ลูกติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน เพราะแค่หกล้ม

จากประสบการณ์ของคุณแม่ ที่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการป่วยของลูกน้อย คุณแม่เล่าว่าลูกน้อยอายุได้แค่ 1 ขวบ วันหนึ่งลูกของคุณแม่หกล้มเป็นแผลถลอก จึงใส่ยาล้างแผลให้ตามปกติ อาการของลูกก็ปกติดีทุกอย่าง จนกระทั่งผ่านไปได้ไม่นาน คุณหมอบอกว่า ลูกเป็นแบคทีเรียกินเนื้อคน

ลูกเป็นแบคทีเรียกินเนื้อคน

มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังค่ะ

คือในรูปคือขาของลูกค่ะ น้องอายุ 1 ขวบ เริ่มต้นเลยคือน้องหกล้มเป็นแผลถลอกเฉยๆ เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็ล้างแผลให้ปกติ น้องก็ปกติดีทุกอย่างค่ะ จนแผลเริ่มตกสะเก็ด น้องเขาเริ่มเกา ก็คงคันแผลนะคะ เราไม่ได้สนใจอะไร จนเช้าอีกวันหนึ่งน้องตัวร้อนเป็นไข้ค่ะ ย่าเค้าเอาไปอุ้มแล้วเห็นขาน้องเขามีรอยแดงอ่อนๆ เหมือนมดกัดปกติเลยค่ะ เราก็เอาแซมบัคมาทาให้ แล้วก็คอยเช็ดตัวลูกไปด้วย เพราะน้องเขาตัวร้อนค่ะ จนรอยแดงมันกว้างขึ้น สีเข้มขึ้นๆ เร็วมากค่ะ 2 – 3 ชม. ได้ น้องไข้สูงมาก เราเลยตัดสินใจพาลูกไปหาหมอ เพราะกลัวน้องจะแพ้แมลง พอไปถึงโรงพยาบาล ไข้น้องสูงมากจนพยาบาลเอาไปเช็ดตัว พอเข้าไปหาคุณหมอ เอาแผลที่ขาให้หมอดู หมอสั่งแอดมิดเลยค่ะ หมอเอาเลือด เอาปัสสาวะไปตรวจ แล้วหมอก็มาบอกว่าเป็นเยื่อบุผิวหนังอักเสบ แล้วก็ติดเชื้อค่ะ เชื้อที่หมอบอกคือ แบคทีเรียกินเนื้อคนค่ะ คือชื่อทางแพทย์เราไม่รู้นะ หมอเขาคงบอกให้เราเข้าใจง่ายๆ อ่ะค่ะ คือหมออธิบายว่า ถ้าเชื้อนี้อยู่กับเรานานเข้า เชื้อก็จะกินเนื้อเราไปเรื่อยๆ ค่ะ จนบางทีอาจจะต้องตัดชิ้นเนื้อ หรือไม่ถ้าหนักจริงๆ ก็ต้องตัดขาเลยค่ะ ขนาดของเราพาลูกไปภายในวันที่เป็นนั้น หมอยังบอกช้าเลยค่ะ คือถ้าเราพาลูกไปช้ากว่านี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรกับตัวเขาบ้าง ตกใจมากเลย อยากให้แม่ๆ ได้รู้ประสบการณ์ครั้งนี้ไว้ด้วยค่ะ อ่อหมอคาดว่าเชื้อน่าจะเข้าทางแผลที่น้องเกาค่ะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน

คุณแม่เล่าเพิ่มเติมว่า คุณหมอคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากใช้มือสกปรกเกาที่แผล จึงทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนขึ้น คุณแม่จึงฝากให้ทุกคนระมัดระวัง และรักษาความสะอาด

อ่านต่อ “แบคทีเรียกินเนื้อคนคืออะไร?” คลิกหน้า 2

แบคทีเรียกินเนื้อคนคืออะไร?

อ.พญ.จรัสศรี ฬียาพรรณ ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ให้ข้อมูลว่า การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง สามารถแบ่งได้ตามความลึกของผิวหนังที่มีการติดเชื้อ การติดเชื้อในระดับตื้นตั้งแต่หนังกำพร้า ถึงชั้นไขมันส่วนบน ทำให้เกิดโรคเหมือนไฟลามทุ่ง และทำให้การติดเชื้อลึกลงไปที่ชั้นไขมันส่วนล่าง จนเกิดเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน (cellulitis)

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน (cellulitis) คือการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นลึกลงไปถึงระดับเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ทำให้มีการแสดงอาการรุนแรง ส่วนใหญ่จะมีไข้ ปวด บวม แดงร้อน และอักเสบร่วมด้วย ซึ่งการวินิจฉัย และการรักษาในระยะเริ่มแรกจะช่วยลดการเสียชีวิตลงได้

เพราะอะไรถึงเป็นแบคทีเรียกินเนื้อคน?

สาเหตุของการติดเชื้อแบคทีเรีย และทำให้เกิดการอักเสบ จนมีเนื้อตายที่ผิวหนังตั้งแต่ชั้นกำพร้า ไปจนถึงชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ซึ่งพบได้บ่อยในคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน โรคตับแข็ง เชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1.การติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดร่วมกัน เช่น เชื้อแอโรโมแนส

2.การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียว เช่น เชื้อสเตรปโตคอคคัส กรุ๊ปเอ

การติดเชื้อส่วนใหญ่ มักพบหลังจากผ่าตัด หรือหลังประสบอุบัติเหตุ ทำให้เกิดแผล และสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่มีเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งแตกต่างกันตามชนิดของเชื้อ เช่น เชื้อแอโรโมแนสจะพบในน้ำจืด น้ำกร่อย

เมื่อติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนจะมีอาการอย่างไร?

ลักษณะอาการในระยะแรก ได้แก่ มีอาการเจ็บ ปวด บวม แดง ร้อน ที่ผิวหนังอย่างมาก อาการบวมแดงจะลุกลามอย่างรวดเร็ว อาจมีตุ่มน้ำร่วมด้วย ต่อมาสีของผิวหนังจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง และเริ่มมีเนื้อตายเกิดขึ้น ทำให้มีอาการชาแทนการเจ็บปวด มีไข้สูง และติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดร่วมด้วย อาจมีภาวะช็อก และอวัยวะต่างๆ ทำงานลดลง เช่น ไต ตับ เป็นต้น ส่วนใหญ่พบการติดเชื้อที่แขน และขา

อ่านต่อ “การรักษาและป้องกันแบคทีเรียกินเนื้อคน” คลิกหน้า 3

การรักษาเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน

การตรวจ และรักษาคือการผ่าตัด ซึ่งพบว่ามีการติดเชื้อ หรือเนื้อตาย การติดเชื้อแบคทีเรียในชั้นลึกระดับเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตอยู่ที่ 17-49% ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวของผู้ป่วย และบริเวณที่ติดเชื้อ ถ้ามีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นโรคเบาหวาน หรือตับแข็ง ก็จะมีความเสี่ยงสูง ที่จะลุกลามอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าติดเชื้อเป็นบริเวณกว้าง หรือลึกมาก ก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น

ลูกน้อยจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยใช้ยาต้านจุลชีพ ด้วยการฉีดยา และผ่าตัด และควรจะได้รับการรักษาตั้งแต่ในระยะต้น เพื่อลดโอกาสการเสียชีวิตลงได้

การป้องกันเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน

1.ป้องกัน และระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดบาดแผลแล้วไปสัมผัสกับสิ่งสกปรก

2.ถ้ามีแผล ควรหลีกเลี่ยงสถานที่ หรือบริเวณที่สกปรก ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดทันที

3.ไม่ควรบ่งแผลด้วยเข็ม หรือกรีดแผลด้วยตัวเอง เพราะอุปกรณ์อาจจะไม่สะอาดทำให้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

4.ถ้ามีแผล ปวดบวม แดงร้อนที่ผิวหนัง หรือมีไข้ ให้รีบพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษาโดยทันที

5.คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ โรคเบาหวาน โรคตับแข็ง มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

เครดิต: สนุกดอทคอม, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

อ่านเพิ่มเติม คลิก!

แบคทีเรียกินเนื้อคน ลูกติดเชื้อจนเกือบเสียชีวิต

ลูกดื้อยา เพราะเชื้อแบคทีเรียกลายพันธุ์จากการใช้ยาปฏิชีวนะ

ระวัง “เป่าอาหาร” เท่ากับส่งต่อแบคทีเรีย “ ลูกฟันผุ ” ไม่รู้ตัว

Save

Save

Save