เพราะลูกสาว โดนลวนลาม โดยผู้อำนวยการโรงเรียน แม่จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมหลังเรื่องเงียบนานนับปี!
คุณแม่ท่านนี้ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อภายหลังจากที่ลูกสาว เด็กหญิงจ๋า (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ถูกนายปรัธะวินณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดพัทลุง ลวนลาม จนถึงขั้นต้องย้ายโรงเรียนหนี!
โดยคุณแม่ นางวรรณา หริกแก้ว อายุ 34 ปี แม่ของ เด็กหญิงจ๋า เล่าว่า หลังจากลูกต้องย้ายออกจากโรงเรียนครอบครัวมีความลำบากมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทุนการศึกษาที่ได้จากเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุงก็ถูกตัด ตนไม่มีเงินแต่อยากให้ลูกเรียนสูง ๆ เมื่อเกิดเรื่องกับผู้อำนวยการคนดังกล่าว ตนก็ได้ร้องเรียนไปยังครุสภาเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นมีเจ้าหน้าที่มาสอบปากลูกสาวและตน แต่เรื่องก็เงียบไป จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ก่อนหน้านี้มีโทรศัพท์ลึกลับมาเสนอให้เงิน แต่ตนปฏิเสธไปจนถูกตราหน้าว่าจนแล้วไม่เจียม แถมสายลึกลับดังกล่าวยังขู่ตบท้ายว่า ผู้อำนวยการคนนี้เคยยิงคนทิ้งโดยไม่ต้องรับโทษ สร้างความหวาดกลัวให้ตนและครอบครัวเป็นอย่างมากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบพฤติกรรม และตรวจสอบว่าผู้อำนวยการท่านนี้สมควรที่จะได้รับราชการต่อหรือไม่
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทำให้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกเป็นอย่างมากว่า เราควรที่จะทำอย่างไรให้ลูกไว้ใจและพูดคุยกับเราให้ได้มากที่สุด แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการทำให้ลูกเปิดใจพูดคุยกับเราได้นั้น เรามาดูสัญญาณบอกเหตุว่าลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศกันก่อนดีกว่าค่ะ
คลิกดู! สัญญาณบอกเหตุ ลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ!
เครดิต: Amarin TV
ลูก โดนลวนลาม หรือไม่ เช็ค! สัญญาณบอกเหตุ
สัญญาณต่อไปนี้เป็นสัญญาณเตือนที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบว่า ลูกหลานของเราถูกล่วงละเมิดทางเพศ และต้องการได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
- มีบาดแผลฟกช้ำทางร่างกายหรืออวัยวะเพศ
- เด็กมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล อารมณ์แปรปรวน ไม่สุงสิงใคร เก็บตัว
- กลัวคนบางประเภท
- กลัวการกลับบ้าน
- กลัวการอยู่ลำพังกับผู้ใหญ่
- หนีออกจากบ้าน
- มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง
- มีปัญหาด้านการเรียน
- ฝันร้าย นอนไม่หลับ
เมื่อพบว่าลูกหลานได้รับการกระทำดังกล่าวอย่ารอช้า ให้รีบเข้าไปให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุดค่ะ และจากสถิติของการสอบถามจากเด็ก ๆ ที่เป็นผู้เสียหายนั้นพบว่า ผู้ที่ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กส่วนมากแล้ว มักเป็นบุคคลที่เด็กรู้จัก และสามารถเข้าถึงตัวเด็กได้ง่าย ที่สำคัญเป็นบุคคลที่เด็กไว้วางใจ หรือมีอำนาจเหนือกว่าเด็กและทำให้เด็กกลัว ยกตัวอย่างเช่น ผู้ปกครอง ญาติพี่น้อง และครู เป็นต้น
อะไรคือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อ คลิก!
เครดิต: Thaichildrights
ปัจจัยเสี่ยงในเด็กที่มีโอกาสเสี่ยงตกเป็นเหยื่อ ได้แก่
– เด็กเล็กที่ไม่สามารถพูดจาสื่อสารได้
– เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าหรือบกพร่อง
– เด็กที่มีโรคเรื้อรังหรือมีความพิการทางร่างกาย
– เด็กที่อยู่กับบิดาตามลำพัง หรือมีสมาชิกผู้ชายเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน
– มารดาหมดสมรรถภาพทางเพศ หรือปฏิเสธที่จะตอบสนองทางเพศต่อบิดา
และเมื่อเด็กถูกล่วงละเมิด ทำให้เด็กเกิดความกลัว และไม่กล้าบอกใคร ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ลูกหลานของเราไว้ใจและกล้าที่จะพูดความจริง ซึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำนั่นก็คือ การชวนลูกพูดคุย ถามไถ่คำถามต่าง ๆ ในแต่ละวันหลังเลิกเรียน ซึ่งคำถามเหล่านี้นี่ละค่ะ ที่จะช่วยให้ลูกรู้สึกว่า พวกเขายังมีคุณพ่อคุณแม่คอยให้ความสนใจรับฟังและอยู่เคียงข้างเสมอ
คำถามจะมีอะไรบ้างนั้น อยากรู้คลิกอ่านได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
คำถามที่ควรถามลูกหลังเลิกเรียน
1. หนูคิดว่าอะไรดีที่สุดในวันนี้ จากคำถามนี้เอง จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ มากมายเลยละค่ะ
2. หนูคิดว่าอะไรที่ไปเจอมาวันนี้แล้วรู้สึกว่าไม่ชอบเลย ถึงแม้ว่าคำถามนี้จะเป็นคำถามทางลบ แต่เป็นคำถามที่เราจะได้คำตอบที่ช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียน เราจะได้รับทราบความเป็นไปของลูก ไม่จำเป็นต้องถามคำถามนี้กับลูกบ่อยๆ ทุกวัน แต่ให้เราถามบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อที่จะช่วยแก้ไขได้ในกรณีที่เกิดปัญหาร้ายแรง
3. วันนี้ทานข้าวกับใครจ้ะ คำถามนี้จะช่วยให้เราทราบว่าลูกมีพฤติกรรมการเข้าสังคมเป็นอย่างไร เข้ากับเพื่อนกลุ่มไหน หรือเปลี่ยนกลุ่มใหม่อย่างไรบ้าง
4. กิจกรรมที่โรงเรียนวันนี้สนุกไหม เป็นอีกคำถามหนึ่งที่เราควรจะถามลูก เพื่อที่เราจะทราบความเป็นไปของการเรียน และวิชาต่างๆ อีกทั้งจะได้ทราบว่าลูกมีปัญหาอย่างไรเพื่อที่จะช่วยเหลือและแก้ไขได้ทันเวลา เราควรถามคำถามนี้บ่อยๆ เพื่อเราจะทราบว่าลูกอ่อนวิชาไหน เพื่อหาวิธีการช่วยลูกในลำดับต่อไป
5. วันนี้โดนคุณครูดุไหมจ้ะ คำถามนี้เป็นคำถามที่ดี ดูสีหน้าลูก เมื่อพูดถึงคุณครูว่าคุณครูใจดี หรือมีงานโครงการอะไรบ้างที่ต้องส่งให้ทันกำหนด หรือลูกทำหน้าเศร้าและไม่อยากพูดถึงให้จดบันทึกพฤติกรรมไว้
6. วันนี้เล่นกับใครบ้าง คำถามนี้เป็นอีกคำถามที่จะทำให้เราทราบความเป็นมาทางสังคมของลูก เพื่อจะรู้ว่าลูกอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิม หรือเข้ากลุ่มใหม่ และคุณพ่อคุณแม่จะทราบด้วยว่าลูกถูกงดเล่นสนาม หรือถูกลงวินัยอย่างไรหรือไม่
7. โรงเรียนมีจัดกิจกรรมอะไรพิเศษไหมจ้ะช่วงนี้ ลูกอาจจะไม่มีการวางแผน ดังนั้นการถามคำถามนี้จะทำให้เราทราบว่าปฏิทินโรงเรียนเป็นอย่างไร ช่วยทำให้ลูกทันเหตุการณ์และทำให้ลูกนึกจำขึ้นมาได้ว่าจะต้องมีโครงงานหรืองานอะไรบ้างที่ต้องทำให้เสร็จ
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
- 7 เรื่องที่พ่อแม่ควร สอนลูกสาว ให้ติดตัวเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
- 5 อาการเตือนสุขภาพผู้หญิง ที่ไม่ควรมองข้าม!!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่