AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสำหรับแม่และเด็ก

ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 …เชื่อว่าถ้าพูดถึงละมุน เบบี้ คุณแม่ลูกเล็กต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอน และด้วยคุณภาพที่ดีเยี่ยม และมีประเภทผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมตอบโจทย์การใช้ได้ทั้งคุณแม่ ลูกน้อย จึงทำให้ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก ละมุน เบบี้ เป็นสินค้าออร์แกนิคในดวงใจยอดนิยมของคุณแม่ที่มีการแนะนำบอกต่อจากคุณแม่ผู้ใช้ละมุน เบบี้จริง สู่คุณแม่ท่านอื่นๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้

ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10

ละมุน เบบี้ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคสำหรับแม่และเด็ก โตถึง 34% จาก 3 สินค้าขายดี โฟมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างขวดนม ปรับกลยุทธ์รุกตลาด Modern Trade  เพิ่ม Distribution ให้เข้าถึงคุณแม่ยุคใหม่มากขึ้น ปฎิวัติวงการเปิดตัวถุงเก็บน้ำนมลดกลิ่นหืนเอาใจแม่สายปั้ม ผลตอบรับดีมาก โกยส่วนแบ่งการตลาด สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ

ละมุน เบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 อย่างมั่นคง ทุบสถิติมูลค่าการตลาด 130 ล้านบาทในปีนี้ตามคาด จากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ลุยต่อเนื่องก้าวกระโดดมั่นใจรายได้ ถึง200 ล้านบาท ในปี 2020 จากการที่มี R&D และ Supply Chain ที่มีความพร้อมสูง  เตรียมนำเสนอสินค้าใหม่อีก 2 รายการในปี 2020 คือ Spray กันยุงและยาสีฟันสูตร Non Fluoride สำหรับเด็กโต มั่นใจพ่อแม่ยุคใหม่หาข้อมูลตามเทรนด์โลก

คุณเนตรนพิศ  รุ่งธนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ละมุนเบบี้ จำกัด กล่าวถึงกระแสผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ว่าละมุนมั่นใจด้วยความเป็น Brand แรกๆ ของไทยที่เข้ามาเปิดตลาด Organic อย่างจริงจังตั้งแต่ยังไม่เป็นกระแส พร้อมยืนยันจุดแข็งที่ใช้เฉพาะส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ 100% เท่านั้น ไม่กลัวแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์ใหม่ๆกระโดดลงมาเล่นตลาดนี้  เพราะเชื่อว่าเป็นเราคือ Number one จากการวางมาตรฐานความเป็นออร์แกนิคของละมุน ไว้ว่าผลิตภัณฑ์ต้องมีแหล่งต้นกำเนิดจากธรรมชาติในทุกส่วนผสม รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ต้องมีใบรับรองและผ่านการทดสอบคุณภาพว่าไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง  ไม่มีน้ำหอม และสารเคมี  กว่า 10 ปีที่บุกเบิกเข้ามาในตลาดนี้ จับกลุ่มแม่ในเมืองที่มีลูกน้อยลงแต่กำลังการจ่ายสูงจนละมุน ไม่กลัวคู่แข็งเพราะคิดว่าเป็นการส่งเสริมตลาดให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นและยิ่งสร้างกระแสสินค้าOrganic ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทำให้เราต้องยิ่งรักษาคุณภาพเร่งพัฒนาสินค้าไกลจากแบรนด์อื่นๆ  ส่งผลให้ละมุนเติบโตต่อเนื่อง โดย 2-3  ปีให้หลังมานี่  หากเทียบกับตลาดรวมสินค้าเด็กที่มีมูลค่ากว่า 5,800 ล้านบาท ติดลบที่  -1.1% แบรนด์ “ละมุน ” สามารถเติบโตมากกว่าตลาดรวม อยู่ที่ 34 %

คุณเนตรนพิศ กล่าวต่ออีกว่า “ปัจจุบันสินค้าของละมุน เบบี้ Focus เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

