไม่เคยสอนให้ลูกโตขึ้นไปเป็นเจ้าคนนายคน … ถ้าทุกคนเป็นนายหมด ใครจะเป็นผู้ปฏิบัติ แล้วโลกจะขับเคลื่อนอย่างไร….”

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : IG @sanyakunakorn

งานนี้ทำเอาแฟนคลับต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมและเห็นด้วยกับแนวคิดของคุณพ่อดู๋ กับวิธีการสอนให้ลูกเรียนรู้ชีวิตการทำงาน และทำให้ลูกเห็นคุณค่าของเงินที่กว่าจะได้มา ซึ่งหลายคนยกย่องให้เป็นคุณพ่อตัวอย่างเลยล่ะค่ะ

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

ทั้งนี้ในการให้ลูกฝึกทำงานพิเศษ หารายได้ช่วงปิดเทอม มีข้อดีหลายอย่าง ยิ่งถ้าลูกขอทำเองล่ะก็ ยิ่งดีใหญ่! แต่ก่อนลงสนามจริง คุณพ่อคุณแม่ควรสำรวจความพร้อมของลูก และแนวทางในการให้ลูกทำงานพิเศษกันก่อนดีกว่า

การให้ลูกทำงานพิเศษมีข้อดีหลายอย่าง ยิ่งถ้าเขาขอทำเองล่ะก็ ยิ่งดีใหญ่! เดฟ รีเลย์ ผู้ช่วยคณบดี คณะสังคมวิทยาความสัมพันธ์มนุษย์ แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ให้คำแนะนำว่า หากเด็กๆ เกิดฮึดอยากหางานพิเศษทำละก็ ขั้นแรกให้พ่อแม่ลองสำรวจก่อนว่าลูกพร้อมแล้วจริงๆ ด้วยการตอบคำถาม 3 ข้อนี้

  1. การรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้า

ลูกจะรับมือปัญหาเฉพาะหน้าได้ไหมถ้าเจอเรื่องยากๆ หรือมีอุปสรรคในการทำงาน อย่างตอนที่ทำถังล้มคว่ำน้ำหกเปียกพื้น เขาสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยตนเองหรือเปล่า ก็เวลาทำงานจะวิ่งกลับมาตามให้พ่อแม่ไปช่วยทุกครั้งไม่ได้นี่นา

  1. ความมุ่งมั่นของลูก

เขาจะมุ่งมั่นทำงานไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า งานที่ต้องทำเป็นประจำ อย่างเช่น รดน้ำต้นไม้ หรืออาบน้ำให้เจ้าตูบของคุณน้าข้างบ้าน ลูกจะไม่เบื่อแล้วเลิกล้มความตั้งใจไปก่อนแน่หรือ คำใบ้อยู่ที่ ลูกเคยงอแงตอนที่ทำกิจกรรมนอกเวลาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำหรือคอร์สดนตรีหรือเปล่า เพราะกรณีนี้ก็คงไม่ต่างกันสักเท่าไร

  1. ลูกกระตือรือร้นแค่ไหน

ถ้าหากว่าถูกปฏิเสธสักครั้งเวลาผลงานไม่เป็นที่พอใจเขาจะยอมแพ้หรือว่าสู้ต่อ

อ่านต่อ >> “ประโยชน์ในการให้ลูกฝึกทำงานพิเศษช่วง” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ถ้าหากว่าลูกผ่านแบบทดสอบเบื้องต้นทั้งหมดแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลามาช่วยผลักดันคนขยันเบอร์หนึ่งกันแล้ว

งานในบ้านเป็นงานที่ปลอดภัยและเหมาะกับก้าวแรกของการเรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบมากที่สุด มอบหมายภารกิจพิเศษนอกเหนือจากงานบ้านที่เขาต้องทำประจำ และมีค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้ อย่างเช่น ช่วยคุณแม่ช้อนลูกน้ำออกจากกระถางบัวหน้าบ้าน หรือช่วยนวดคลายปวดเมื่อยให้คุณพ่อหลังกลับจากทำงาน อย่าลืมชี้ให้เด็กๆ เห็นจุดที่บกพร่องและเอ่ยชมเวลาที่เขาทำภารกิจนั้นๆ ได้ดี ลูกจะได้เริ่มเข้าใจความคาดหวังของนายจ้าง (ที่ต้องจ่ายเงินให้งานที่เขาทำ)  มากขึ้น

เรื่องที่ลูกของคุณลองทำงานหารายได้ดูบ้างไม่แน่ อาจมีงานแปลกๆ ที่น่าสนใจให้ลูกได้เรียนรู้

อาจเริ่มต้นจากความสนใจหรือความสามารถพิเศษของเขา เช่น ทำงานฝีมือง่ายๆ ออกขายหรือรับเล่นดนตรีในงานเลี้ยงเล็กๆ

ถึงอย่างไรลูกก็ยังเป็นเด็ก ทางที่ดีเลือกทำงานกับคนที่รู้จักนิสัยใจคอกันดี และไม่ใช่งานที่ไกลหูไกลตาพ่อแม่มากเกินไป ที่สำคัญต้องสอนลูกให้รู้จักระมัดระวังตัวด้วยนะ

ความมุ่งมั่นในการทำงานมีประโยชน์ต่อเด็กอย่างไร?

เด็กที่มีความมุ่งมั่นในการทำงาน จะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง ดังนี้

และเมื่อลูกเริ่มเข้าเรียนระดับมัธยมปลาย หรือระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งลูกเริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น พ่อแม่อาจสนับสนุนให้ลูกทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม เช่น เป็นพนักงานในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือรับจ้างสอนพิเศษ หากลูกเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบทำของน่ารักกระจุกกระจิก อาจแนะนำให้ลูกทำของออกมาขายเป็นสินค้า Hand-made เช่น กิ๊บติดผมน่ารักๆ ซองใส่มือถือเก๋ๆ รวมถึงสามารถใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางในการขายของได้ ทั้งนี้ พ่อแม่ไม่ควรบังคับให้ลูกไปทำงานพิเศษ เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกต่อต้าน หรือไม่มีความสุขในการทำงาน แต่ควรสอนหรือแนะนำข้อดีของการทำงานว่าลูกจะได้อะไร ซึ่งการทำงานพิเศษถือเป็นบทเรียนสำคัญในการสอนลูกให้มีความรับผิดชอบ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงเป็นการสร้างรายได้เสริมให้ตัวเอง

เพราะไม่มีใครเคยประสบความสำเร็จอะไรทั้งที่ยังเกียจคร้าน ผู้ใหญ่ควรสอนให้เด็กเห็นว่า ความขี้เกียจ ความเกียจคร้านเป็นสิ่งที่น่ากลัว เป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องเอาชนะ เราสามารถเอาชนะความเกียจคร้านได้ ด้วยวิริยะ ด้วยจิตริเริ่มที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ ด้วยความเพียรพยายาม ด้วยมีความอดทนต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานต่างๆ ถ้าเราไม่ขยัน ไม่มุ่งมั่นในการทำงาน สิ่งที่ควรได้จากชีวิต จะไม่เกิด ทั้งๆที่เราเป็นคนฉลาด รู้เข้าใจทุกอย่าง ความขยัน ความอดทนมุ่งมั่นในการทำ งาน จะทำให้เราเป็นที่รักของคนอื่น คนขยันจะเป็นผู้สร้างประโยชน์ได้มาก ความขยัน อดทน มุ่งมั่น ใจสู้ จึงเป็นคุณธรรมสำคัญที่ต้องสร้างให้เกิดขึ้นในเด็ก เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนต้องฝึกฝน ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสาร Amarin Baby & Kids