ถึงแม้ว่าจะ คลอดก่อนกำหนด ด้วยน้ำหนักตัวเพียงน้อยนิด แต่เด็กคนนี้ก็สามารถต่อสู้ชะตาจนมีชีวิตรอด!
ทารกรายนี้ คลอดมาด้วยน้ำหนักตัวเพียง 400 กรัม ขนาดฝ่าเท้าของเขาเท่ากับนิ้วมือของผู้ใหญ่ ใคร ๆ ก็คิดว่าเธอไม่น่าจะมีชีวิตรอดได้ แต่สุดท้าย ทารกรายนี้ ก็สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ว่า ทุกคนคิดผิด!!
เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ไอบีทีได้รายงานเรื่องราวสุดน่าประทับใจของคุณหมอ ที่ได้ช่วยชีวิตทารกน้อยรายหนึ่งที่คลอดก่อนกำหนดด้วยน้ำหนักตัวเพียงน้อยนิด จนได้ชื่อว่าเป็นทารกที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดในโลก ให้มีชีวิตรอด … ไปอ่านต่อเรื่องราวขอหนูน้อยรายนี้พร้อม ๆ กันเลยค่ะ
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>
ทารกเพศหญิงรายนี้มีชื่อว่า ชื่อ สิตา ถือกำเนิดที่โรงพยาบาลเด็กชีวันตาในเมืองอุทัยปุระ รัฐราชสถาน ด้วยขนาดร่างกายที่สูงเพียง 8.6 นิ้ว หนัก 14 ออนซ์ จากภาพถ่ายคุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ว่า เท้าของเธอนั้นมีขนาดเท่านิ้วมือผู้ใหญ่เท่านั้นเอง
สีตา เป็นเด็กหลอดแก้ว เนื่องจากแม่ของเธอนั้นมีอายุมากถึง 50 ปี แล้ว ด้วยตลอดระยะเวลาที่แต่งงานมา 35 ปีก็ยังไม่สามารถมีลูกตามธรรมชาติได้ แม่จึงใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์เข้าช่วยแทน จนกระทั่งเธอสามารถตั้งครรภ์ได้เป็นผลสำเร็จ เมื่ออายุครรภ์ครบ 28 สัปดาห์ แม่ของสิตามีความดันสูงมากซึ่งอาจส่งผลเสียให้กับชีวิตของสิตาเอง หมอจึงต้องตัดสินผ่าคลอดทันที
ดร.สุนิล จันเกด ผู้อำนวยการกล่าวว่า เด็กเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2560 ตอนแรกโอกาสที่เด็กจะรอดมีเพียง 0.5 % ในขณะที่เด็กหญิงสิตาเป็นความหวังเดียวของพ่อแม่ที่ฐานะยากจน และรอเด็กคนนี้มา 35 ปีแล้ว ทางโรงพยาบาลจึงตัดค่าใช้จ่าย 75% ออกให้ด้วยความเห็นใจ
ช่วง 6 สัปดาห์แรก เด็กอยู่ในสภาพเปราะบางมาก พัฒนาการอวัยวะต่ำกว่าปกติ หายใจลำบาก ต้องใช้เครื่องช่วยทางเดินหายใจ และต้องให้โภชนาการแทนแม่ทั้งหมด ไม่ว่า กรดอะมิโน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุ และวิตามิน ที่ต้องส่งเข้าการไหลเวียนของเลือดโดยตรง
อ่านต่อเรื่องราวของสิตา >>
อย่างไรก็ตาม การที่ สิตา เริ่มดื่มนมที่หยดให้ในช่วง 7 สัปดาห์ได้นั้นทำให้ทีมแพทย์เริ่มมีความหวัง เพราะถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะหลังจาก 4 เดือนครึ่งผ่านไป เธอยังคงเสี่ยงกับภาวะหยุดหายใจในตอนนอน ซึ่งรวมไปถึงความเสี่ยงติดเชื้อต่าง ๆ อีกด้วย
ด้วยความใส่ใจของทีมแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด ทำให้สิตา แข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากอยู่ในแผนกไอซียูมานาน 210 วัน คุณหมอก็อนุญาตให้พ่อแม่พาเธอกลับไปดูแลต่อที่บ้านได้ ซึ่งตอนนี้ สิตา มีน้ำหนัก 2.4 กก. แล้ว มีพัฒนาการทางสมอง ดวงตา การได้ยินปกติดีทุกอย่าง
“อวัยวะต่าง ๆ ทำงานปกติ เธอดูสวยและร่าเริงมาก พยาบาลของเรายังตั้งชื่อให้เธอว่า มนูศรี ตามชื่อมิสเวิลด์คนใหม่ของอินเดียเลย” ดร.จันเกดกล่าว
ชมคลิป!
เรียกได้ว่า เป็นหนูน้อยที่สู้ชีวิตและโชคดีมาก ๆ เลยนะคะ ที่มีทีมงานแพทย์ และพยาบาลรวมถึงโรงพยาบาลให้ความเข้าใจและดูแลเป็นอย่างดี แบบนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ขอปรบมือให้ดัง ๆ กับผู้เกี่ยวข้องทุกคนเลยละค่ะ แบบนี้สิ! ทำให้รู้สึกว่าโลกของเราน่าอยู่ขึ้นเยอะมาก ๆ เลย
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ทารก คลอดก่อนกำหนด อ่านต่อ >>
เครดิต: ข่าวสด
คลอดก่อนกำหนด คืออะไร?
โดยปกติแล้ว การตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะครบกำหนดที่ 38-41 สัปดาห์ คือประมาณ 9 เดือนโดยเฉลี่ย หากคลอดก่อน 37 สัปดาห์ ทางการแพทย์ถือว่าคลอดก่อนกำหนด แต่ทารกที่คลอดก่อนกำหนดน้อย ๆ เช่น 1-2 สัปดาห์ คือคลอดเมื่อ 35 หรือ 36 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทารกที่จะมีปัญหามาก ๆ คือทารกที่คลอดก่อนกำหนดมาก ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยมาก ๆ คือ มีน้ำหนักตัวตอนเกิดน้อยกว่า 1.5 กิโลกรัม ทารกในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นทารกที่การตั้งครรภ์สิ้นสุดที่อายุครรภ์ประมาณ 32-33 สัปดาห์ ยิ่งคลอดก่อนกำหนดมากเท่าไรปัญหาก็ยิ่งมากขึ้น
สาเหตุเกิดจาก
- คุณแม่ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี จะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้มากกว่าคุณแม่ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี
- คุณแม่ที่มีมดลูกผิดปกติ มดลูกพิการมาแต่กำเนิด เช่น มีผนังกั้นภายในโพรงมดลูก หรือมดลูกมีเนื้องอกร่วมด้วย ทำให้โพรงมดลูกมีรูปร่างผิดปกติ และคับแคบเกินกว่าที่ทารกจะเจริญเติบโตตามปกติ จึงคลอดออกมาก่อนกำหนด
- คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต ทำให้ทารกในท้องเจริญเติบโตได้ไม่ดี ตัวเล็ก และคลอดก่อนกำหนดได้
- คุณแม่ที่สูบบุหรี่เป็นประจำหรือถึงแม่คุณแม่ไม่สูบบุหรี่แต่อยู่ใกล้ชิดคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ จะทำให้ทารกในครรภ์ตัวเล็กและคลอดก่อนกำหนดได้
- คุณแม่ที่ดื่มสุราและเบียร์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ทุกชนิดจะทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตไม่ดีและคลอดก่อนกำหนด นอกจากนั้น อาจจะคลอดทารกออกมาพิการ
- คุณแม่ทำงานหนักเกินไป หรือเครียดมากเกินไป
- การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- เลือดออกขณะตั้งครรภ์ เป็นต้น
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่