1. สินค้าหลักขายดีตลอดกาล All-time Best Sellerไม่ใช่แค่Must Try แต่ละมุนมั่นใจว่าเป็น Must Have Item ที่แม่ทุกคนต้องใช้ คือ โฟมอาบน้ำสระผม น้ำยาล้างขวดนม น้ำยาซักผ้า เป็นสินค้าที่ขายดีสูงสุดตลอดการเป็นสินค้าที่ทำให้แม่ละมุนรู้จักเรามากที่สุดด้วยคุณภาพสินค้าที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด ทำให้เมื่อได้ลองใช้แล้วเกิดความประทับใจ กลับมาซื้อซ้ำ รวมถึงเกิดการบอกต่อในวงกว้าง หรือเอาไปรีวิวต่อทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้โตขึ้น100% นอกจานี้เรามีการนำสินค้าขายดีมาทำ Welcome Baby Set ออกมาสำหรับคุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ นอกจากกลุ่มคุณแม่ที่ซื้อไปใช้เองแล้ว ก็ยังรวมถึงลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่ได้มีลูกแต่นิยมซื้อไปเยี่ยมแม่ลูกอ่อนตามโรงพยาบาล ทั้งหมดนี้เมื่อคุณแม่มือใหม่ท้องแรกได้ลองซื้อ Set นี้ก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำ หรือพอคลอดลูกไปแล้วเจอปัญหาผดผื่นซึ่งเป็นปัญหาที่เกือบทุกบ้านเจอ เพราะเด็กแพ้สารเคมีลองเปลี่ยนมาใช้ละมุนเป็นทางเลือกก่อนต้องพาไปหาหมอ เพราะบางครั้งอาจแพ้อาหารหรือปัจจัยอื่นๆอันนั้นต้องให้คุณหมอดูแลแต่ถ้าเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า หรือโฟมอาบน้ำแล้วจบแม่ก็สบายใจลูกก็Happy

2. Strong Growth สินค้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ สเปรย์ทำความสะอาดของใช้เด็ก ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน  แป้งเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของ Talcum  น้ำยาล้างผักและผลไม้ ที่ตอบรับNature and Hygienic trend ของโลกตอนนี้  หรือแผ่นแปะกันยุงที่เราเพิ่งได้รางวัล Mom Choice’s Award มาเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากการโหวตของคุณแม่ สินค้ากลุ่มนี้แม้จะไม่ได้มีสัดส่วนการขายที่สูงมากแต่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงมากเป็นสินค้าที่มีอนาคตในการเพิ่ม Basket Size ของครอบครัวและคนรักสุขภาพ

3. Rising Star สินค้าดาวรุ่ง มาแรงผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ให้นม ของMum ต้องมี โดยมีดาวเด่นได้แก่ถุงเก็บน้ำนมที่มีจุดขายโดดเด่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแม่ให้นม แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ตามท้องตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งละมุนได้จับเทรนด์ “การเลี้ยงลูกให้นมแม่” มานานแล้ว เป็น Global Trend สินค้าขาดตลาดตั้งแต่เดือนแรก หลังจากเปิดตัวได้เพียง 15 วัน โดยตัวถุงเก็บน้ำนมนี้ต่อยอดมาจากที่ประคบหน้าอก บาล์มทาหัวนมและริมฝีปาก ผ้าคลุมให้นมลูก และกระเป๋าเก็บอุณหภูมิ ละมุนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความเป็นแม่ ตอบโจทย์แม่ยุคใหม่ เพราะนมแม่คือ Organic Love บริสุทธิ์ที่สุด สร้างภูมิคุ้มกัน เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางกายและเสริมสายใยความรักแม่ลูกได้อย่างเปี่ยมล้น การที่เราจับเทรนด์นี้และผลิตออกมา แรกก็เกิดสินค้าขาดตลาดเกือบเดือน สร้างปรากฎการณ์ Happy Crisis Management จนต้องทำขนาด 5 ออนซ์ และแบบ 3 in 1 เพื่อเอาใจคุณแม่กลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซ้ำยังสร้างความฮือฮาด้วยการออกถุงเก็บน้ำนมLimited Edition เป็น Festive Holiday Design เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่มีความสุขกับการปั้มนมในทุกๆวัน

นอกจากนี้จะสังเกตได้จากเวลาออกงานอย่างงาน Baby Fair ต่างๆ ทุกครั้งยอดขายเพิ่มขึ้นทุกครั้งลูกค้าใหม่เค้ามาเฉลี่ยครั้งละ 3,000-5,000 คน ยอดขายเฉลี่ยต่อบิลล์อยู่ที่ 2,000 บาท โดยลูกค้าประจำหรือแม่ใหม่ซื้อยกเซ็ท มักซื้อบิลล์ใหญ่ครั้งละไม่ต่ำว่าหมื่นบาท  หลายคนมาเพราะเพื่อนที่มีลูกมากก่อนแนะนำมว่าต้องละมุนเท่านั้น รวมถึงลูกค้าต่างชาติ ที่อยู่เมืองไทยหาข้อมูลพูดคุยตลอดเวลาว่าต้อง ละมุน เบบี้ เท่านั้น  เราเริ่มต้นจากการทำธุรกิจจากแม่ที่ต้องการแก้ปัญหาผดผื่นคัน จนลองมาทำขายแล้วเกิดกระแสบอกต่อ ดาราเซเลปและลูกค้ารีวิวให้เองเพราะความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานและคุณภาพของสินค้าที่แตกต่าง ตอกย้ำความสำเร็จด้วยรางวัลมหาชนจาก ETDA* และ Sticker กันยุงที่ คุณแม่ Vote มาทาง Amarin Baby & Kids  ละมุนเบบี้มีจำหน่ายในแผนกเด็กที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์  แต่ช่องทางที่นิยมสั่งสินค้ามากที่สุดก็คือออนไลน์เพราะต้องการความสะดวกและรวดเร็วทั้งจาก  www.lamoonbaby.com  Facebookและ Line@ Lamoonbaby  Lazada Shopee  แต่ละมุนก็ขยายDistribution ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้นผ่านSupermarket ชั้นนำ อาทิ Tops Gourmet Big C Villa รวมถึงร้านขายยาBoots ที่และ Kingpower  ที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติหรือชาวจีนที่นิยมสินค้าเด็กจากไทยและญี่ปุ่น ปีนี้มีสัดส่วนการขายในModern trade และตัวแทน 50% และอีก 50% ผ่านช่องทางออนไลน์และงานFair ต่างๆ

คุณเนตรนพิศ  รุ่งธนเกียรติ ยังกล่าวถึงการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนจำหน่ายไปประมาณ 8 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา สิงค์โปร มาเลเซีย จีน  ตอนนี้ต่างประเทศตอนนี้มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20% เทียบกับในประเทศ แต่เนื่องจากปีหน้าเราจะเข้าจีนแบบเต็มตัวซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพค่อนข้างสูง คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการส่งออกในปีหน้าเพิ่มขึ้น 300 % และแผนที่จะเข้าไปเล่นตลาดจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ รวมถึงกลุ่มอาหรับและตะวันออกกลางอย่างเต็มตัว  สำหรับปี 2020 ทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้การเติบโตไว้ประมาณ 54 % และตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมเพิ่มเป็นปีละ 200 ล้านบาทโดยหัวใจหลักจะมาจากการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้ามากขึ้นและการทำการตลาดที่เข้าถึงคุณแม่ตั้งแต่เตรียมพร้อมการตั้งครรภ์ และขยายอายุให้ใช้ต่อเนื่องนานขึ้นจนลูกโต ทั้งนี้เรายังเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ refill เพื่อลดปริมาณขยะและพัฒนาแพคเกจจิ้งให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตของลูกและเพื่อความยั่งยืนของโลก

หมายเหตุ

*สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.); Electronic Transactions Development Agency หรือ ETDA