อุทาหรณ์เด็กหาย ป้องกันลูกหนีออกจากบ้าน

สังคมไทยทุกวันนี้มี เด็กหาย มากถึง 50 คนต่อเดือน 80% เป็นเด็กหนีออกจากบ้านโดยสมัครใจ และ 20% หายจากการถูกลักพาตัว กระบวนการค้ามนุษย์ หรือหายไปเพราะพวกโรคจิตผิดมนุษย์ การช่วยกันเฝ้าระวังลูกหลาน จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อ คุณแม่ควรรู้ไว้ เพื่อให้เด็กหายลดลงเป็นศูนย์

เด็กหาย ปัญหาซ้ำๆ เพราะพ่อแม่ปล่อยปละละเลย

มีเด็กหายจำนวนไม่น้อยที่พบว่าเป็น “เด็กหายซ้ำ” จากการหายออกจากบ้านด้วยความสมัครใจ แล้วกลับมาได้ พ่อแม่จึงคิดว่า เดี๋ยวลูกก็กลับมา ทำให้พ่อแม่หลายคนทำใจได้ จนกลายเป็นปล่อยปละละเลย ไม่คิดตามหาอีก

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ให้ความคิดเห็นว่า เมื่อเด็กคนหนึ่ง เกิดการหายซ้ำ เขาจะกร้านโลกมากขึ้น รู้สึกไม่กลัวโลกมืดนอกบ้าน เพราะการออกไปในครั้งแรก เขาจะกังวลหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่กลัวเรื่องเพศ ความปลอดภัยในชีวิต และร่างกาย เมื่อเขาได้พบโลกภายนอกแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก เขาจะรู้สึกอิสระ และรู้ว่าเอาตัวรอดได้แล้ว

เมื่อเด็กหาย และได้ลูกกลับคืนมา คุณพ่อ คุณแม่ได้ย้อนกลับไปแก้ไขที่ต้นเหตุแล้วหรือยัง? เพราะเมื่อลูกหายครั้งแรก พ่อแม่กระตือรือร้นมาก เป็นห่วงลูกมาก แต่เมื่อได้ลูกคืนมาแล้ว กลับไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ กล่าวต่อว่า เขาพยายามแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งพ่อแม่ และเด็ก หรือแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ เพื่อบำบัดฟื้นฟู แต่สังคมไทยมีทัศนคติในแง่ลบต่อการพบจิตแพทย์ ทำให้รู้สึกไม่อยากแก้ปัญหา หลายครอบครัวหาเช้ากินค่ำ รู้สึกเสียเวลา เสียเงิน จึงทำให้เกิดปัญหาเด็กหายซ้ำอีก

เด็กหนีออกจากบ้านบ่อยๆ โตมาเป็นเด็กมีปัญหา

พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวว่า สาเหตุที่เด็กหนีออกจากบ้านซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เพราะว่าพวกเขาอยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการออกจากบ้านจะต้องเจอกับความลำบาก ทำร้ายตัวเอง หรือรู้ว่าเป็นเรื่องเสี่ยงก็ตาม แต่เขารู้สึกว่ามีความสุขกว่าอยู่บ้าน อาจจะเป็นสุขทางใจ ทางเพศ หรือเงินทองมากกว่า

ถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกชอบเก็บตัว ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้าน เริ่มติดเพื่อน หรือคนในโลกออนไลน์ ติดเกม มีอารมณ์ฉุนเฉียว นั่นคือสัญญาณเตือน สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ทำได้คือ หมั่นเติมเต็มความรัก ความเอาใจใส่ ให้ลูกมีความสุขอย่างเหมาะสม ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพราะลูกที่มีความสุขมากๆ ก็อาจเตลิดได้เหมือนกัน คุณพ่อ คุณแม่ต้องรู้ความต้องการของลูกแต่ละช่วงวัย เขาได้ไม่คิดหนีออกจากบ้าน

ถ้าลูกหนีออกจากบ้าน แล้วกลับมาในครั้งแรก คุณพ่อ คุณแม่ ให้โอกาส รับฟัง ลูกน้อยก็จะกลับมาเติบโตเป็นเด็กดีเหมือนเด็กทั่วๆ ไปได้ แต่ถ้าลูกถูกซ้ำเติม เขาก็จะมีโอกาสเสี่ยงกลายเป็นเด็กมีปัญหา

อ่านต่อ “เด็กหนีออกจากบ้าน เสี่ยงซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย” คลิกหน้า 2

เด็กหนีออกจากบ้าน เสี่ยงโรคซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย

เด็กที่มีปัญหาหนีออกจากบ้าน มีโอกาสที่จะโตมาเป็นโรคซึมเศร้า เพราะรู้สึกขาดที่พึ่งพิงทางใจ ไม่สามารถเติมเต็มความสุขให้ตัวเองได้ อยู่คนเดียวก็ไม่ได้ ไม่มีความสุขตลอดเวลา เด็กเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะทำร้ายตัวเอง และคิดฆ่าตัวตายสูง

พ่อแม่จึงเป็นต้นเหตุ และทางเยียวยาสภาพจิตใจ ได้ดังนี้

1.การให้อภัย

2.การเปิดใจรับฟังลูกว่าเขาต้องการอะไร

อย่าคิดว่าพ่อแม่ไม่มีเวลา

ปัญหาเด็กหาย มักเกิดขึ้นกับครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวว่า หลายครอบครัวมักอ้างว่าไม่มีเวลา ต้องให้พ่อแม่เข้าใจใหม่ว่า การดูแลลูกให้ดีได้ เวลาไม่สำคัญไปกว่าความไว้วางใจ ความสม่ำเสมอ เพราะเมื่อลูกโตขึ้น เขาไม่ได้อยู่ในสายตาเราตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกต้องการการรับฟัง และคำปรึกษา คุณพ่อ คุณแม่ต้องให้เขาได้เสมอ เขาจะรู้สึกสนิทใจที่จะบอกถึงปัญหา และความผิดหวัง เพียงเท่านี้คุณพ่อ คุณแม่ก็สามารถยื้อลูกเอาไว้ได้

ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว มีผลต่อลูกค่อนข้างมาก สิ่งสำคัญที่สุคือครอบครัวต้องมั่นคง แข็งแรง และพ่อแม่ต้องรู้ว่าอารมณ์ของลูกจะเปลี่ยนไปตามช่วงวัย จึงต้องสอนให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์ ทั้งบวกและลบ แสดงออกให้มีเหตุผล และต้องแสดงออกให้เป็นตัวอย่าง การแสดงความรัก ความอบอุ่นที่เหมาะสม เพราะถ้าพ่อแม่ใช้อารมณ์ต่อหน้าลูกบ่อยๆ ก็มีโอกาสที่เด็กจะมีอารมณ์รุนแรง ใจร้อนได้

อ่านต่อ “สร้างวินัยเชิงบวก ป้องกันลูกหนีออกจากบ้าน” คลิกหน้า 3

สร้างวินัยเชิงบวก ป้องกันลูกหนีออกจากบ้าน

นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ยอมรับว่า ปัจจุบันมีเด็กหายมาจากหลายสาเหตุ เช่น พลัดหลงกับพ่อแม่ หนีออกจากบ้าน ถูกล่อลวง หรือลักพาตัว เพื่อพาไปใช้แรงงาน ขอทาน กระทำรุนแรง สาหตุหลักของปัญหานี้ มาจากครอบครัวไม่มั่นคง แตกแยก มีปัญหา จึงเน้นการป้องกันไปที่ครอบครัว เด็ก และชุมชน

ทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องแก้ไขที่ต้นตอ ถ้าเด็กทุกคนมีวินัยในตัวเอง รู้จักหน้าที่ของตัวเอง และรู้จักคิดเป็นระบบ จัดกิจกรรม หรือหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเหมาะสม เด็กๆ ก็จะจัดการปัญหาต่างๆ ได้ การหนีออกจากบ้านก็จะไม่เกิดขึ้น

การปลูกฝังให้ลูกมีวินัยในตัวเอง รู้จักหน้าที่ของตัวเอง และรู้จักคิดเป็นระบบ เช่น ตื่นนอนขึ้นมาพับผ้าห่ม สวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ พูดจาไพเราะกับผู้ใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตน เข้าวัด ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในครอบครัว ฯลฯ เด็กๆ ก็จะไม่กลายเป็นเด็กมีปัญหา สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะไม่อยู่บ้าน การสร้างวินัยเชิงบวก จะช่วยป้องกันปัญหาทุกเรื่อง และมีผลต่อพฤติกรรมที่ดี และทำให้ลูกน้อยเป็นเด็กที่มีคุณภาพอีกด้วย

ป้องกันลูกอย่างไร? ไม่ให้เป็นเด็กมีปัญหา

สิ่งสำคัญในการป้องกันปัญหา คือความใกล้ชิดที่มีต่อลูก หมั่นทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น ดูทีวีด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน หมั่นถามไถ่ ให้ความสนใจในตัวลูก บอกรักลูก และแสดงออกถึงความรักต่อลูก เพราะความสนิทสนม จะทำให้เขากล้าพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ และช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหนีออกจากบ้าน

ถ้าลูกอยู่ในช่วง 3 – 6 ขวบ วัยนี้เสี่ยงต่อการถูกล่อลวง ชักจูงได้ง่าย พ่อแม่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรปล่อยให้ลูกไปวิ่งเล่นไกลสายตา โดยเฉพาะที่เปลี่ยว หรือมีคนพลุกพล่าน เพราะจะทำให้เราไม่ทันระวังตัว

ถ้าคุณพ่อ คุณแม่พบว่าลูกหาย สามารถแจ้งความได้ทันที ไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมง เพราะยิ่งแจ้งเร็วเท่าไหร่ ก็จะหาลูกพบเร็วเท่านั้น โดยแจ้งไปที่ศูนย์ประชาบดี โทร.1300 หรือ มูลนิธิกระจกเงา 02-973-2236-7 และบ้านพักเด็กและครอบครัว ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

เครดิต: ไทยรัฐออนไลน์

อ่านเพิ่มเติม คลิก!!

10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา

3 พี่น้องจีนวัยขวบ เดินออกจากบ้าน หลังแม่เผลอหลับลืมล็อกประตู

Going out อุทาหรณ์ ลูกเล็กออกจากบ้านตอนกลางดึก

Save