AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

นักวิจัยพัฒนา! ข้าวไทยตัวยาช่วยลด คลอเลสเตอรอลในเลือด

เครดิต: BBC และ TOSCAT

ทีมวิจัยไทยสุดเจ๋ง! พัฒนาข้าวไทยเป็นยาลด คอเลสเตอรอลในเลือด ได้!

 

 

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่รู้ว่า ข้าวไทยของเรานั้นมีประโยชน์มากมายใช่แค่เพียงช่วยให้อิ่มท้องเท่านั้น ยังมีประโยชน์ถึงขนาดสามารถนำมาทำเป็นยาลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้เลย ซึ่งผลงานวิจัยที่ว่านี้ยังสามารถคว้ารางวัลดีเด่นกลับมาได้อีกด้วย

แต่ก่อนที่เราจะไปดูผลงานสำเร็จของนักวิจัยชาวไทยที่ว่านี้ เรามาทำความรู้จักกับ คอเลสเตอรอล กันก่อนค่ะ เพราะหลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักแต่แค่ชื่อ แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว เจ้าคอเลสเตอรอลนี้ มีหน้าที่อะไร แล้วจะส่งผลร้ายอยา่งไรกับเราได้บ้าง

คอเลสเตอรอล คืออะไร?

คอเลสเตอรอล มีบทบาทสำคัญหลายประการอย่างที่เราคาดไม่ถึง ทั้งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยในการส่งผ่านสารละลายต่าง ๆ เข้าออกเซลล์ หรือรับส่งสัญญาณมาสู่เซลล์ และยังเป็นสารตั้งต้นการสร้างน้ำดีสำหรับย่อยไขมันที่เรากินเข้าไป รวมทั้งมีส่วนสำคัญในการผลิตสารจำพวกสเตียรอยด์ฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนที่ไปควบคุมระบบเกลือแร่และการทำงานของไต เป็นต้น

ทำความรู้จักกับ คอเลสเตอรอล เพิ่มเติม คลิก!

 

 

คอเลสเตอรอล มาจากไหน?

ถ้าหากคำตอบของคุณพ่อคุณแม่บอกว่า อาหารแล้วล่ะก็ เปลี่ยนความคิดใหม่ได้เลยละค่ะ แท้จริงแล้วตับของตัวเราเองนี่ละที่เป็นคนสร้างคอเลสเตอรอลขึ้นมา และเพราะคอเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดไม่ละลายในน้ำ ก่อนร่างกายนำไปใช้จึงต้องมีการรวมตัวเข้ากับโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อ อะโพโปรตีน เพื่อเปลี่ยนรูปเป็นไลโพโปรตีน หน้าตาคล้ายไข่แดงที่ถูกหุ้มด้วยไข่ขาว หลังเสร็จสิ้นการเปลี่ยนรูปร่าง คอเลสเตอรอลในรูปแบบไลโพโปรตีนจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางกระแสเลือด เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

นายแพทย์เจริญลาภ อุทานปทุมรส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้อธิบายว่า คอเลสเตอรอลส่วนหนึ่งจะถูกนำไปสร้างเป็นน้ำดีหรือน้ำย่อย และอีกส่วนนำไปสร้างไลโพโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อ วีแอลดีแอล ซึ่งประกอบไปด้วยไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์เป็นส่วนใหญ่ มีคอเลสเตอรอลอยู่เล็กน้อยพร้อมโปรตีนที่ช่วยให้มันละลายอยู่ในเลือดได้ ระหว่างทางที่วีแอลดีแอลเดินทางในเส้นเลือด จะมีเอนไซม์ที่ย่อยเอาไตรกลีเซอร์ไรด์ไปใช้ ซึ่งไตรกลีเซอร์ไรด์นี้ให้พลังงานมากกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนถึง 2 เท่า ช่วยในการสร้างน้ำนม เป็นแหล่งพลังงานสำคัญของกล้ามเนื้อและหัวใจ

ไตรกลีเซอร์ไรด์ที่ใช้ไม่หมดจะถูกนำไปเก็บไว้ในไขมัน เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรอง เมื่อไตรกลีเซอร์ไรด์ถูกดึงออกไปจากวีแอลดีแอลหมดแล้วจะเหลือเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่สุด ในชื่อ แอลดีแอล หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แต่ยังมีประโยชน์คือ เมื่อผ่านไปถึงอวัยวะไหน ก็จะถูกดึงคอเลสเตอรอลไปใช้งานได้ทันที เมื่อวนครบทุกส่วนแล้วหากแอลดีแอลยังถูกใช้ไม่หมด ก็จะถูกลำเลียงเข้าสถานีสุดท้ายคือตับ ซึ่งตับก็จะนำแอลดีแอลที่เหลือนี้ไปสร้างเป็นวีแอลดีแอลอีกครั้ง เป็นวัฏจักรอย่างนี้เรื่อยไป

แอลดีแอล หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีนั้น อันตรายต่อร่างกายอย่างไร คลิก!

