AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ประกันสังคมประกาศ เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร จาก 400 บ.เป็น 600 บ.

ปีใหม่นี้ ประกันสังคมขอมอบของขวัญ เพิ่มความสุขแด่แม่ ๆ ด้วยการ เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร เป็น 600 บาท!

 

 

หลังจากที่ใช้เวลามาสักระยะหนึ่งกับการยื่นขออนุมัติการเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจาก 400 บาทเป็น 600 บาทนั้น ล่าสุด ประกันสังคมได้ประกาศข่าวดีเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมที่จะมอบของขวัญปีใหม่นี้ให้กับคุณแม่ทุก ๆ คน

กว่า 6 ปีมาแล้วที่สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ให้สิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้แก่ผู้กันตนในอัตรา 400 บาท และก็ไม่ได้มีการปรับเงินเพิ่ม จนกระทั่งคณะกรรมเห็นว่า ด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินจำนวนดังกล่าว อาจไม่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูบุตร และกว่าที่มติดังกล่าวจะอนุมัตินั้น ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งล่าสุด คณะกรรมการประกันสังคมมีมติเห็นชอบ และมีความประสงค์ที่จะมอบสิทธิ์นี้ให้กับคุณแม่ทุกคนที่มีบุตรอายุไม่เกิน 6 ปี เป็นของขวัญรับปีใหม่

อ่านต่อเนื้อหาอื่นเพิ่มเติม >>

 

 

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ได้มีมติคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ครั้งที่ 18/2560 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร จากเดิม 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ปรับเพิ่มเป็น 600 บาท ต่อบุตรหนึ่งคน อายุไม่เกิน 6 ปี

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้แก่ผู้ประกันตน จากเดิม 400 บาท เป็น 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ที่อายุไม่เกิน 6 ปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ สำนักงานประกันสังคม ประกาศใช้อัตราเงินสงเคราะห์บุตรในอัตรา 400 บาทต่อเดือน มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นมา โดยไม่มีการปรับเงินเพิ่มมานานหลายปี ปัจจุบันมีผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเฉลี่ย 1,324,848 คนต่อเดือน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2560) จ่ายเงินปีละ 6 พันล้านบาทเศษ
ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI พบว่า จำนวนบุตรของผู้ประกันตนมีอัตราการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอาหารของเด็กเล็กอยู่ที่ 579 – 812 บาทต่อเดือนสูงขึ้นเล็กน้อย หากปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรขึ้นเป็น 600 บาทต่อเดือน ในปี 2561 จะเป็นเงินประมาณการ จำนวน 3,036 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบต่อเสถียรภาพกองทุนประกันสังคมและจะเป็นปริมาณเงินเพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

อ่านต่อหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับเงินสงเคราะห์บุตรได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

 

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเกิดสิทธิ

1.จะต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
2.จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน
3.ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
4.อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

การหมดสิทธิรับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร

–  เมื่อบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
–  บุตรเสียชีวิต
–  ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
–  ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

หลักฐานที่ต้องใช้ยื่นคำขอ

สำหรับหลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรนั้น ได้แก่
1.แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
2.กรณีผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิแล้วและประสงค์จะใช้สิทธิสำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ
3.กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ ให้เตรียมสำเนาสูติบัตรบุตร จำนวน 1 ชุด
4.กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ
-สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่าพร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตนหรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 ชุด
-สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วยจำนวน 1 ชุด)
5.กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด
6. กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทนให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคมและสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1ชุด
7.เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศ ให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน

ยื่นได้ที่ธนาคารอะไรบ้าง เช็ก!

 

ยื่นคำขอร้องผ่านธนาคารอะไรได้บ้าง?

แหม! เรียกได้ว่าเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้จริง ๆ แต่จะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อไรนั้น หากทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบมาแจ้งให้ทราบกันเลยนะคะ แต่ระหว่างนี้คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอ อย่ารอช้านะคะ! รีบเช็กเงื่อนไข หากเข้าตามกฎเกณฑ์ละก็ รีบเตรียมเอกสารและไปสมัครเพื่อขอใช้สิทธินี้กันเลยค่ะ

เครดิต: ประกันสังคม และ NNT

อ่านต่อเนื้อหาอื่นเพิ่มเติม

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids