AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เผยเคล็ดลับ! การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กน่ารักเหมือน “น้องพลอยเจ”

เผยเคล็ดลับ การเลี้ยงลูกของแม่บีและพ่อจิม ทำยังไงให้ลูกเป็นเด็กน่ารักสดใส เหมือน น้องพลอยเจ

น่ารักกว่าตุ๊กตา ก็ “พลอยเจ” นี่แหละ!! ทั้งสดใสและร่าเริงแบบนี้ แม่บีและพ่อจิม มีเคล็ดลับอะไรในการเลี้ยง น้องพลอยเจ กันนะ..ตามไปอ่านบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive กันเลยค่า

เผยเคล็ดลับ การเลี้ยงลูกของแม่บีและพ่อจิม
ทำยังไงให้ลูกเป็นเด็กน่ารักสดใส เหมือน น้องพลอยเจ

ทำอย่างไรถึงจะมีลูกได้น่ารักเหมือน น้องพลอยเจ กันนะ ?? …. นี่เป็นหนึ่งคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของแม่ฮันน่าห์ เพราะเหมือนได้ไปสัมภาษณ์และใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ ก็ทำให้รู้สึกอิจฉาและอยากมีลูกน้อยแบบนี้บ้าง!

เรียกได้ว่ากำลังน่ารักน่าเอ็นดูเลยสำหรับ น้องพลอยเจ สาวน้อยแววตาบ้องแบ๊ว ใบหน้าสดใส แถมรอยยิ้มแสนหวาน ลูกสาวสุดหวงของนักแสดงหนุ่ม คุณจิม เจจินตัย อันติมานนท์ และคุณบี พลอยพัชชา แวนดิว ที่ตอนนี้มีแฟนคลับเยอะมากเรียกได้ว่ากำลังขึ้นแท่นเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของวงการบันเทิง และดูเหมือนว่าจะฮอตยิ่งกว่าคุณพ่ออีกด้วย

ซึ่งเห็นน้องพลอยเจน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า ทั้งแม่บีและพ่อจิมมีเคล็ดลับในการเลี้ยงลูก ให้น้องพลอยเจเป็นน่ารักได้อย่างไร และแท้จริงแล้วน้องพลอยเจเป็นเด็กที่มีนิสัยแบบใด จะอ่อนหวานเหมือนหน้าตาหรือไม่ แม่ฮันน่าห์ และ ทีมแม่ ABK ได้ไปสัมภาษณ์พร้อมล้วงความลับของน้องพลอยเจมาให้แล้วค่ะ ตามไปอ่านกันเลย

ขอบคุณภาพจากไอจี @ploy_mermaid

♥ พลอยเจดาริน ชื่อนี้แม่ได้มาเพราะฝัน!

ทำไมชื่อพลอยเจ : ถ้าเป็นชื่อเล่นว่า พลอยเจ ก็คือการนำชื่อจริงตัวแรกของพ่อกับแม่มารวมกัน แต่สำหรับชื่อจริง “พลอยเจดาริน” เหมือนเป็นนิมิตของคุณแม่เอง คือเราเขียนไว้หลายชื่อมากเกือบ 10 ชื่อ แล้วนอนฝัน ฝันว่าให้ลูกชื่อนี้ แล้วมันมีในลิสต์ที่เราลิสต์ไว้พอดี ก็เลยได้ชื่อว่า พลอยเจดาริน ก็รู้สึกว่าน่ารักดี เลยเอาชื่อนี้ แล้วมารู้ทีหลังเปิดพจนานุกรม มาดูความหมาย ก็คือแปลว่า เจ้าหญิงดุจดั่งเพรช เราก็เลยเอาชื่อนี้

 

♥ แม่อารมณ์ดีขำเก่งตั้งแต่ตอนท้อง!

