น้องภู เปิดอกคุยแบบแมน ๆ กับพ่อ นุ้ย เชิญยิ้ม เผยรับได้ไหมกับสิ่งเป็น?
หลังจากกระแสข่าวดราม่ามานาน กับพฤติกรรมอันน่าสงสัยของ “น้องภู” ลูกชายของ “นุ้ย เชิญยิ้ม” และ “ตั๊ก ศิริพร” ที่สื่อและคนทั้งในและนอกวงการต่างพากันจับตามอง ว่าแท้จริงแล้ว เป็นชายแท้หรือชายเทียม วันนี้น้องภูถึงกับตัดสินใจอย่างกล้าหาญ เลือกที่ทำสิ่งนี้กับพ่อ!
กลายเป็นเรื่องรบกวนจิตใจของ น้องภู เมื่อพี่น้องชาวตลกต่างพากันล้อเลียนถึงความไม่แมนของตัวเอง ทำให้ลูกชายของ นุ้ยและตั๊ก ถึงกับเกิดอาการเครียด ถึงขั้นตัดสินใจขอมาปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อลำพัง!
ล่าสุด นุ้ย เชิญยิ้ม ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อโดยระบุว่า “เขามาคุยตัวต่อตัวกับผมแล้วแบบลูกผู้ชาย ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้พ่อจะว่ามั้ย ซึ่งตอนแรกผมเองก็ตกใจ แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ขอให้ลูกเป็นคนดีและเรียนเก่ง มีอนาคตและงานทำที่ดี หนูจะเป็นอะไรก็เรื่องของหนูนะ”
พร้อมทั้งเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวของลูกชายในอนาคต ที่แน่นอนว่า อนาคต อาจจะแต่งตัวมากไปกว่าทุกวันนี้ แต่คงจะต้องคอยเตือนลูกว่าสิ่งไหนเยอะเกินไป เพราะบางเรื่องอาจยังไม่ถึงวัย ซึ่งความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ แต่เรารับความจริงที่เกิดขึ้นได้ แต่อย่าให้มากไปก็จะบอกลูกไว้
ส่วนสาเหตุที่ภรรยาคนสวยอย่าง “ตั๊ก ศิริพร” ได้ประกาศลาวงการอีก 2 ปีนั้น อาจเป็นเพราะภรรยาเหนื่อยจากการทำงานและมีงานทุกวัน เพราะไปไหนไม่ได้ แต่งานในวงการเขาชอบ แม้อายุมาก แต่งานยังดีอยู่ จึงแนะนำว่าควรให้เลือกรับเป็นงาน ๆไป
หมอแนะ! ทำอย่างไรเมื่อลูกกลายเป็นเพศที่ 3 คลิก!
เครดิต: ข่าวสด และ ไนน์เอ็นเตอร์เทน
เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้สังคมในปัจจุบันเปิดกว้างมากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ การเปิดเผยถึงการเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจนว่า ฉันอยากเป็นเพศหญิง หรือเป็นเพศชาย ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนเกิดความเครียด เมื่อต้องรู้ว่า ลูกหัวแก้วหัวแหวนนั้น ได้เปลี่ยนแปลงเพศของตัวเองไปเป็นเพศที่ 3 เรียบร้อยแล้ว
นายแพทย์ทวีศิลป์ ได้แนะนำว่า หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกกำลังเปลี่ยนไป แนะนำให้ช่วยปรับพฤติกรรมของลูกก่อน โดยสามารถทำได้ในช่วง 2 อายุวัย คือ
-
ช่วงอายุ 3 - 5 ขวบ ช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่เด็ก ๆ จะเริ่มสนใจอวัยวะเพศของตัวเอง สามารถแยกเพศตัวเองกับเพศตรงข้ามได้แล้ว หากคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกเริ่มแสดงพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ให้พยายามชวนลูกเล่นของเล่นหรือทำกิจกรรมที่เหมาะสมกับเพศของลูกแทน
-
ช่วงวัยรุ่น ประมาณ 11 - 19 ปี วัยนี้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง และเริ่มสนใจเพศตรงข้าม หากคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกเริ่มแสดงพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ควรแก้ไขโดยการแสดงบทบาทความเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เหมาะสมให้ลูกเห็น พร้อมพูดคุยเสนอแนะวิธีการแสดงออกทางเพศที่เหมาะกับลูก ด้วยท่าทีที่ลูกจะสัมผัสได้ถึงความรักและความหวังดี
กลับกัน ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่รู้แล้วและรับไม่ได้ และบังคับข่มขู่ลูกด้วยความรุนแรง บังคับให้ลูกเข้าโรงเรียนที่มีระเบียบวินัยเข้มงวด เช่น โรงเรียนฝึกทหาร ก็จะยิ่งส่งผลให้ลูกกู่ไม่กลับมากยิ่งขึ้น!
อ่านคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 ประการ คลิก!
นอกจากคำแนะนำของคุณหมอแล้ว เราก็มีคำสอนของ พระอาจารย์ประสงค์ปริปุณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มาฝากด้วยเช่นกัน โดยท่านได้กล่าวถึงหนทางสู่ความสุขของคุณพ่อคุณแม่และลูกที่เบี่ยงเบนทางเพศ ไว้ว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า มี 5 ประการ คือ
1. อยู่กับปัจจุบัน ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้ ควรทำความเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งอยู่ได้ และดับไปได้ด้วยกันทั้งนั้น
2. ยอมรับ ครอบครัวควรยอมรับผลจากอดีตที่เคยทำมา ซึ่งผลจากอดีตนั้นมีทั้งจากอดีตในภพนี้และจากอดีตชาติที่เคยก่อกรรมร่วมเวรกันมาด้วย
3. อดทน แล้วรับฟังกันและกันจากใจจริง
4. แก้ไข เมื่อทราบว่าลูกยังสามารถแก้ไขได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี พร้อมทั้งสั่งสอนลูกอย่างเข้าอกเข้าใจ เพื่อจะได้หาทางแก้ไขร่วมกัน
5. ปล่อยวาง หากครอบครัวพยายามช่วยเหลือกันทุกวิถีทางแล้วก็ยังไม่เป็นผล การปล่อยวางเป็นหนทางแห่งความสุขที่ดีที่สุด
ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงความรักและความเข้าใจ พยายามหาทางออกของปัญหาดังกล่าวร่วมกัน เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เขาเรียกร้องบ้างตามโอกาสที่เหมาะสม และไม่ควรปล่อยปละละเลยลูกจนมากเกินไป นอกจากนี้ ควรที่จะสอนให้ลูกเข้าใจถึงสภาพทางสังคมของคุณพ่อคุณแม่ ด้วยการให้เกียรติท่านด้วย เพียงเท่านี้ ต่อให้ลูกเราจะเป็นเพศอะไร ก็ไม่สามารถมาทำลายสถาบันครอบครัวได้เลยละค่ะ
เครดิต: Good Life Update
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
- ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาในนิทานเรื่อง ครอบครัวแสนธรรมดาของคุณจระเข้กับคุณยีราฟ
- 5 วิธีสร้างความอบอุ่น และผูกพันในครอบครัว
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่