AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เผยคลิปวิดีโอ ชายทำอนาจาร 2 ด.ญ.วัยประถม ทำทีเป็นพูดคุย ก่อนฉวยโอกาสกอด-จูบ เด็กไหวตัวทัน วิ่งหนีออกมาได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อชายคนหนึ่ง ได้ยืนช่วยตัวเองข้างรถกระบะ ก่อนที่จะมีเด็กนักเรียนหญิงประถม 2 รายเดินผ่านมา โดยชายคนดังกล่าวได้ทำทีพูดคุย ก่อนจะฉวยโอกาส ทำอนาจารเด็ก กอดและจูบเด็กหญิงทั้งสอง และคล้ายกับพยายามล่อลวงให้ขึ้นรถด้วย

เผยคลิปวิดีโอ ชาย ทำอนาจารเด็ก ทำทีเป็นพูดคุย ก่อนฉวยโอกาสกอด-จูบ

ซึ่งทางผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ken Kae ได้ออกมาแชร์คลิปซึ่งเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองที่ปล่อยให้ลูกวัยอนุบาลไปไหนมาไหนเพียงลำพัง เมื่อกล้องวงจรปิดภายในตลาดนัดขวัญเรียม แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ได้บันทึกภาพชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน ได้นำรถยนต์กระบะสีขาว มาจอดภายในตลาด ก่อนจะเดินออกมาแอบข้างรถ แล้วควักเอาอวัยวะเพศออกมาสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง โดยไม่อายผู้ที่เดินผ่านไปมา

และโชคร้ายเด็กนักเรียนหญิง 2 คนกำลังเดินผ่านมาพอดี ทำให้ชายคนดังกล่าวได้เรียกเข้าไปทำท่าทีชวนคุย ก่อนทำอนาจารโดยการกอดและหอมแก้มเด็กคนหนึ่ง และยังได้สำเร็จความใคร่โชว์เด็กอีกด้วย ก่อนที่เพื่อนอีกคนทำทีท่าว่าจะเดินไปบอกคุณครู ทำให้ชายคนดังกล่าวเดินไปขึ้นรถ และขับรถออกไป ด้านคุณครูเมื่อทราบเรื่องจากเด็กหญิงทั้ง 2 จึงได้มาเปิดดูภาพจากกล้องวงจรปิดและได้เห็นภาพวิดีโอดังกล่าว ทั้งนี้ผู้โพสต์คลิประบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในท้องที่ สน.มีนบุรี

♥ แนะนำบทความควรอ่าน!สอนลูก หวงร่างกาย อย่ารอจนสายเกินไป!
♥ แนะนำบทความควรอ่าน!สอนลูกให้รู้จัก “พื้นที่ส่วนตัว” ป้องกันถูกละเมิดทางเพศ

ชมคลิป >> “เหตุการณ์จริง ชายหื่นทำอนาจาร 2 ด.ญ.วัยประถม” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

คลิปเหตุการณ์จริง ชายหื่นทำอนาจาร 2 ด.ญ.วัยประถม

"ช่วยกันแชร์กันหน่อยนะครับ"กระทำอนาจาร ต่อหน้านักเรียน ท้องที่ สน.มีนบุรี √√คนร้ายมาจอดรถตรงทางเข้าตลาดน้ำขวัญเรียมอ่ะ ไม่แน่ใจว่าตรงไหน แล้วลงมาจากรถ ทำอนาจารอย่างที่เห็น เหมือนน้องเด้กนักเรียนจะไปบอกครูอ่ะ ครูเลยมาดูกล้อง เลยเห็นภาพตามนี้เลยบุคคลอันตราย ช่วยกันนะครับ

โพสต์โดย Ken Kae บน 22 กุมภาพันธ์ 2017

 

ต่อมาล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กอีท่านหนึ่งชื่อ คาเธ่ย์ หมี ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี ได้ควบคุมตัว นายคิดชัย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหากระทำอนาจารเด็กนักเรียนหญิง 2 ราย โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าตนทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่บริเวณใกล้เคียงวัดบางเพ็งใต้ ชอบเด็กจึงก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดี 1 ข้อหา ฐานอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี

จากข่าวนี้ ไม่ได้เป็นข่าวเดียวที่เราเห็น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิงหรือแม้แต่กับเด็กชาย และที่น่าใจหายคือ นับวันอายุของเหยื่อที่ถูกกระทำจะยิ่งลดน้อยลงไปทุกที โดยเฉพาะเด็กตัวเล็ก ๆ ที่อายุอานามยังไม่ทันจะได้เข้าโรงเรียนอนุบาล ก็ยังมีข่าวตกเป็นเหยื่อให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง

เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ทุกวันนี้การใช้ความรุนแรงกับเด็กกำลังเกิดขึ้นในสังคม และยังมีเด็ก ๆ ตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก ดังจะเห็นได้จากตัวเลขที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก , มูลนิธิเพื่อนหญิง , ศูนย์ประชาบดี ได้รายงานว่า ในปี 2551-2553 มีเด็กถูกกระทำรุนแรงทางเพศเพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิง ที่สำคัญผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ก็มักเป็นผู้ใกล้ชิด เครือญาติ รวมทั้งพี่เลี้ยงตามสถานรับเลี้ยงเด็กนั่นเอง

แล้วคุณพ่อคุณแม่จะสามารถปกป้องลูกของเรา ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงวัยรุ่น ที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้อย่างไร ลองอ่านคำแนะนำต่อไปนี้ดูค่ะ

1. ต้องเอาใจใส่ คอยดูแลลูก อย่าปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว หรืออยู่ห่างจากสายตาโดยเด็ดขาด หากจำเป็นต้องห่างจากลูก ควรฝากไว้กับญาติผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้

2. หากลูกยังเล็ก และคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องฝากลูกไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือเนิร์สเซอร์รี่ ควรศึกษาข้อมูลก่อนว่า สถานที่แห่งนั้นน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้หรือไม่ มีระบบการจัดการ รักษาความปลอดภัยดีหรือไม่ เพื่อไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อของผู้อื่น

3. หากลูกโตพอที่จะสอนได้แล้ว ก็ควรบอกให้ลูกระมัดระวังตัวเอง อย่าไปไหนกับใคร ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่ก็ตาม รวมทั้งอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า และหากไปไหนต้องบอกพ่อแม่ให้รู้ว่าไปกับใคร กลับเมื่อไหร่ อยู่ที่ไหน

4. รับฟังลูกหากมีปัญหา เพื่อที่ลูกจะได้ไว้ใจ กล้าปรึกษาพ่อแม่หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

5. สอนวิธีการวางตัว การทำพฤติกรรมที่เหมาะสม โดยเฉพาะเด็กที่กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น จะเริ่มแต่งตัว เพื่อให้เป็นที่สนใจของเพศตรงข้าม พ่อแม่ต้องแนะวิธีการแต่งตัวที่เหมาะสม และกำชับไม่ให้กลับบ้านเย็นมากเกินไป เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้

6. ต้องสนใจ เอาใจใส่เรื่องของลูก ควรรู้ว่า เพื่อนของลูกมีใครบ้าง บ้านอยู่ที่ไหน หรือติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ของเพื่อนลูก เพื่อจะได้ช่วยเหลือกัน ดูแลกัน

7. แนะนำวิธีป้องกันตัวให้ลูก รวมทั้งเล่าเรื่องราวจากข่าวที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดทางเพศ ให้ลูกฟัง เพื่อที่ลูกจะได้เข้าใจว่า คนไม่ประสงค์ดีจะเข้ามาทำอันตรายในรูปแบบ และอะไรจะเป็นผลเสียกับตัวเองบ้าง

♥ แนะนำบทความควรอ่าน! : สอนลูกให้ปลอดภัยจากคนแปลกหน้า
♥ แนะนำบทความควรอ่าน! : เคล็ดลับ 3 ข้อสอนลูกให้ระวังตัวจากคนแปลกหน้า
♥ แนะนำบทความควรอ่าน! : สอนลูกระวังคนแปลกหน้า

แต่ถ้าหากสมมติว่า “ลูก” ของเรา พลาดพลั้งถูกคนล่วงละเมิดทางเพศไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม คำถามแรกที่เกิดขึ้นทันทีในหัวอกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็คือ “ควรจะทำอย่างไรดี?” >> อ่านต่อ “วิธีรับมือเมื่อลูกถูกล่วงละเมิดทางเพศ” คลิกหน้า 3


ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Ken Kae

ขอบคุณข้อมุลจาก : hilight.kapook.com

หาก “ลูก” ของเรา พลาดพลั้งถูกคนล่วงละเมิดทางเพศไปแล้วผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็คือ “ควรจะทำอย่างไรดี?”

1.ขั้นแรกคือต้องตั้งสติก่อน อย่าโวยวาย ตระหนกตกใจ โกรธเคืองให้ลูกเห็น เพราะจะทำให้ลูกตกใจกลัว ไม่กล้าเล่าความจริง ต้องรับฟังและเชื่อที่เด็กเล่าไว้ก่อน

2.หากสามารถเก็บรวบรวมหลักฐานการล่วงละเมิดทางเพศได้ ให้เก็บไว้ และถ่ายภาพร่องรอยบาดแผลของเด็กที่ถูกละเมิดทางเพศไว้ (หากทำได้) แล้วพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยที่ยังไม่ต้องชำระร่างกายเด็ก

3.พยายามดูแลสภาพจิตใจและร่างกายของลูก โดยช่วงเวลานี้คุณพ่อคุณแม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อปลอบประโลมลูก ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง หากลูกมีสภาพจิตใจที่บอบช้ำมาก ให้พาลูกไปพบจิตแพทย์ เพื่อเยียวยาอาการโศกเศร้า

4.แจ้งความ คือ การจัดการทางกฎหมายที่ดีที่สุด ไม่ควรปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราสอดส่องพื้นที่บริเวณนั้น ๆ มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่ออีก

  1. หากไม่ทราบว่าจะช่วยเหลือลูกได้อย่างไรจึงจะดีที่สุด ควรปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้โดยตรง เพื่อให้ช่วยเยียวยา บำบัดสภาพจิตใจให้ลูกได้ทันท่วงที โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

นอกจากนี้ อีกคำถามที่คุณพ่อคุณแม่อดกังวลใจไม่ได้ ก็คือ หากลูกของเราที่ถูกละเมิดทางเพศยังเด็กอยู่มาก เขาจะจำความได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรต่อลูกในอนาคตบ้างหรือไม่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้มีข้อมูลที่น่าสนใจในหนังสือคู่มือ อาสาสมัครพิทักษ์สิทธิเด็กทางเพศ โดยองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมูลนิธิมิตรมวลเด็ก และศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิเด็ก 2537 จัดทำขึ้น โดยอธิบายว่า เด็กที่ถูกละเมิดทางเพศจะได้รับผลกระทบมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับบุคลิกของเด็ก และประเภทของการถูกกระทำ โดยแบ่งเป็น

  1. กรณีที่ไม่รุนแรง เช่น การให้เด็กดูอวัยวะเพศ ใช้คำพูดลามกเล้าโลม กรณีนี้ อาจทำให้เด็กมีปัญหาด้านอารมณ์ และจิตใจชั่วครั้งชั่วคราว ได้แก่
  1. กรณีรุนแรง คือผู้ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเป็นพ่อ แม่ ญาติใกล้ชิด หรือเด็กถูกกระทำโดยวิธีรุนแรง อาจมีผลต่อเด็กด้านต่าง ๆ คือ

2.1 ด้านร่างกาย ทำให้ร่างกายของเด็กมีบาดแผล ฟกช้ำ เนื่องจากการถูกทำร้าย หรือมีปัญหาโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์

2.2 ด้านอารมณ์ ทำให้เด็กฝันร้าย ซึมเศร้า กังวล กรีดร้อง หรือพยายามทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย หวาดกลัวผู้ล่วงเกินทางเพศ หรือผู้ที่มีลักษณะคล้ายผู้ล่วงเกิน หรือบางกรณีก็อาจคลอเคลียกับบุคคลดังกล่าวนี้มากผิดปกติ

2.3 ด้านพฤติกรรม เด็กอาจมีอาการซึมเศร้า ผลการเรียนแย่ลง ก้าวร้าว หนีออกจากบ้าน ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่าย หรือหวนกลับไปสู่พฤติกรรมต่ำกว่าวัยของตนอย่างกะทันหัน อาจหันไปพึ่งเสพยาเสพติด สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองบ่อยผิดปกติ ยั่วยวน หรือสำส่อนทางเพศ

อย่างไรก็ตาม อาการต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากผลกระทบที่เด็กได้รับเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ล่วงละเมิดไปแล้วหลายปี ทำให้บางครั้งนานจนดูเหมือนว่า เหตุการณ์นั้นไม่น่าจะมีผลอะไรต่อเด็ก แต่จริง ๆ แล้ว เรื่องราวต่าง ๆ ยังฝังอยู่ในใจของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหมั่นเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลูกอยู่เสมอ เพราะลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้อาจเกิดขึ้น เมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่น หรือเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้

ดังนั้นแล้ว หากลูกของคุณพ่อคุณแม่คนใด เกิดโชคร้ายเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นเอาใจใส่ ปลอบใจ และดูแลสภาพจิตใจของลูกให้ดีที่ดีสุด และที่สำคัญควรจะแจ้งความ เอาผิดผู้กระทำผิดทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้เด็กคนแล้วคนเล่าต้องตกเป็นเหยื่อของใครอีก

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : baby.kapook.com