แม่เลี้ยงดูมาตลอด 28 ปีน้ำตาตกใน หลังผล ตรวจดีเอ็นเอ ชี้! ลูกชายไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของตัวเอง
เรื่องราวดราม่าในครั้งนี้ เกิดขึ้นอีกครั้งกับคุณแม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่หัวใจแตกสลาย เมื่อได้ค้นพบความจริงที่ว่า ลูกชายที่เธอเลี้ยงดูฟูมฟักมาอย่างดีตลอด 28 ปีที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของตัวเอง!
โดยเรื่องราวนี้เกิดแดงขึ้นเมื่ออดีตสามีที่หย่าขาดกันไปเมื่อปี 2004 นั้น ต้องการให้คุณแม่ ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากไม่เข้าใจว่า ทำไมลูกชายคนนี้ถึงได้หน้าตาดีหล่อเหลาเกินไป ซึ่งผลที่ออกมานั้นเป็นไปอย่างที่สามีภรรยาทั้งคู่คิดนั่นก็คือ ลูกชายที่ทั้งสองเลี้ยงดูมานั้นหาใช่ลูกที่แท้จริงของคนทั้งคู่ไม่!
และในปี 2016 คุณแม่ได้ทำการ ตรวจดีเอ็นเอ อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ และผลที่ได้ก็ชี้ชัดเหมือนเดิมว่า ดีเอ็นเอนั้นไม่ตรงกัน โดยคุณแม่ท่านนี้ได้เปิดเผยผ่านสื่อท้องถิ่นว่า “เด็กคนนี้เขาทั้งตาโต จมูกโด่ง ในขณะที่อดีตสามีนั้น หน้าตาไม่ได้ดูดีมากถึงขนาดนั้น ทำให้มีความแตกต่างกันอย่างชััดเจน จนทำให้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้านและบรรดาเพื่อน ๆ เกิดความสงสัยและมักจะถามตัวเองเสมอว่า ทำไมลูกชายถึงได้หล่อขนาดนี้ มีวิธีการเลี้ยงดูอย่างไรถึงทำให้ลูกชายดูแตกต่างจากคนในครอบครัว”
คุณแม่เชื่อว่า สาเหตุของต้นตอทั้งหมดนั้น อาจมาจากโรงพยาบาลที่นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของลูกชายน่าจะส่งลูกผิดคนให้กับเธอตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1989 และปัจจุบันเธอก็กำลังอยู่ในช่วงของการดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากโรงพยาบาลดังกล่าวอยู่เป็นเงินถึง 1.3 ล้านหยวนหรือคิดเป็นเงินไทยประมาร 6.4 ล้านบาท
ขณะเดียวกันด้านลูกชายก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ทำให้เขาไม่สามารถรับความจริงนี้ได้ ชมคลิป!
การตรวจหาดีเอ็นเอคืออะไร คลิก!
เครดิต: เดลินิวส์ The Sun และ คลิปจาก Kathy
ตรวจหาดีเอ็นเอ คืออะไร?
การตรวจหาดีเอ็นเอที่ว่านี้นั้นถือเป็นวิธีการตรวจเพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นการพิสูจน์ถึงความเป็นญาติพี่น้อง และผู้สืบเชื้อสาย อีกทั้งยังเป็นการใช้เพื่อการสืบสวนและดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อค้นหาข้อมูลของผู้กระทำความผิด
DNA คือ สิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นสารพันธุกรรมและสามารถถ่ายทอดข้อมูลพันธุกรรมนี้ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน เปรียบเสมือนหนังสือคู่มือในการสั่งให้สร้างคุณขึ้นมา โดยปรกติแล้ว DNA ส่วนใหญ่ของคนเราจะเหมือนกันในแต่ละคนเช่นจะมีลักษณะ สองตา สองหู หนึ่งจมูก แต่มันจะมีตัวแปรบางตัวแปรจำนวนหนึ่งของมันที่ทำให้เราดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ เพราะอย่างนี้ การตรวจดีเอ็นเอจึงสามารถใช้ในการพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคล อย่างที่เรามักจะเห็นตามรายการทีวีที่บางครั้งตำรวจใช้หลักฐานผลการตรวจดังกล่าวเพื่อมัดตัวผู้ร้ายนั่นเอง
ผลการตรวจแม่นยำขนาดไหน?
การตรวจดีเอ็นเอในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตราฐานทุกแห่ง พบได้ว่ามีความแม่นยำมากถึงร้อยละ 100 เลยละค่ะ และในทางปฏิบัติจะพิจารณาความแม่นยำของการทดสอบ ร่วมกับปัจจัยทางชีวภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผลการทดสอบมีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูงมาก ในบางห้องปฏิบัติการอาจมีการทดสอบแบบแผนสารพันธุกรรมจากสิ่งส่งตรวจของบุคคลที่สามเพิ่มเติม แต่ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว การตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดาอาจไม่ได้ตรวจเพียงวิธีเดียว เช่นเดียวกับหลักการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทั่วไป ในกรณีที่ต้องการทดสอบความเป็นพี่น้องหรือลูกหลานเว้นชั่วอายุคน พบว่าด้วยเทคนิคดังกล่าวจะความแม่นยำประมาณร้อยละ 90
ในยุคปัจจุบันนี้เรื่องการสืบหาความเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง หรือสืบเชื้อสายว่ามีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือไม่นั้น คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยความที่เรามีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปมาก จึงสามารถหาคำตอบได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมีผลค่อนข้างแม่นยำ นั่นก็คือวิธีการตรวจหา DNA ในแต่ละประเภท คือ
1. การตรวจเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดา
2. การตรวจเพื่อพิสูจน์ความเป็นมารดา
3. การตรวจเพื่อพิสูจน์ความเป็นพี่น้อง
4. การตรวจเพื่อพิสูจน์ความเป็นฝาแฝด
อ่านขั้นตอนการตรวจ คลิก!
ขั้นตอนการ ตรวจดีเอ็นเอ
ขอยกตัวอย่างในการตรวจเพื่อพิสูจน์ถึงความเป็นบิดา สามารถทำได้จากการเก็บตัวอย่างมาพิสูจน์ ซึ่งตัวอย่างที่ว่านี้สามารถหาได้จาก
- การเจาะเลือดตรวจ
- ตรวจจากเซลล์เยื่อบุกระพุ้งแก้ม โดยนำเครื่องมือขูดเยื่อบุสกัดผิวเซลล์ที่เป็นเปลือกให้แตกออกมา โดยวิธีนี้เหมาะจะใช้กับผู้ที่เพิ่งได้รับเลือดมา หรือในกรณีผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะเมื่อได้ตัวอย่างมากแล้ว จะนำตัวอย่างของผู้ขอรับการตรวจ ไปสกัด DNA ออกมาเป็นเส้น แล้วใช้น้ำยาตรวจดูว่า มีลำดับการเรียงตัวของอนุพันธ์อย่างไร ก่อนจะแปรผล ออกมาเป็นกราฟ โดยมนุษย์จะมี DNA 2 ชุดเหมือนกับโครโมโซมที่มี 2 ชุด โดย DNA 1 ชุดจะมีตัวเลขที่สามารถอธิบายได้ว่ามาจากแม่ ส่วนอีก 1 ชุดจะมาจากพ่อ
โดยผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจ DNA ทั้งหมด 16 ตำแหน่ง เพื่อเปรียบเทียบอธิบายว่าตัวเลขในแต่ละตำแหน่งมาจากพ่อหรือแม่ โดยใช้การวิเคราะห์ทางสถิติ คำนวณความน่าจะเป็นนั่นเองค่ะ
แต่จากข่าวดราม่านี้ เชื่อเถอะค่ะว่าถึงต่อให้ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ คนเป็นแม่ทุกคนก็รักลูกไม่เคยเปลี่ยนไปอยู่ดี คุณแม่ ๆ ทางบ้านเห็นด้วยเหมือนกันไหมคะ
เครดิต: กระปุกดอทคอม และ Got To Know
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่