ป้องกันไว้ก่อน ต้องรู้ให้เท่าทัน พบกับ 2 วิธีสังเกตแท็กซี่ ว่าหมดอายุแล้วหรือไม่?!
เพื่อความสะดวกสบายของสมาชิกทุกคนในบ้านและตัวเราเอง นอกจากรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินแล้วนั้น ก็คงหนีไม่พ้นรถแท็กซี่กันใช่ไหมละคะ ยิ่งเดี๋ยวนี้สุดแสนจะสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องลงมายืนรอข้างทาง ก็สามารถเรียกแท็กซี่ได้ผ่านแอพพลิเคชั่นกันแล้ว
แต่ทราบกันหรือไม่คะว่า แท็กซี่ ที่เรานั่งกันเนี่ย จัดอยู่ในรถประเภทไหน และจะรู้ได้อย่างไรว่า เป็นแท็กซี่ที่หมดอายุแล้ว วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมาขอนำเสนอเรื่องราวดังกล่าวให้ได้ทราบกันค่ะ
อ่านต่อ >> เนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
แท็กซี่มีกี่ประเภท
ทราบหรือไม่คะว่า แท็กซี่ที่เราเห็นสีสวย ๆ แบบนี้ แท้จริงแล้วเขาแบ่งกันตามประเภทของรถกันค่ะ โดยหลักแล้วสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ค่ะ
ประเภทที่หนึ่ง: จะเป็นแท็กซี่ที่จดทะเบียนในรูปแบบของนิติบุคคล คือ จดในรูปแบบของสหกรณ์หรือบริษัท รถประเภทนี้ ปัจจุบันมี 2 แบบ คือ มีสีพื้นเป็นสีเหลืองสีเดียวและใช้สีน้ำเงินเป็นสีของข้อความ และอีกแบบคือ สีอื่น ๆ เช่น ชมพูล้วน เขียวล้วน หรือ เป็นสีพื้นแล้วมีแถบสีคาด เช่น ชมพูคาดน้ำเงิน ส้มคาดขาว ซึ่งสีแต่ละสีก็เป็นการแสดงถึงกลุ่มของบริษัทหรือสหกรณ์นั้น ๆ ว่าเป็นไปตามกฎการขนส่งทางบกที่ให้บริษัทหรือสหกรณ์นั้น ๆ กำหนดสีของรถมายื่นต่อกรมขนส่งทางบก แต่ก็มีที่เป็นรถแบบสองสี นั้นคือ แท็กซี่สีฟ้า-แดง เพราะเป็นรถรุ่นเก่าที่ยังไม่มีการทำสีเพื่อแบ่งว่าเป็นของบริษัทหรือสหกรณ์อะไร ซึ่งพบได้น้อยมากเพราะปัจจุบันได้เปลี่ยนสีใหม่เป็นสีเดียวเช่นเดียวกับรถรุ่นหลังหมดแล้ว
ประเภทที่สอง:คือแท็กซี่ส่วนบุคคล จะเป็นแบบสองสีคือ สีเขียว-เหลือง ซึ่งเป็นสีของกรมขนส่งที่จดทะเบียนไว้ให้ประชาชนทั่วไปที่อยากมีแท็กซี่เป็นของตัวเองได้ โดยไม่ต้องไปขอร่วมกับสหกรณ์ โดยกรมขนส่งกำหนดว่า “หนึ่งคนสามารถมีรถแท็กซี่บุคคลได้เพียงคันเดียวเท่านั้น” ถ้าบุคคลนั้นยังมีชื่อเป็นเจ้าของรถเขียวเหลืองคันใดคันหนึ่งอยู่ จะไม่สามารถมีรถเขียวเหลืองอีกคันหนึ่งได้ ซึ่งต่างจากรถสหกรณ์ ที่หนึ่งคนสามารถเข้าร่วมได้หลาย ๆ คัน
อ่านต่อ>> วิธีดูแท็กซีี่หมดอายุ
เครดิต: vcharkarn
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก จัดผู้ตรวจการขนส่งลงพื้นที่เข้มงวดจับกุมผู้ฝ่าฝืนนำรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนครบ 9 ปี ซึ่งครบอายุการใช้งานตามกฎหมายแล้วมารับส่งผู้โดยสาร โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครเขตปริมณฑล เช่น รังสิต ปทุมธานี นนทบุรี เพื่อจับกุมและป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดอายุการใช้งานของรถแท็กซี่มีระยะเวลาไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก เพื่อให้สภาพรถมีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมนำมาให้บริการประชาชนอย่างความปลอดภัย แต่พบว่ามีรถแท็กซี่บางส่วนที่ครบอายุการใช้งานแล้วแต่ยังไม่ดำเนินการแจ้งระงับหรือแจ้งเปลี่ยนประเภทรถ ซึ่งผู้ขับรถแท็กซี่ที่นำรถที่สิ้นอายุการใช้งานมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารจะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 5 (10) ต้องระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท และต้องปลดป้ายทะเทียนออกทันที และหากนำรถที่แจ้งเปลี่ยนประเภทเป็นรถส่วนบุคคลแล้วมาลักลอบรับส่งผู้โดยสารจะมีความผิดตามมาตรา 21 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิและเพิ่มความมั่นใจความปลอดภัยในการใช้บริการแท็กซี่ กรมการขนส่งทางบกแนะนำให้สังเกตรถแท็กซี่ก่อนเลือกใช้บริการดังนี้ค่ะ
- โดยสภาพตัวรถภายนอกต้องมั่นคงแข็งแรง หมวดอักษรบนแผ่นป้ายทะเบียนกรณีเป็นรถแท็กซี่นิติบุคคลที่สังกัดสหกรณ์ หรือบริษัทต่าง ๆ จะขึ้นต้นด้วยหมวด “ท” โดยหมวดที่ยังอยู่ในช่วงอายุการใช้งาน ประกอบด้วย ทศ, ทษ, ทส, ทห กรณีเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลสีเขียวเหลืองขึ้นต้นด้วยหมวด “ม” โดยหมวดที่ยังอยู่ในช่วงอายุการใช้งาน ประกอบด้วย มช, มฎ, 1มก, 1มข
- รถแท็กซี่หมวด ทว และหมวด มฉ จะทยอยครบอายุการใช้งานภายในปีนี้
ดังนั้น ในเบื้องต้นหากพบรถแท็กซี่หมวดทะเบียนนอกเหนือจากหมวดที่ระบุข้างต้น อาจเป็นรถแท็กซี่ที่ครบอายุการใช้งานแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการและแจ้งข้อมูลมายังกรมการขนส่งทางบก สายด่วน 1584 เพื่อติดตามตรวจสอบต่อไป นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัย กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถแท็กซี่จดทะเบียนใหม่ติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัย ตามโครงการ Taxi OK ประกอบด้วย GPS Tracking พร้อมอุปกรณ์แสดงตัวผู้ขับรถ ปุ่มฉุกเฉิน กล้องบันทึกภาพในรถ และเข้าสังกัดกับศูนย์บริการสื่อสารรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) ซึ่งเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการแท็กซี่ด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก และเพิ่มทางเลือกการใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น Taxi OK บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอีกด้วยค่ะ
แหม! งานนี้ได้รับความรู้เยอะจริง ๆ ต้องขอขอบคุณกรมการขนส่งทางบกมาก ๆ ที่คอยใส่ใจประชาชนทุกคน
ข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก และ it24hrs
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- ระวัง! ลูกเดินหาดเท้าเปล่า เสี่ยง พยาธิไชเท้า
- กรมควบคุมโรคเตือน! ระวัง “ลูกแรกเกิด-4ปี” เสี่ยงป่วย โรคหัด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่