เคล็ดลับการเลี้ยง น้องพลอยเจ ให้เป็นเด็กน่ารักสดใส : น่าจะเป็นตั้งแต่ตอนท้อง คือแม่เป็นคนเส้นตื้น ขำเก่งอยู่แล้ว แต่ตอนท้องจะเส้นตื้นหนักมาก  อยู่บ้านก็ดูแต่ซีรีย์ที่เป็นตลก รถวิ่งผ่านก็นั่งหัวเราะอยู่คนเดียว  อารมณ์ดีเห็นอะไรก็ขำไปหมดเลยก็เลยกลายเป็นอะไรที่มันซึมซับไปกับน้อง พอออกมาเค้าก็กลายเป็นเด็กอารมณ์ดี  ซึ่งทั้งความน่ารักสดใสร่าเริงนี้ก็ได้มาทั้งจากคุณพ่อและคุณแม่ด้วย เพราะเราเป็นคนแบบ alert ทั้งคู่ ขี้เล่น แล้วก็เป็นคนตลก น้องก็เลยได้รับสิ่งนั้นมา

ขอบคุณภาพจากไอจี @jayjintai

♥ 95% คือเหมือนคุณพ่อ!!

น้องพลอยเจมีบุคลิกหรือนิสัยเหมือนใคร : 95% เลย คือเหมือนคุณพ่อค่ะ อันนี้คือไม่ได้เห็นด้วยตาเปล่าอย่างเดียว หรือเพราะคนอื่นพูด ซึ่งก็ไม่เชื่อ จนพาน้องพลอยเจไปตรวจวิเคราะห์ลายนิ้วมือ ผลออกมาคือ ตรงกับคุณพ่อ 95% ก็เลยยิ่งเชื่อ เพราะทั้งหน้าตา นิสัย ลักษณะการกินการพูด ก็เหมือนหมดเลย หรือแบบความลุยๆ ชอบออกกำลังกาย ใช้พลัง คือแบบมีความเป็นพ่อสูงมาก

แต่ถ้าลักษณะนิสัยส่วนตัวของ น้องพลอยเจ พื้นฐานเค้าจะเป็นเด็กขี้สงสาร เซนซิทีฟ และอ่อนโยนมาก เห็นอะไรเค้าก็จะขี้สงสาร ดูยูทูปเห็นคนเจ็บก็ร้องไห้ น้ำตาไหลเลย  ไปพิพิธภัณฑ์เห็นกวางตาย ก็ถามว่าเค้าเจ็บใช่มั้ย ไปหาหมอทันมั้ย มีน้ำตาคลอนิดๆ

 

♥ ไม่บังคับลูก แต่มีกรอบไว้ให้เค้ากว้างๆ

สไตล์การเลี้ยงลูกของพ่อจิมและแม่บี : เราเป็นลูกที่ถูกคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงมาแบบให้เราคิดเอง คือไม่เคยบังคับอะไรทั้งสิ้น อยากเรียนอยากทำอะไรตามใจเรา แล้วเราก็เลยรู้สึกว่าก็ดี เราก็ไม่ได้เกเรอะไร แล้วเราก็เรียนจบมาดี อะไรดีทุกอย่างโดยที่ไม่ได้ถูกบังคับ ก็เลยตั้งใจกับตัวเองไว้ว่าเราจะไม่บังคับลูก

แต่พอเรามีลูกจริงๆ มันไม่ได้อย่างนั้น คือมันไม่ได้ที่จะไม่บังคับเลย แล้วก็เคยพาน้องไปตรวจลายนิ้วมือดู  ผลที่ออกมาคือ ลักษณะนิสัยน้องพลอยเจอย่างที่บอก คือเค้าจะเป็นเด็กที่โอนเอียงไปตามคนอื่นได้ง่าย ถ้ามีเพื่อนดีก็จะดีเลย แต่ถ้าเพื่อนไม่ดีก็จะไม่ดีด้วย เพราะเค้าจะเป็นผู้ตามที่ดี ซึ่งก็นิสัยเหมือนคุณพ่อเลยที่เป็นผู้ตามที่ดี คุณหมอจิตวิทยาที่นั่นเค้าก็เลยบอกว่าไม่ดี เราควรกำหนดให้เค้าว่าแบบจะต้องเดินทางนี้นะลูก เค้าก็จะเดินตามกรอบเรา ซึ่งถ้าเราไม่กำหนดไว้ เค้าก็จะตามเพื่อนเลย และซึ่งเราก็ไม่รู้เลยว่าเพื่อนจะดีหรือไม่ดี

เราก็เลยเริ่มกำหนด เราบอกให้เค้าทำอะไร แต่ก็มีกรอบไว้ให้เค้ากว้างๆให้เค้าตัดสินใจด้วย แต่ก็มีกรอบแบบเอาไว้นำทางให้เค้าเฉยๆ แต่ถ้าถามใจเราก็ยังคิดว่าถ้าเค้าชอบอะไร โดยที่มันไม่ได้เสียหายอะไรก็ยังปล่อยเค้า

 

♥ พ่อจะเลี้ยงแบบลุยๆ >> ส่วนคุณพ่อก็จะเลี้ยงสไตล์แบบชอบคิดว่าลูกเป็นผู้ชายตลอดเวลา เลี้ยงแบบปล่อยๆ เพราะตอนแรกเค้าอยากได้ลูกผู้ชายแล้วเราอยากได้ลูกผู้หญิง ซึ่งพอได้ลูกออกมาเป็นผู้หญิงเค้าก็โอเค แต่ก็จะเลี้ยงแบบสไตล์เค้าในความเป็นผู้ชาย ปล่อยลูกให้ทำอะไรไปเลยลุยไป

ซึ่งในการเลี้ยงลูกของเราสองคนไม่มีตอนที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันเลย เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่าคุณจิมเค้าจะมีนิสัยเป็นผู้ตามที่ดี เค้าก็จะถามเรา ส่วนเราพอลูกเริ่มโต เราก็จะอ่านดูหนังสือทุกคืนว่าลูกช่วงนี้วัยนี้เป็นยังไงเค้าต้องการอะไร ก็กลายเป็นว่าติดอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก เค้าก็เลยจะโอเคๆ เห็นด้วยเพราะเค้าไม่ได้อ่าน ก็เลยฟังเรา

 

♥ เป็นเด็กที่ต้องเอาความน่าสงสารเข้าสู้!

น้องพลอยเจกลัวใครมากกว่ากัน : พลอยเจเป็นเด็กที่ถ้าดุแล้วเค้าไม่ฟัง คือเค้าไม่ได้กลัวพ่อหรือแม่ พลอยเจเป็นเด็กที่ต้องเอาความน่าสงสารเข้าสู้ ถ้าบอกว่า “พลอยเจหม่ามี๊เจ็บ หม่ามี๊เสียใจมาก” เค้าก็จะถามว่าหม่ามี๊เป็นอะไร … ก็คือต้องดราม่าใส่เค้า แต่ถ้าบอกว่าพลอยเจหยุดนะ!! เค้าก็จะไม่ ถ้าแม่บอกหยุดก็คือวิ่งไปเลยค่ะ คำว่า No หรือ ห้ามต่างๆ ใช่กับเค้าไม่ได้

แต่ถ้าบอกว่าหม่ามี๊เหนื่อย ทำหน้าเศร้าร้องไห้ “เค้าจะเดินเข้ามาโอ๋ถามว่าเป็นอะไร โอเคๆ พลอยเจไม่ทำแล้ว” ต้องใช้ความดราม่าเข้าใส่ ถ้าขึ้นเสียงคือไม่ได้ผลเลย เค้าไม่กลัว

 

อ่านต่อ >> เรื่องที่เน้นสอนพลอยเจและวิธีการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด
ในแบบแม่บีและพ่อจิม คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

♥ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ นะลูก!

เน้นสอน น้องพลอยเจ เรื่องอะไร? : อย่างแรกเลยคือเค้าค่อนข้างโตมาแบบมีคนสปอยล์ตั้งแต่เด็ก เพราะว่าการที่มีแฟนคลับเค้าก็จะส่งของเอาอะไรมาฝากพลอยเจ คุณแม่เองก็จะเน้นสอนว่า ถ้าพลอยเจจะเอาหรืออยากได้อะไร เราต้องทำอะไรแลกกับมันนะ คือจะไม่ได้แบบได้มาฟรีๆ ง่ายๆ เพราะรู้สึกว่าเค้าได้เยอะมาก แล้วเค้าก็จะไม่เห็นคุณค่า ซึ่งคุณแม่ไม่อยากให้เค้าเป็นแบบนั้น ก็เลยบอกเค้าว่าถ้าอยากได้อะไรต้องทำงานก่อนนะลูก หนูต้องทำงานแบบนี้ๆนะ แล้วพอเราทำงานเสร็จเดี๋ยวเราก็จะได้อันนี้ เค้าก็โอเค ซึ่งเดี๋ยวนี้เราก็คอยถามหรือเวลามีคนถามว่าพลอยเจอยากได้นู่นนี่มั๊ย เค้าก็จะบอกว่า “อยากได้…แต่เดี๋ยวพลอยเจต้องไปทำงานก่อน…เดี๋ยวพลอยเจไปทำแบบนี้ก่อนนะ แล้วพลอยเจก็จะได้เงินไปซื้อของเล่น”

 

ขอบคุณภาพจากไอจี @jayjintai

♥ ไม่ได้วางแผนหรือบังคับ แต่ถ้าเห็นว่าเค้าชอบเค้ากล้าทำ เราก็พร้อมดัน!

วางแผนอนาคตหรือเรื่องการเรียน น้องพลอยเจ ไว้ยังไง? : เราไม่ได้วางแผนหรือบังคับว่าเค้าจะต้องไปทางไหน เราจะค่อยๆ ดูว่าต้องเพิ่มหรือลดอะไร แต่ว่ายังเห็นไม่ชัดเจนหรอกว่าเค้าจะชอบอะไร เราเลยให้เค้าเรียนทุกอย่างเลือกทุกอย่างที่เค้าชอบไปก่อน แล้วเรารู้สึกว่าเมื่อโตเค้ารู้ด้วยตัวเองว่าชอบอะไร ก็แล้วแต่เค้า

ก่อนหน้านี้ก็มีพาไปเรียนร้องเพลง แต่ก็หยุดไปแล้ว เพราะตอนอยู่บ้านเค้าชอบมาก เค้าเต้นตลอด เปิดคอนเสิร์ตให้แม่ฟังตลอด ร้องเพลงแล้วมีไมค์ มีเปียโนเล่นๆๆ ให้ฟังทุกวัน เราก็คิดว่าลูกคงชอบทางนี้ เราก็เลยพาเค้าไปเผื่อจะได้ส่งเสริม แต่สรุปคือไม่เลย คือต่อหน้าคนเค้าไม่เอา เค้าเป็นเด็กขี้อาย เค้าแค่รู้สึกว่ามันสนุกอยากทำแต่ที่บ้าน … เราก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากตัดสินว่าเค้าชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งตอนนี้ที่เห็นก็คือสนุกกับการออกกำลังกาย ว่ายน้ำ คุกกิ้ง เห็นว่าเค้าชอบเค้ากล้าทำ เราก็เลยดันไปทางนั้นก่อน

 

♥ เอาลูกตั้งเป็นที่หนึ่งก่อนเสมอ

เม้าท์คุณพ่อจิม เปลี่ยนไปแค่ไหนตอนก่อนมีลูกกับหลังมีลูก : เปลี่ยนไปเหมือนคนละคน นิสัยพื้นฐานอาจเหมือนเดิม เพราะเค้าเป็นคนจิตใจดีเป็นคนอ่อนโยนและเป็นคนเซนซิทีฟ ซึ่งลูกก็ได้ไป ส่วนเรื่องที่เปลี่ยนคือ จากที่เคยไปเจอเพื่อนทุกวัน ต้องปาร์ตี้มีสังสรรค์กับเพื่อนผู้ชาย คือตั้งแต่มีลูกมาก็ไม่ไปเลย ถ้าไปก็จะเอาลูกไปด้วยแล้วพอถึงเวลาก็บอกว่าเค้าต้องกลับแล้วลูกง่วงเดี๋ยวต้องไปโรงเรียน เค้าจะเอาลูกเป็นหลัก ก็คือทุกวันนี้ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรก็เอาลูกตั้งเป็นที่หนึ่งก่อนเสมอ ซึ่งแต่ก่อนเพื่อนเป็นที่หนึ่งไม่เคยปฏิเสธ แต่ตอนนี้ปฏิเสธหมด ถ้าแบบว่าลูกไม่โอเค ลูกไปไม่ได้ ไปร้านไหนลูกนั่งไม่ได้คนเยอะมีเสียงดังก็ไม่ไป แต่เพื่อนเค้าก็น่ารักเพราะเข้าใจกันหมด

ขอบคุณภาพจากไอจี @ploy_mermaid

♥ เด็กทุกคนไม่เหมือนกัน…เราอยากให้เค้ามีความสุข แค่นั้น!!

วิธีการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด ในแบบของพ่อจิมและแม่บี : รู้สึกว่าการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุดของตัวเราหรือครอบครัวอื่น คือ ต้องมองว่าเด็กทุกคนไม่เหมือนกัน คือถ้าเราจะอยากเลี้ยงลูกให้เป็นเหมือนคนนี้ หรือเลี้ยงตามแบบแผนซึ่งมันก็ไม่ได้ เพราะเด็กทุกคนไม่เหมือนกัน ตัวเราเองก็จะคิดแค่ว่า อยากให้เค้าเป็นตัวของตัวเอง แค่เค้าใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกๆวัน ไม่ต้องเก่ง ซึ่งเราไม่อยากให้ลูกเรียนเก่ง คือคนอื่นเค้าจะอยากให้ลุกต้องเรียนแบบนี้ให้เรียนอัดๆเข้าไป ซึ่งของเราคือไม่เลย หรือแม้กระทั่งโรงเรียนที่เราเลือกให้ตอนนี้ ก็ไม่ได้คิดว่าลูกต้องเรียนเก่ง แค่รู้สึกว่าให้ลูกไปเล่นแบบสบายๆ ให้เค้ามีความสุขอยากไปเรียนทุกวัน และซึ่งก็เป็นแบบนั้นเพราะทุกวันนี้คือตื่นมาก็อยากไปโรงเรียน ไม่ต้องบังคับเค้า ก็เลยรู้สึกว่าโอเคตอบโจทย์ เพราะเราอยากให้เค้ามีความสุข ทำอะไรก็ได้เพื่อเค้าในกิจกรรมและการใช้ชีวิตของเค้า

♥ เค้าเป็นเด็กที่ใครอยู่ด้วยก็ต้องขำ เป็นเด็กที่เหมือนให้ความสุขกับคนอื่น

สิ่งที่ภูมิใจในตัวน้องพลอยเจมากที่สุดตอนนี้ : สิ่งที่ภูมิใจในตัวพลอยเจ คือเค้าทำงานตั้งแต่เด็ก ซึ่งน้อยคนมากหรือถ้าเป็นเด็กทั่วไปถ้าไปทำงานเค้าอาจจะงอแง แต่พลอยเจไม่ค่อยงอแงเลย และมันจะเป็นไปแบบอัตโนมัติเราไม่ต้องบังคับเค้า เพราะเค้าไม่งอแงหรือมีความยากในการทำงาน และเค้าเป็นเด็กที่ใครอยู่ด้วยก็ต้องขำ เค้าเป็นเด็กที่เหมือนให้ความสุขกับคนอื่น  ซึ่งก็รู้สึกภูมิใจใจตัวเค้าที่เป็นแบบนี้ที่สร้างความสุขให้กับคนอื่น แล้วเราจะเห็นบ่อยมากเวลาที่ FC โพสต์คือเป็นเด็กที่ให้ความสุขกับคนอื่นได้จริงๆ

ซึ่งมี FC อยู่คนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย แล้วเค้าดูพลอยเจตั้งแต่คลอดมาวันแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็น FC ตั้งแต่แรก แต่เค้าป่วยแล้วไปไหนไม่ได้ ก็คือได้เห็นและติดตามน้อง จนทุกวันนี้ประมาณ 3 ปีจนเค้าหายดี และเค้าก็เป็นคนไม่มีครอบครัวเค้าซึ่งก็จะไดเรคมาหาแล้วบอกว่าพลอยเจคือพลังเป็นกำลังใจของเค้า ซึ่งเราก็ตื้นตันว่าลูกเราให้ความสุขกับทุกคนได้จริงๆ ซึ่งแม้เค้าจะซนบ้างแต่เค้าก็น่ารักในมุมของเค้า

 

♥ ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกเอง

คือเอาจริงๆ คุณแม่เพิ่งไปอ่านเจอมาตอนก่อนที่จะเลี้ยงลูกเองอีก คือเด็กจะมีปฏิกิริยาต่อพ่อแม่ที่เลี้ยงเช่นการอุ้มซึ่งก็จะได้ความอบอุ่นจากตรงนั้น แต่ก็เข้าใจว่าสมัยนี้ที่พ่อแม่จะมาเลี้ยงลูกอยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ได้เพราะต้องทำงาน แต่ตัวเรารู้สึกว่าความอบอุ่นจากจากสัมผัส เวลากลับมาจากทำงานกอดลูก พูดคุยเอาใจใส่เค้า เค้าก็จะเป็นเด็กที่ดีได้ อ่อนโยน ไม่ขาดความอบอุ่น ซึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าเหนื่อยทำงานกลับมาเจอลูกงอแงอีก แต่คือมันสำคัญมากกับการให้ความรักความเอาใจใส่เค้า อยากพ่อแม่ทุกคนสู้ๆ ซึ่งสมัยก่อนมีลูก 5-6 คนยังเลี้ยงได้ แต่ตอนนี้คนเดียวก็ยังไม่ค่อยมีเวลา

แต่ลูกก็คือความรักของเรา เราเลี้ยงตอนนี้อาจจะเหนื่อย แต่พอโตไปเมื่อเค้าได้รับความรักความเอาใจใส่เพียงพอ เชื่อว่าเค้าจะเป็นเด็กที่ดีได้ แล้วเค้าก็จะรักเราเหมือนที่เรารักเค้า หรือแม้ว่าครอบครัวไหนที่ไม่ได้สั่งสอนเค้ามาเองหรือไม่ได้มีเวลาดูแลเค้าเต็มๆ แต่พอได้มาเจอกันก็ควรคอยโอบก่อนเค้า มีเวลาว่างก็พาเค้าไปเที่ยว ให้เค้ารู้ถึงความรักที่เรามี มันก็น่าจะโอเคนะคะ

 

♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษที่คุณแม่บีได้พูดถึงการเลี้ยงดู น้องพลอยเจ และคำแนะนำต่างๆ ในการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กน่ารักเหมือน น้องพลอยเจ ซึ่งแม่ฮันน่าห์เชื่อว่าแม้หลักการข้างต้นจะไม่สามารถใช้ได้กับเด็กทุกคน แต่ก็มีบางเรื่องราวที่สามารถนำไปปรับใช้กับลูกของเราได้ และเชื่ออีกว่าหลังจากนี้น้องพลอยเจน่าจะได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

ซึ่งครั้งต่อไปแม่ฮันน่าห์และทีมแม่ ABK จะได้ไปสัมภาษณ์ดาราคนดังถึงเทคนิคการเลี้ยงลูกของคนไหนอีกบ้าง ติดตามกันได้ที่เว็บไซต์ www.amarinbabyandkids.com เลย นะคะ ^^

 

ชมคลิปสุดน่ารัก ABK Mom’s Journey |EP.3 | น้องพลอยเจ พาตะลุย “พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า”

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ : 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids