ครรภ์เกินกำหนด …ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับ คุณ สมาชิกหมายเลข 2218307 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ต้องสูญเสียลูกน้อยไปหลังจากคลอดเพียงไม่นาน โดยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 คุณ สมาชิกหมายเลข 2218307 ได้มาตั้งกระทู้บอกเล่าเรื่องราวของเธอผ่านเว็บไซต์พันทิปดอทคอม พร้อมถามความเห็นจากชาวเน็ตว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ จนทำให้ลูกของเธอต้องจากไปนั้น เป็นความผิดพลาดของใครกันแน่ เป็นที่เธอเอง หรือเป็นเพราะทางโรงพยาบาล?
ทั้งนี้ คุณ สมาชิกหมายเลข 2218307 เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ผ่านมา 6 เดือนแล้ว เธอฝากท้องกับโรงพยาบาลรัฐโดยใช้สิทธิบัตรทอง มีกำหนดคลอดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เริ่มมีน้ำไหลออกมาสีเหมือนน้ำมะพร้าวแต่ไม่ปวดท้อง เมื่อไปโรงพยาบาล พยาบาลตรวจแล้วบอกว่าไม่ใช่น้ำคร่ำ จึงได้นอนฟังเสียงหัวใจลูกอยู่ครึ่งชั่วโมง แล้วให้กลับบ้านได้ ต่อมาเมื่อถึงกำหนดคลอด ท้องครบ 40 สัปดาห์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ น้องก็ยังไม่ออก พยาบาลบอกให้รอก่อน ตรวจเสียงหัวใจแล้วให้กลับบ้านเหมือนทุกครั้ง
จากนั้นในวันที่ 5 มีนาคม พยาบาลนัดมาตรวจอีกเมื่อครบ 41 สัปดาห์ บอกต้องคลอดแล้ว ส่งตัวเธอไปแอดมิทเตรียมคลอด แต่หมอที่อยู่เวรบอกว่า เธอเป็นคนไข้ของหมออีกคน ซึ่งไม่ได้เข้าเวรวันนี้ เธอบอกว่าท้องนานแล้ว เลยกำหนดคลอดแล้วด้วย ขอเร่งคลอดหรือผ่าคลอดเลยได้ไหม แต่หมอบอกว่า ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ เพราะเธอไม่ใช่คนไข้ของเขา และบอกว่า หากเร่งคลอดจะอันตรายและปวดมาก ให้กลับบ้านก่อน รอจนปวดค่อยมาใหม่
อ่านต่อ >> “แม่ใจสลาย อุ้มท้องนาน 42 สัปดาห์ แต่ลูกน้อยตายหลังคลอด”
คลิกหน้า 2
หมอนัดอีกครั้งวันที่ 10 มีนาคม แต่วันที่ 7 มีนาคม เธอมีมูกเลือดออกมา จึงรีบไปโรงพยาบาล ตรวจปากมดลูก พยาบาลบอกเปิด 1 ซม. จึงให้กลับบ้านก่อน จนกระทั่งวันที่ 10 มีนาคม เธอปวดท้องช่วง 4 ทุ่ม ปวดถี่ ๆ และหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนตี 3 จึงบอกแฟนว่าไม่ไหวแล้ว ให้พาไปโรงพยาบาล ไปถึงเขาก็ตรวจปากมดลูก เปิด 2 ซม. ให้เธอนอนรอคลอด เธอก็นอนปวดจน 7 โมงเช้า พยาบาลมาตรวจภายใน บอกว่าปากมดลูกเปิด 4 ซม. จึงให้เธอนอนรอจน 9 โมง พาเข้าห้องคลอด แต่ปากมดลูกไม่เปิดเพิ่ม เขาจึงเร่งคลอดให้เธอ
ในขณะที่นักเรียนพยาบาลใส่ที่วัดเสียงหัวใจลูกตั้งแต่ตอนที่เธอเข้ามานอนโรงพยาบาล พบว่าเสียงหัวใจลูกเต้นดีตลอด ไม่มีอาการผิดปกติ จน 11 โมง เธอบอกนักเรียนพยาบาลว่าไม่ไหวแล้ว ขอผ่าได้ไหม อีกฝ่ายก็บอกว่าให้อดทน เพราะคลอดเองแผลจะหายไวกว่าผ่า จากนั้นพยาบาลมาตรวจปากมดลูก บอกเปิดแล้ว ให้เตรียมทำคลอด เธอก็เบ่งคลอดตั้งแต่ 11 โมง หลายรอบแต่น้องก็ไม่ออก หมอก็ใช้ที่ดูดช่วย จนกระทั่งคลอดตอน 12.32 น. แต่เธอไม่ได้ยินเสียงลูกร้องเลย พยาบาลนำลูกมาวางบนหน้าอกเธอแป๊บนึง แล้วรีบเอาไป สักพักหมอบอกเธอว่าน้องตัวเขียว ไม่ร้อง เพราะขาดออกซิเจน อาการ 50/50 ต่อมาเธอถูกพาไปห้องพักฟื้น ก็ได้แต่ร้องไห้ เธอถามแฟนเธอว่าลูกเราเป็นอย่างไรบ้าง หมอบอกน้องขาดออกซิเจนปอดทะลุ
จนกระทั่งตอนเช้าเขาให้เธอไปเยี่ยมลูกได้ พอเห็นลูกก็ใจแทบขาด สายอะไรไม่รู้เต็มตัวลูกไปหมด อาการก็ไม่ดีขึ้น ถามหมอว่าน้องเป็นอะไร เขาก็บอกแต่ไม่รู้ เขาถามเธอว่าถ้าหัวใจลูกหยุดเต้นจะให้ปั๊มหัวใจไหม เธอก็คิดอยู่สักพัก แล้วบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เพราะน้องปอดรั่ว หากปั๊มไปปอดอาจจะฉีกเยอะกว่านี้ หมอบอกว่าใช่ เธอเลยบอกว่าไม่ปั๊ม ปล่อยให้น้องหลับไปเลย
เธอดูลูกอยู่สักพักก็กลับมาที่ห้องพัก ภาวนาขอให้ลูกหาย จนกระทั่งแฟนเธอมาหา หมอบอกแฟนเธอตอน 11 โมงกว่า ว่าน้องเสียแล้ว เธอถึงกับใจสบาย ได้แต่ร้องไห้ ลงไปดูร่างลูก กอดคอกันร้องไห้กับแฟน นั่งกอดนั่งหอมลูกเกือบ 2 ชั่วโมง พยาบาลถามว่า ร่างน้องจะนำกลับไปทำพิธีเองหรือฝากโรงพยาบาลทำ เธอก็ปรึกษากับแฟนสักพัก แล้วบอกว่าฝากโรงพยาบาล เผื่อจะเป็นประโยชน์หากนำไปศึกษาต่อ สุดท้ายเธอก็ได้กลับบ้าน กลับมาก็ร้องไห้ตลอด อุ้มท้องมาเกือบ 10 เดือน แต่ไม่ได้เลี้ยงลูกเลย ลูกอยู่ในท้องเธอจนวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ 42
สุดท้ายเธอมาทราบทีหลังจากหมอสาธารณสุขของจังหวัด เขาบอกว่าน้องเสียเพราะสายรกเสื่อม ทำให้สายฉีกขาดขณะคลอด ออกซิเจนไปเลี้ยงไม่พอ ทำให้น้องเสียชีวิต ซึ่งเธอมองว่า อุ้มท้องมาเกือบ 10 เดือน แต่ลูกกลับต้องมาตายเพราะมาตรฐานของโรงพยาบาล ที่บอกว่าเด็กอยู่ในท้องได้ถึง 42 สัปดาห์ ซึ่งเธอเห็นว่าทางโรงพยาบาลก็ยังใช้มาตรฐานนี้อยู่ ให้เลยกำหนดคลอดได้จนถึง 42 สัปดาห์ แต่ลูกข้างบ้านก็มีปัญหา ต้องอยู่โรงพยาบาลเป็นเดือน ๆ เธออยากรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ผิดพลาดจากเธอหรือโรงพยาบาล แล้วถ้าผิดพลาดจากทางโรงพยาบาล เธอจะขอเรียกร้องความรับผิดชอบจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไรบ้าง
โดยชาวเน็ตที่ได้รับทราบเรื่องราวของคุณแม่ผู้สูญเสียรายนี้ ต่างก็เข้ามาร่วมให้กำลังใจและแสดงความเสียใจกับเธอ ขอให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งหลายคนก็ร่วมวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแชร์ประสบการณ์ของตัวเองด้วย
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเจ้าของกระทู้ ก็ต้องดูรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายอย่าง ว่าสาเหตุที่น้องเสียเป็นเพราะอะไร เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้เด็กขาดออกซิเจนตอนคลอดนั้นมีเยอะ หากไม่ดูเวชระเบียนอย่างละเอียด ก็คงไม่มีใครกล้าบอกว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่
ขอบคุณข้อมูลจาก : baby.kapook.com , คุณ สมาชิกหมายเลข 2218307 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม