ไทยแพนเผย!! ตรวจพบ สารตกค้างใน ผักปลอดสารพิษ หลังทำการสุ่มตรวจในตลาด!
ผักไฮโดรโปนิกส์ อาจไม่ใช่ทางออกสำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริงอีกแล้ว ภายหลังจากที่ไทยแพน ได้ทำการสุ่มตรวจพบสารดังบางชนิดปนเปื้อนอยู่ในผัก ไม่ว่าจะเป็นผักจากตลาดสด หรือผักจากห้างดังหลายแห่ง อาจจะสื่อได้ว่า การยอมเสียเงินแพง ๆ เพื่อซื้อผักปลอดสารพิษรับประทาน อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องเสมอไปจริง ๆ น่ะเหรอ
วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมาพูดถึงเรื่องนี้กันค่ะ พร้อมกับเสนอทางออกให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านได้ทำกัน รับรองว่า เงินที่สูญเสียไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นผักจากตลาด หรือว่าผักขึ้นห้าง ก็คุ้มค่าเงินแน่นอน!!
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>
เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหรือ “ไทยแพน” เผย! ผักไฮโดรโปนิกส์หรือ ผักปลอดสารพิษ ที่เรารับประทานกันนั้นไม่ใด้ปลอดสารเคมีเสมอไป หลังตรวจพบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างหลายชนิดในกลุ่มตัวอย่างผักไฮโดรโปนิกส์ที่สุ่มตรวจ และพบสารไนเตรทตกค้าง แต่ไม่เกินค่ามาตรฐานของสหภาพยุโรป
หลังทำการสุ่มตรวจไนเตรทและสารพิษตกค้างในผักไฮโดรโพนิกส์ 30 ตัวอย่าง จากตลาดสดและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ทั้งที่มีตราสินค้ารับรองและไม่ได้รับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย
นางสาว ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานไทยแพน เปิดเผยว่า ผลการสุ่มตรวจครั้งนี้มีผักจำนวน 19 ตัวอย่างที่พบสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างเกินค่ามาตรฐาน หรือคิดเป็นร้อยละ 63.3 ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด โดยพบผักที่ไม่มีการตกค้างเลย 8 ตัวอย่าง และพบว่าตกค้างแต่ไม่เกินค่ามาตรฐาน 3 ตัวอย่าง
ส่วนการตกค้างของไนเตรท ผักกลุ่มสลัด นั้นพบว่า มีการตกค้างแต่ไม่เกินค่ามาตรฐานของสหภาพยุโรป แต่พบตกค้างสูงได้แก่ ผักคะน้า ผักกาดฮ่องเต้ ผักโขมแดง และผักบุ้งจีน ตั้งแต่ 199-2,500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดค่ามาตรฐานการตกค้าง
ผักไฮโดรโปนิกส์ คืออะไร?
ไฮโดรโปนิกส์ หรือ Hydroponics เป็นผักที่ทำการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่าง ๆ ในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดเป็นอาหาร นั่นเองค่ะ ว่าแต่เราจะมีวิธีการทำความสะอาดผักดังกล่าวกันอย่างไรนั้น ไปหาคำตอบนี้กันค่ะ
อ่านต่อ >> วิธีการล้างผักให้สะอาด ปลอดภัย
เครดิต: เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) และ Wikipedia
ผักปลอดสารพิษ ล้างอย่างไรให้ปลอดภัยไร้กังวล
เพื่อให้การรับประทานผักนั้น ได้รับประโยชน์มากกว่าโทษ วันนี้ทีมงานจะมาขอนำเสนอวิธีการล้างผักให้สะอาด ถูกหลัก และปลอดภัยไร้กังวลค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมพร้อม ๆ กันค่ะ
- การแช่น้ำ การแช่น้ำก็เป็นการชำระล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายนอกได้ดีระดับหนึ่ง วิธีการแช่ผักเพื่อล้างสารพิษง่าย ๆ ก็คือล้างผักและผลไม้รอบแรกแบบธรรมดา ๆ จากนั้นให้เด็ดผักออกเป็นใบ ๆ หรือแยกผลไม้เป็นลูก ๆ แล้วนำมาแช่น้ำเปล่าไว้ 15 นาที จะช่วยลดสารพิษภายนอกได้มากที่สุดถึง 33 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ
- ล้างผักผลไม้แบบให้น้ำไหลผ่าน วิธีล้างผักผลไม้แบบนี้เหมาะสมเป็นอย่างมาก ที่จะนำมาล้างผักและผลไม้ต่อหลังจากการแช่น้ำ วิธีล้างก็แค่เอาผักที่เราเด็ดเป็นใบ ๆ หรือผลไม้ที่เราแยกไว้ มาใส่ในตะกร้าที่มีความห่างพอสมควร แล้วเปิดน้ำให้แรงในระดับหนึ่ง คลี่ผักและถูไปมาระหว่างล้างอย่างน้อย 1 – 2 นาที วิธีนี้สามารถลดสารเคมีตกค้างได้มากถึง 63 เปอร์เซ็นต์ แต่อาจจะเปลืองน้ำไปสักนิด แต่ก็เพื่อสุขภาพ เราก็ควรทำจริงไหมคะ
- ปอกเปลือกผลไม้ วิธีนี้เหมาะสำหรับผลไม้ที่มีเปลือก หรือผักที่ต้องลอกเปลือกนอกออกก่อน ยกตัวอย่างเช่น กะหล่ำปลี เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้สามารถล้างสารพิษได้มากถึง 72 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะสารพิษมันจะติดอยู่ที่เปลือกนอกนั่นเอง หลังจากที่ปอกเปลือกแล้วก็เอาไปแช่น้ำสะอาดสัก 10 นาที แค่นี้ก็กินได้อย่างหายห่วงแล้วละค่ะ
- ล้างด้วยน้ำส้มสายชู วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีคนรู้มากเท่าไร แต่รู้หรือไม่คะว่า น้ำส้มสายชูสามารถล้างสารพิษตกค้างได้มากถึง 84 เปอร์เซ็นต์ วิธีล้างก็ง่าย ๆ แค่เอาน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:10 จากนั้นก็แค่เอาผักผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกทีก็เรียบร้อยแล้ว แต่ควรพึงระวังผักบางชนิดที่อาจดูดกลิ่นของน้ำส้มสายชู เช่น ผักกาดขาว เป็นต้น
- ล้างด้วยด่างทับทิม ด่างทับทิมก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาล้างผักและผลไม้ค่ะ ซึ่งวิธีล้างก็คือ แค่ใช้ด่างทับทิมประมาณ 25 เกล็ด ผสมกับน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นก็เอาผักผลไม้แช่ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้สามารถล้างสารพิษได้มากถึง 43 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้น สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่อยากทานผัก แต่กลัวว่าจะมีสารพิษปนตกค้างละก็ ลองทำตามวิธีที่กล่าวมาแล้วดูนะคะ รับรองว่า ปลอดภัยไร้กังวลแน่ ๆ
เครดิต: Sanook
อ่านต่อเนื้อหาอื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่