รู้ทัน! ป้องกันได้ ด้วยการตรวจคัดกรอง ไวรัสตับอักเสบบี และซี!
” ไวรัสตับอักเสบบี – ซี “ โรคที่แม้แต่ป่วยเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น แล้วจะรู้ว่าป่วยได้หรือไม่ทำได้ด้วยวิธีการคัดกรอง และนี่ถือเป็นข่าวดี เมื่อกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับองค์การอนามัยโลก และสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวสัปดาห์รณรงค์ตับอักเสบโลก หลังพบคนไทยติดเชื้อไวรัสดังกล่าวร่วมประมาณ 3 ล้านคน!
พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าลดผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2564 และประกาศขอเชิญชวนประชาชนทุกคนเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีและซีได้ฟรี! ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคมถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ 104 แห่งทั่วประเทศ!
ไวรัสตับอักเสบบี และซี คืออะไร?
โรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคที่มีอาการอักเสบที่ตับ สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีบุกรุกเข้าสู่เซลล์ตับ ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบขึ้น ในบางรายเชื้ออาจจะฝังตัวอยู่ในร่างกายเป็นปีๆ โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่ทราบเลยว่าตัวเองกำลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ (เป็นพาหะ) เชื้อตัวนี้ยังสามารถแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็วในเซลล์ของตับ ส่งผลให้ตับอักเสบและถูกทำลาย
โรคไวรัสตับอักเสบซี เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซี สามารถติดต่อกันได้หลายวิธี อย่างเช่น ผ่านทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือเพศสัมพันธ์ พบโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 1 – 2 ของประชากรไทย โดยพบมากทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อไวรัสเข้าไปในร่างกายแล้ว มันจะอาศัยอยู่ที่ตับ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีส่วนใหญ่ไม่มีอาการ มักตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพหรือจากการบริจาคเลือด ผู้ปวยมักจะมีการอักเสบของตับน้อยๆ แต่เรื้อรัง ทำให้เกิดพังผืดในตับ นำไปสู่ภาวะตับแข็งและมีโอกาสเกิดมะเร็งตับในที่สุด
อ่านเนื้อหาข่าวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
เครดิต: The world medical center
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย Dr. Mukta Sharma ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเอดส์ วัณโรค และโรคไวรัสตับอักเสบ องค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และ รศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ นายกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวสัปดาห์รณรงค์ตับอักเสบโลก “ตรวจเร็ว รักษาได้ ห่างไกลมะเร็งตับ” ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ว่า
“กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับโรคไวรัสตับอักเสบ เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็งและมะเร็งตับ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในคนไทย โดยทั่วไปไวรัสตับอักเสบมี 5 ชนิด ได้แก่ ชนิด เอ บี ซี ดี และอี แต่โรคไวรัสตับอักเสบที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญในไทยและประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบบีและซี เห็นได้จากผลการสำรวจขององค์การอนามัยโลกที่พบว่ามีประชากรกว่า 325 ล้านคนทั่วโลกติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบดังกล่าวถึง 1.34 ล้านรายต่อปี” นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าว
ไวรัสตับอักเสบบี – ซี ติดต่อกันอย่างไร
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีนั้นจะคล้ายกับไวรัส HIV คือ
-
สามารถติดต่อผ่านทางเลือดและสารคัดหลั่ง
-
การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
-
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย
-
และติดต่อจากแม่สู่ลูก
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ ทำให้ผู้ติดเชื้อมักไม่ทราบว่าตนติดเชื้อแต่จะทราบอีกทีก็เมื่อเริ่มมีอาการรุนแรง หรือเป็นตับแข็งและมะเร็งตับแล้ว ซึ่งล่าช้าเกินไป ความรู้ความเข้าใจของประชาชนจึงมีความสำคัญต่อการป้องกันควบคุมโรคไวรัสตับอักเสบที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงได้จัดสัปดาห์รณรงค์ตับอักเสบโลก ประจำปี 2560 ภายใต้คำขวัญ “ตรวจเร็ว รักษาได้ ห่างไกลมะเร็งตับ” โดยประชาชนสามารถขอรับการตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ได้ฟรี ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 4 สิงหาคม 2560 ณ โรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 104 แห่ง ในทุกจังหวัด ทั่วประเทศ
อ่านเนื้อหาข่าวเพิ่มเติม คลิก!
ทั้งนี้ Dr.Mukta Sharma กล่าวว่า สถานการณ์โรคไวรัสตับอักเสบทั่วโลก พบว่าโรคไวรัสตับอักเสบเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับ 7 ของโลกและเป็นโรคติดต่อเพียงหนึ่งเดียวที่อัตราการเสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคไวรัสตับอักเสบในแต่ละปีเทียบเท่ากับจำนวนผู้เสียชีวิตจากวัณโรค เอดส์ และมาลาเรียรวมกัน หรือมากกว่า โดยร้อยละ 90 เกิดจากโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี
ด้าน รศ.พญ.วัฒนา กล่าวว่า จากประมาณการพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี พบ 1 คนในทุก ๆ 12 คน ในประเทศไทยพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับบี 5-8 % ไวรัสตับอักเสบซี 1-2% โดยพบว่ามีอัตราการติดเชื้อจากโรคตับอักเสบสูงกว่าโรคติดเชื้อชนิดอื่นที่อันตราย เช่นโรคเอดส์ หรือโรคมะเร็งบางชนิด ซึ่งประชาชนให้ความสนใจในการป้องกันและรักษาโรคไวรัสตับอักเสบน้อยมาก โดยส่วนใหญ่ยังคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว
ทั้งนี้ ในการรักษาเเม้ว่าไวรัสตับอักเสบบีจะรักษาให้หายขาดได้น้อย เเต่การรักษาสามารถควบคุมให้โรคสงบเเละป้องกันการเเพร่เชื้อ ส่วนไวรัสตับอักเสบซีสามารถรักษาให้หายขาดได้เเล้ว ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สงสัยว่าจะมีเชื้อไวรัสตับอักเสบมาคัดกรองโรค
ผู้ใดควรเข้ารับการตรวจ
1.ผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2535
2.ผู้ที่เคยใช้สารเสพติดด้วยวิธีฉีด
3.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
4.ผู้ที่เคยได้รับเลือดหรือสารเลือด
5.ผู้ที่เคยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
6.ผู้ที่เคยฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
7.ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
8.ผู้ที่มีคนในครอบครัว ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซี
9.ผู้ที่เคยสักผิวหนัง เจาะหู ฝังเข็ม ในที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล
10.ผู้ที่เคยได้รับการฉีดยาหรือผ่าตัดเล็กด้วยแพทย์พื้นบ้าน
11.ผู้ที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่เคยถูกเข็มหรือของมีคมตำ
12.ผู้ที่เคยใช้อุปกรณ์บางชนิดร่วมกับผู้อื่น เช่น แปรงสีฟัน มีดโกน กรรไกรตัดเล็บเข็มฉีดยา เป็นต้น
คลิก! ดูรายชื่อโรงพยาบาลทั้ง 104 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจและตรงตามคุณสมบัติที่ควรได้รับการตรวจ อย่าลืมติดต่อเพื่อขอรับใช้สิทธิ์ตามช่วงเวลาดังกล่าวกันนะคะ
เครดิต: Hfocus
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
-
กินน้ำถูกวิธี ลดความอ้วน ช่วยให้สุขภาพดี
-
กรมสุขภาพจิตพบ! เด็กเล็กเป็นโรคไฮเปอร์เทียม มากขึ้น เพราะพ่อแม่ให้ลูกเล่นแท็บเล็ต-มือถือ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่