“นิทาน” เป็นเครื่องมือส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดี อย่างไรก็ตามสังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ทำให้คุณพ่อคุณแม่มักไม่มีเวลาอ่านนิทานให้ลูกฟังอย่างสม่ำเสมอ และหากไม่มีเวลาอ่านอย่างสม่ำเสมอ ลูกก็ไม่ได้ประโยชน์หรือได้ประโยชน์ไม่เต็มที่
ขณะเดียวกันในบางครอบครัวคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายคือคนที่มีเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับหลานมากที่สุด และหากให้ปู่ย่าตายายอ่านหนังสือนิทานคำคล้องจองให้หลานฟังอย่างต่อเนื่องเพียงวันละ 1 เรื่อง สัปดาห์ละ 5 วัน ติดต่อกัน 12 สัปดาห์ (3 เดือน รวม 60 ครั้ง) ผลลัพธ์ที่ได้คือ หลาน ๆ จะพูดคล่อง รู้คำศัพท์หลากหลายขึ้น อีกทั้งปู่ย่าตายายก็ได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะการอ่านนิทานให้หลานฟังอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอความเสื่อมของความจำระยะสั้นในผู้สูงอายุ เรียกได้ว่าได้ประโยชน์คูณสองเลยทีเดียว
สำหรับนิทานคำคล้องจองควรเน้นเป็นคำไทย คำสั้นๆ มีโทนสูงต่ำฟังง่ายคล้ายเสียงดนตรี เช่น เรื่อง “อีเล้งเค้งโค้ง” ซึ่งจะช่วยให้เด็กจดจำได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้สูงอายุก็มักจะคุ้นเคยกับคำคล้องจองและตัวอักษรขนาดใหญ่อยู่แล้ว ทั้งนี้จะเป็นนิทานอื่นก็ได้ ขอเพียงให้มีคำสั้น ๆ ง่าย ๆ เหมาะกับวัยของเด็ก ส่วนการอ่านไม่จำกัดสไตล์ สามารถสร้างสรรค์วิธีการอ่านให้มีสีสันเพื่อเพิ่มความสนุกในการอ่านให้กับเหล่าหลานๆ ตัวน้อยได้
นอกจากนี้การอ่านนิทานยังผูกผันคนสองวัยเข้าด้วยกัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างมีปฏิสัมพันธ์กัน ซึ่งความสัมพันธ์อันดีนี้จะทำให้เด็กรู้สึกดีกับปู่ย่าตายาย เขาจะไม่รู้สึกว่าหรือมองว่าปู่ย่าตายายเป็นเพียงคนแก่ที่น่าเบื่อหรือน่ารำคาญ เมื่อเด็กรับรู้ถึงความรู้สึกหรือความสำคัญที่ดี สิ่งนี้จะอยู่ในตัวเข้าไปจนโต ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างวัยในช่วงวัยรุ่นจะลดลงไปด้วย
วิธีที่จะช่วยพัฒนาสติปัญญาและความฉลาดของลูกน้อยได้ คือ การพูดคุยและเล่านิทานให้ฟังเป็นประจำ ซึ่งจะเสริมสร้างให้เขาเป็นคนช่างคิด ช่างถาม และพร้อมที่จะเรียนรู้ในทุกๆ เรื่อง
อยากรู้ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับหนังสือสำหรับลูกน้อย พร้อมเคล็ด (ไม่) ลับสร้างแรงบันดาลใจในการอ่าน เสริมความรู้และพัฒนาการ เพียงชวนลูกน้อยอ่านวันละ 15 นาทีกับโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 ที่ได้รับความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ บริษัทอมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ไปจัดกิจกรรม SCHOOL ROADSHOW กับโรงเรียนต่าง ๆ มากกว่า 57 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งมีกิจกรรมดี ๆ อาทิ แบ่งกันเล่า คือ การสลับกันเล่าระหว่างแขกรับเชิญและเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่หรือปู่ย่าตายายทั้งหลายอย่าลืมนำกิจกรรมนี้ไปลองเล่านิทานกับลูกหลาน เพื่อแบ่งปันความสุขสร้างจินตนาการ ได้ทั้งความรู้และสายใยรักในครอบครัวอีกด้วย
สามารถติดตามกิจกรรมการอ่านอื่นๆ ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก thehappyread หรือ www.thehappyread.com