หลังจากเพจดังเตือนให้เลิกกินน้ำมันพืช! ล่าสุดอ.เจษฎาได้ออกมาเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ไขมันทรานส์ แล้ว!
สืบเนื่องจากกรณีที่มีเฟซบุ๊กหนึ่งโพสต์เตือนให้ทุกคนเลิกบริโภคน้ำมันพืช เนื่องจากมี ไขมันทราน์ นั้น อาจารย์เจษฎาถึงกับทนไม่ไหว ต้องรีบออกมาชี้แจงเลยว่า เรื่องราวดังกล่าวไม่เป็นความจริง!!
แต่ก่อนที่เราจะไปอ่านข้อเท็จจริงที่คุณหมอได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คของตัวเองนั้น เรามาทำความรู้จัักกับเจ้าไขมันที่ว่านี้กันก่อนก็แล้วกันค่ะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะส่งสัยว่า อะไรคือ ไขมันทรานส์ … บางท่านอาจจะพอทราบกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหากไม่ทราบก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะวันนี้เราก็จะขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าไขมันที่ว่านี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ไขมันที่ว่านี้คืออะไร? อ่านต่อ คลิก!
ไขมันทรานส์ คืออะไร?
ทราบไหมคะว่า ไขมันที่ว่านี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดเลยละค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินขนมอบ เบเกอรี่ หรือเค้กน่าอร่อย ๆ ทั้งหลาย นี่แหละแหล่งอุดมไขมันดังกล่าว ซึ่งจัดได้ว่าเป็นไขมันอันตรายที่สุดในวงการไขมันเลย ดังนั้นใครไม่อยากเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังอันตรายอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด … เรียกได้ว่า เป็นการนำมาของสารพัดโรคเลยละค่ะ
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) คือ กรดไขมันที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปกรดไขมันไม่อิ่มตัวให้เป็นกรดไขมันอิ่มตัวสูง โดยการเติมไฮโดรเจน กระบวนการแปรรูปไขมันนี้เรียกว่า “ไฮโดรจีเนชั่น” ซึ่งจะทำให้อาหารคงความแข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง มีอายุการเก็บนาน ชะลอการเหม็นหืน โดยที่เนื้อสัมผัสของอาหารไม่แห้ง และมีรสชาติดี
จัดเป็นไขมันชนิดที่อันตรายสูงสุดต่อสุขภาพ เนื่องด้วยตัวไขมันนี้เองสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) ได้ หากบริโภคไขมันทรานส์ในปริมาณ 4% ของพลังงานหรือมากกว่านั้น อีกทั้งหากร่างกายได้รับไขมันทรานส์ปริมาณประมาณ 5-6% ของพลังงานทั้งหมด ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีในร่างกายก็จะลดลงด้วย
ฉะนั้นเมื่อคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) ในร่างกายเพิ่มมากขึ้น คอเลสเตอรอลก็จะเกาะติดผนังหลอดเลือดแดงได้สะดวกขึ้น ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งและตีบตัน ก่อเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเองค่ะ
ซึ่งภายหลังจากที่ได้มีเฟซบุ๊คหนึ่งโพสต์เตือนให้ทุกคนเลิกบริโภคน้ำมันพืช จนเกิดเป็นกระแสและมีการโพสต์ถึงเรื่องราวดังกล่าวมาก ล่าสุด อ. เจษฎา ได้ออกมาชี้แจงเรื่องราวดังกล่าวอย่างละเอียดเลยละค่ะ
อ่านต่อคำชี้แจงของอ. เจษฎาได้ที่นี่ >>
เครดิต: สสส. กรมอนามัย และ Kapook
รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า มั่วมาก ๆ ไขมันดังกล่าวเป็นไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพจริง และเป็นที่รณรงค์กันในช่วงไม่กี่ปีนี้ให้ลดการบริโภคลง แต่หลัก ๆ แล้วมันไม่ได้มาจากน้ำมันพืชไปผ่านความร้อน ซึ่งไขมันดังกล่างเกิดขึ้นบ้างเมื่อน้ำมันพืชถูกความร้อนสูง ซ้ำ ๆ กัน แต่น้อยมาก ๆ ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดด้านสุขภาพเยอะ เมื่อเทียบกับที่มาจากการผลิตโดยตรง
นอกจากนี้ยังได้กล่าวอีกว่า จริงแล้ว ไขมันที่ว่านี้เป็นผลพลอยได้จากพวกไขมันแข็งตัวที่ใช้น้ำมันพืชเป็นตัวตั้งต้น เช่น ครีมเทียม เนยเทียม มาการีน ซึ่งเอาน้ำมันพืชที่เป็นของเหลวในอุณหภูมิห้อง ไปผ่านปฏิกิริยาทางเคมี เติมไฮโดรเจนเข้าไปบางส่วนในโมเลกุลไขมัน ทำให้มันแข็งตัวขึ้น เพื่อใช้ทดแทนพวกเนยจริง แต่ดันมีไขมันไม่ดีตัวนี้แถมมาด้วย จึงเป็นเหตุให้คนรณรงค์ให้ลดการกินครีมเทียม เนยเทียม เป็นต้น
ดังนั้น น้ำมันพืชพวกน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว ก็ไม่ได้จะมีไขมันที่ว่านี้แต่อย่างใด ขณะที่พวกน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์มนั้น กลับเป็นตัวที่ต้องกังวลไม่ใช่น้อย เพราะมีกรดไขมันอิ่มตัวอยู่สูง ซึ่งอันตรายรองลงมาจากไขมันทรานส์ !! ส่วนน้ำมันทอดซ้ำก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้เกิดไขมันไม่ดีนี้ แต่หลัก ๆ คือจะทำให้เกิดสารที่ก่อมะเร็งได้ จึงเป็นสาเหตุที่ต้องเตือนไม่ให้ใช้กันนั่นเองละค่ะ
เครดิต: Kapook และเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่