 

 

แอลดีแอล หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีนั้น อันตรายต่อร่างกายอย่างไร

นายแพทย์ธีระพร ไทยจินดา อายุรแพทย์สาขาประสาทวิทยา โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เล่าว่าในคนปกติ ที่ไม่มีความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน แม้ผลตรวจร่างกายจะบอกว่าคุณมีปริมาณแอลดีแอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง ทั้งยังมีค่าเอชดีแอลที่ต่ำ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะเจ้าไขมันวายร้าย 2 ชนิดนี้ จะออกฤทธิ์วาดลวดลายได้ก็ต่อเมื่อร่างกายเรามีอาการของโรคสองชนิดข้างต้นเท่านั้น ถ้าเรายังแข็งแรงดีวายร้ายก็จะไม่มีพิษสงอะไรเลย แต่ถ้าคุณมีอาการของโรคใดโรคหนึ่ง หรือทั้งสองโรค กอปรกับอายุที่มากขึ้น แอลดีแอลก็จะได้ใจพร้อมทำร้ายอวัยวะสำคัญ ๆ อย่างหัวใจ สมอง และตับ ไต ได้อย่างน่ากลัว

จากการวิจัยของต่างประเทศพบว่า คอเลสเตอรอล เริ่มสะสมตามหลอดเลือดหัวใจได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี และจะอันตรายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมเป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลมากกว่าปกติ

ข้าวไทยเกี่ยวอะไรกับการลดคอเลสเตอรอลในเลือด คลิก!


เครดิต: MThai

 

เครดิต: Thai Rice For Life

ข้าวไทยเกี่ยวอะไรกับการลด คอเลสเตอรอลในเลือด?

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้วิจัยพัฒนาข้าวไทยเป็นยาลดคอเลสเตอรอลในเลือด ได้สำเร็จเป็นแห่งแรกของไทย แถมราคาก็ยังถูกกว่ายานำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เป็นอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ ช่วยให้คนที่มีคอเลสเตอรอลสูง มีทางเลือกในการรักษาเพิ่มขึ้น ลดการเสี่ยงเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

รศ.ดร.สุรพล นธการกิจกุล อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หัวหน้าทีมวิจัย ได้เปิดเผยว่า ทีมวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ ร่วมกับคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จในการนำข้าวไทยมาแปรรูปเป็นยาลดไขมันสำเร็จเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยการนำแนวคิดพัฒนา “ข้าวไทย” มาต่อยอดด้านเภสัชกรรม เพื่อแก้ปัญหาโรคไขมันในเลือด หรือสารคอเลสเตอรอลสูงในเลือด ที่คุกคามสุขภาพคนไทย เป็นสาเหตุสำคัญก่อให้เกิดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุการตายระดับต้น ๆ ของคนไทย

ผลการวิจัยข้าวด้วยการแปรรูปโดยวิธีชีวสังเคราะห์ ด้วยเชื้อนี้ในข้าว พบสารโมนาโคลิน เค (monacolin k) ที่มีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดเทียบเท่ายาลดไขมัน ในเลือดที่มีขายในท้องตลาด และนำมาใช้เป็นอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ ช่วยให้ผู้มีสารคอเลสเตอรอลสูง มีทางเลือกในการรักษาเพิ่มขึ้น

โดยตัวเม็ดข้าวที่ได้ นอกจากจะมีสารที่ช่วยลด คอเลสเตอรอลในเลือดแล้ว ยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีก จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคตับหรือไตอีกด้วย

ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ทราบกันไหมคะว่า ผลงานวิจัยดังกล่าวนี้ยังได้รับรางวัลดีเด่น Poster Presentation Award 2008 สาขา Biopharm Aceutical Science จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยจริง ๆ เลยละค่ะ

เครดิต:Thai Health

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ: