ลูกเกือบหายที่สนามหลวง คนแปลกหน้ามาตีสนิท

แม่น้องเล็ก

8 years ago

มีคุณแม่คนหนึ่ง ได้จองเต็นท์ เพื่อที่จะบริจาคอาหาร และน้ำ กับเพื่อนๆ ที่บริเวณรอบๆ ท้องสนามหลวง จึงอยากสอนให้ลูกน้อยรู้จักคำว่า “ให้” ด้วย คุณแม่ได้พาลูกน้อยมาช่วยแจกอาหาร และน้ำด้วยกัน หลังจากนั้นก็พาไปกราบพระบรมศพ จนกระทั่งพบ คนแปลกหน้า มาตีสนิท

คนแปลกหน้า เกือบลักพาตัวลูก

อ่านต่อ “ลูกหายที่สนามหลวง พบคนแปลกหน้ามาตีสนิท” คลิกหน้า 2

มีคนถามไถ่กันมาเยอะว่า เจออะไรมาที่สนามหลวง เหตุการณ์โดยย่อตามนี้ค่ะ

วันนี้ได้จองเต็นท์ เพื่อบริจาคอาหาร และน้ำกับเพื่อนๆ ที่รอบท้องสนามหลวง เลยอยากให้ลูกรู้จักคำว่าให้ จึงพาลูกไปด้วย เพื่อแจกอาหาร และน้ำด้วยกัน พร้อมทั้งอยากพาลูก ไปกราบพระบรมศพด้วย จึงตัดสินใจพาลูกไปทั้งที่ตอนแรกลังเล เพราะกลัวว่าคนจะเยอะแยะ และแดดร้อน

ระหว่างที่กำลังพาลูก 2 คน เดินรอบๆ สนามหลวง เดินจูงมือลูกคนโต ส่วนลูกคนเล็ก พี่เลี้ยงเข็นในรถเข็น เดินตามมาข้างๆ มีผู้ชายวัยกลางคน ผิวสีแทน อายุประมาณ 50 เดินเข้ามาลูบหน้า จับตัวลูกคนโต เหมือนสนิทสนมกันมานาน แล้วบอกว่า “อ้าวเจอกันอีกแล้วน้า”

เราก็นึกว่าเป็นคนรู้จักทัก เพราะตอนนั้นไม่ได้มองหน้าเค้า กำลังมองที่ลูก เลยมองต่ำที่ระดับความสูงของลูก และวันนี้มีคนรู้จักมาช่วยแจกของด้วยหลายคน จึงนึกว่าเป็นคนรู้จักทัก พอเงยขึ้นมา มองหน้า เอ๊ะ นี่เราไม่รู้จักเค้านะ เลยถามเค้าว่า “ทักคนผิดหรือเปล่าคะ” ปรากฏว่ามันก็ยังทำเป็นไม่เข้าใจ (ขอใช้คำว่า มัน นะคะ เพราะโมโหมากค่ะ)

อ่านต่อ “ลูกหายที่สนามหลวง พบคนแปลกหน้ามาตีสนิท” คลิกหน้า 3

มันทักต่อ “แหม แมวน้อยจำกันไม่ได้หรอ” แล้วมือมันก็ยังลูบๆ หน้าลูกคนโตอยู่ เราเลยต้องดึงลูกเข้ามาใกล้ๆ แล้วบอกว่า “เราไม่ได้รู้จักกันนะคะ” มันยังไม่หยุด เอามือดึงหมวกลูกออกมาเปิดดูหน้า พูดว่า “อ้อ ไม่ได้รู้จักกันเนอะ” พร้อมเดินเข้าใกล้มาอีก เหมือนจะเข้ามากอด หรืออุ้ม

เราเลยเริ่มรู้สึกแปลก หันไปจะบอกพี่เลี้ยงว่าเข็นรถลูกคนเล็กเร็วๆ แล้วไปกันเถอะ ไม่ควรหยุดอยู่ตรงนี้ ปรากฏว่ามีผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาอีกข้าง มาเริ่มลูบหน้าลูกคนเล็กที่อยู่บนรถเข็น มาแนวเดียวกันเลย ทำเป็นตีสนิทเหมือนคุ้นเคยกันมานาน

จนพี่เลี้ยงงงว่าเป็นคนรู้จักเราจริงๆ เราเลยดึงเอาผ้าปิดกันแดดบนรถเข็นลงมา เพื่อปิดหน้าลูกและปัดมือนางออก (อีกมือยังจับลูกคนโตไว้แน่น) บอกพี่เลี้ยง “ไปเร็วๆ” และพูดเสียงดังว่า “เราไม่รู้จักกันนะคะ” สองคนก็ยังพยายามเบียดเข้ามาจับลูก จนเราต้องตะโกนดังมากกกกก ว่า “มีคนจะพยายามลักพาตัวเด็กค่ะ ระวังกันด้วยนะคะ”

พอดีแถวนั้นมีอาสาสมัครห่างไปประมาณ 5 ก้าว เลยวิ่งมาดู พร้อมวิทยุเพื่อวอแจ้งข่าว พวกมันรีบเดินหนีกลืนไปกับฝูงชน อาสาสมัครรีบถามรายละเอียด รูปร่างหน้าตา เพื่อวิ่งไปตามจับ แล้วบอกให้เรารอชี้ตัว พร้อมบอกว่า “ขอบคุณนะครับที่แจ้ง เมื่อวานก็มีเด็กหายครับ”

…ได้ยินประโยคหลังสุดคือเสียววาบ… เราก็ไม่แน่ใจว่าสองคนที่เข้ามา ตั้งใจลักพาตัวเด็กจริงหรือไม่ แต่คนปกติไม่น่าจะทำกันแบบนี้ และถ้าเจตนาดีจริง จะวิ่งหนีทำไม มาเล่าไว้ให้พ่อๆ แม่ๆ ฟังเพื่อให้ระวังตัวกันในอนาคตค่ะ