AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เชิญเที่ยวงาน “Thailand Sustainability Expo 2020” 1-4 ต.ค. นี้

Thailand Sustainability Expo

พร้อมเนรมิตพื้นที่ของศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ให้เป็น Big Event ด้านความยั่งยืนแห่งปี ในงาน “Thailand Sustainability Expo 2020 (TSX)” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) มหกรรมที่รวมพลังองค์กรและนักพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของไทยในทุกมิติ ที่จัดโดย 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยที่เป็นผู้นำองค์กรด้านความยั่งยืนระดับโลกกับปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ ภายใต้การนำของ 3 บิ๊ก คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คุณธีรพงศ์ จันศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รวมถึงองค์กรชั้นนำในเครือข่าย TSCN (Thailand Supply Chain Network) หรือเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ร่วมด้วยองค์กรอื่น ๆ ที่มีการดำเนินธุรกิจตามแนวดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI โดยงานนี้ได้น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “สืบสาน รักษา และต่อยอด” มาเป็นแนวทางในการจัดงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาส และสร้างเครือข่ายสังคมของการมีส่วนร่วมสู่การนำไปปฏิบัติที่ใช้ได้ผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2563 ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ชั้น G ชั้น 3 และ ชั้น 5

TXS2020

เกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องนี้ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยเบฟ ไทยเบฟได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) มาเป็นหลักปฏิบัติ อันจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน  17 ประการขององค์การสหประชาชาติ จะเห็นได้ว่าไทยเบฟเป็นบริษัทแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มระดับโลกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืน DJSI ระดับโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืน DJSI กลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ติดต่อกันเป็นปีที่ 4  นอกจากนี้ในปี 2562 ไทยเบฟยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์โลกให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ไทยเบฟจึงยึดมั่นและทุ่มเทเพื่อ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ไทยเบฟมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมถือเป็นรากฐานของชุมชนและสังคมที่แข็งแกร่ง และส่งผลให้การวางรากฐานทางธุรกิจมั่นคงเช่นกัน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางธุรกิจของไทยเบฟที่เป็นไปตามเป้าหมายการ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

TSX2020

ทางด้าน คุณธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า  “ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนมาโดยตลอดและดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบสากลแล้ว เรายังมุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก โดยเรามีนโยบายความยั่งยืนตามกลยุทธ์ SeaChange® ที่เราดำเนินควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2561 และ 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารของโลกจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์  ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน  ไทยยูเนี่ยนยังมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในวันนี้ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดงาน Thailand Sustainability Expo 2020 (TSX) ในครั้งนี้”

ก้าวคนละก้าว

และ ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ

GC เปิดเผยว่า GC ต้นแบบด้านความยั่งยืนของโลก ภายใต้แนวคิด Circular for Better Living ด้วย 3 นโยบายตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ได้แก่ Smart Operating คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและนำมาหมุนเวียนอย่างคุ้มค่า Responsible Caring คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์นั้นๆ และ Loop Connecting คือ การเชื่อมโยงทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจแบบครบวงจร นอกจากนี้ GC ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก อาทิ United Nations Global Compact หรือ UNGC ประเมินให้ GC เป็น GLOBAL COMPACT LEAD หนึ่งเดียวในประเทศไทย จาก 37 องค์กรทั่วโลก และ ในปี 2019 ดัชนีด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ DJSI ได้จัดอันดับให้ GC เป็นที่ 1 ของโลก และ อยู่ในระดับ Top 10 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ใน Chemical Sector”

 

สำหรับงานนี้ โซนไทยเบฟ จะเน้นการสื่อสาร 3 เรื่องหลัก ได้แก่

  1. Water of Life (ธรรมชาติสร้างน้ำ น้ำสร้างชีวิต) ไทยเบฟใส่ใจในการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่า โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีเหตุมีผล ผ่านโครงการที่เน้นการสร้างต้นน้ำ ปลูกจิตสำนึกของการอนุรักษ์ต้นน้ำ ผืนป่าและธรรมชาติให้แก่ชุมชน การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตแบบองค์รวม รวมถึงโครงการคืนน้ำที่ปลอดภัยกลับสู่ระบบนิเวศ
  2. Quality of Life การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ด้วยการผลิตสินค้าและการให้บริการที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค สร้างภูมิคุ้มกันในการดำเนินธุรกิจด้วยกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างรู้คุณค่า การใช้หลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle) การนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
  3. Sustainable Ways of Life สนับสนุนให้ชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ผ่านโครงการที่ให้ความรู้คู่คุณธรรม ผลักดันให้เกิดความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันในแต่ละชุมชน การสร้างอาชีพในท้องถิ่น สนับสนุนการศึกษาให้แก่เยาวชน รวมถึงการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของชาติ โดยโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของไทยเบฟนั้น ล้วนแต่ส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างให้แก่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

พบกับกิจกรรมมากมาย ได้แก่ Exhibitors รวมมากกว่า 70 บูธที่จัดแสดงภายในงาน Thailand Sustainability Expo แบ่งเป็น 5 โซนหลัก  ดังนี้

  1. โซน Main Exhibition เป็นการจัดแสดงแนวทางการจัดการปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม การบริหารโครงการด้านความยั่งยืน และการลดผลกระทบที่เกิดแก่สังคมในวงกว้างจากเครือข่ายองค์กรภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ รวมไปถึงมูลนิธิขนาดใหญ่ในประเทศไทย จัดบริเวณชั้น 5
  2. โซน Win Win WAR Village เป็นการแสดงไอเดียธุรกิจเพื่อสังคมจาก 12 นักธุรกิจแบ่งปันจากรายการ Win Win WAR Thailand ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของการทำธุรกิจที่สร้างผลกระทบด้านดีให้กับสังคม จัดบริเวณชั้น 5
  3. โซน Sustainable Lifestyle เป็นการให้ความรู้และจัดแสดงแนวคิดการนำหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้ในการทำธุรกิจ พร้อมกันนี้มีการจัดแสดงภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลจากโครงการ Sustainability Action Hero Photo Contest จัดบริเวณชั้น 3
  4. โซน Food and Drinks for Sustainability เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมกันนี้ได้มีการให้ความรู้เรื่องการผลิตอาหารให้มีระบบที่ยั่งยืน เพื่อลดปัญหาเรื่องอาหารขาดแคลนในอนาคตด้วย การนำเรื่องระบบนิเวศมาเชื่อมโยงเข้ากับการทำเกษตรของมนุษย์ จัดบริเวณชั้น G
  5. โซน Design for Sustainability เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าประเภทของใช้ พร้อมกันนี้ได้มีการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการทำ Sustainable Design หรือการออกแบบสินค้าที่ลดปริมาณการใช้ทรัพยากร การนำกลับมาใช้ใหม่ รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อโลกให้น้อยที่สุด จัดบริเวณชั้น G

โดยแบ่ง Highlight แต่ละวันดังต่อไปนี้

วันที่ 1 ตุลาคม 2563 

วันที่ 2 ตุลาคม 2563 

วันที่ 3 ตุลาคม 2563

วันที่ 4 ตุลาคม 2563

ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งแสดงความคิดเห็นและเสนอวิธีแก้ปัญหาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

งานเดียวที่ผู้เข้าร่วมชมงานจะได้เปิดประสบการณ์และเรียนรู้ผ่านนิทรรศการด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนจากบริษัทชั้นนำของประเทศไทย การเข้าร่วมโครงการจิตอาสาต่างๆ ทำความเข้าใจและโอกาสสายอาชีพด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และกิจกรรมมากมายที่มุ่งเน้นให้เกิดแรงบันดาลใจให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่ยั่งยืน Inspirational Talks เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำ และ sustainability influencers/celebrities และเวทีแห่งโอกาสด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่หาจากที่ไหนไม่ได้ นอกจากนั้นยังมี Marketplace ที่เปิดโอกาสให้กับธุรกิจรายย่อยได้นำเสนอสินค้าหรือแนวคิดด้านการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและสังคม

เรียกได้ว่าเป็น Big Event ด้านความยั่งยืนแห่งปีที่เป็นการรวมตัวขององค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนของประเทศไทยที่จะมาร่วมกันสร้างพลังร่วมในครั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids