AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เด็ก 7 ขวบ ถูกข่มขืน ต้องกินยาต้านไวรัส พร้อมเล่าเหตุการณ์ผ่านภาพวาดที่สุดสะเทือนใจ

เด็ก 7 ขวบ ถูกข่มขืน …  วันที่ 8 พ.ค. 60 เฟซบุ๊กเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ภาพและข้อความจากคุณแม่รายหนึ่งที่ส่งเรื่องราวมายังเพจโดยระบุว่า ลูกสาววัย 7 ขวบ ถูกกระทำอนาจาร และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางด้านจิตใจ อีกทั้งยังต้องกินยาต้านไวรัสเพื่อความปลอดภัย จนมีผลข้างเคียงคือเวียนหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ โดยแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้

 

#อังคารสองทุ่มตรงขายพวงกุญแจ50เสื้อ50 #เยียวยาครอบครัวเด็กถูกกระทำอนาจาร #ให้พวกเขามีเงินทุนย้ายออกจากชุมชนเดิมไปเริ่มต้…

โพสต์โดย แหม่มโพธิ์ดำ บน 7 พฤษภาคม 2017

เด็ก 7 ขวบ ถูกข่มขืน ต้อนกินยาต้านไวรัส พร้อมเล่าเหตุการณ์ผ่านภาพวาดที่สุดสะเทือนใจ

ซึ่งหลังจากที่ทาง เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ที่ถูกกระทำชำเราจนต้องเข้าโรงพยาบาลและรับยาต้านไวรัสเพื่อความปลอดภัย ขณะที่สภาพจิตใจก็บอบช้ำย่ำเเย่

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เพจแหม่มโพธิ์ดำได้อัพเดทความคืบหน้าว่า ได้ประสานไปทาง คุณเต้ เตชะ ทับทอง ที่มีความชำนาญเกี่ยวกับคดีเด็กและสตรี ให้ไปพูดคุยและพบปะแม่ ซึ่งผ่านมาไม่กี่วัน คุณเต้ก็ช่วยเดินเรื่องจนมีหมายจับออกมาถึงผู้ที่กระทำความผิดแล้ว โดยเบื้องต้น 6 ข้อหา ถือเป็นความผิดที่มีโทษหลายปีและบางข้อหาถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต โดยต้องหาว่ากระทำความผิด ฐาน ดังนี้

  1. ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดใด โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
  2. กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
  3. กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยขู่เข็ญด้วยประการใดใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
  4. พาบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อกระทำอนาจาร
  5. หน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
  6. พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยกระทำเพื่อการอนาจาร

อ่านต่อ >> “เผยภาพที่ลูกสาววาดเพื่อเล่าเหตุการณ์” เป็นภาพที่สะเทือนใจแม่มากที่สุด คลิกหน้า  2


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : แหม่มโพธิ์ดำ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

เคสน้องวัย 7 ขวบถูกกระทำชำเรา ที่ควีนจะช่วยครอบครัวน้องด้วยการขายพวงกุญแจและเสื้อช่วยน้อง เริ่มต้นจากการที่แม่น้องติดต่อ…

โพสต์โดย แหม่มโพธิ์ดำ บน 8 พฤษภาคม 2017

ทั้งนี้ด้านคุณ เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ ก็ยังได้เผยภาพที่บอกว่า เป็นภาพนี้สะเทือนใจแม่มากที่สุด เธอฝากมาให้ทุกคนได้ร่วมรู้สึกด้วย เพื่อช่วยสังเกตเด็กใกล้ตัว และหาทางช่วยได้ทันก่อนจะสายไป

และให้แฟนเพจควีนเข้าใจ และโปรดจงหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เคสนี้จริงๆ ครับ และช่วยกันสังเกตเด็กใกล้ตัวด้วย ซึ่งหากมีเหตุสามารถโทรไปที่สายด่วน 1300 ไว้สำหรับการแจ้งเหตุที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ

ซึ่งล่าสุดทางเพจแหม่มโพธิ์ดำก็ได้รับแจ้งว่า ทางแม่ของน้องผู้ตกเป็นเหยื่อขอปิดรับบริจาคเพราะได้เงินมาพอแล้ว และจะเก็บเงินที่ได้นั้นไปทำตามที่บอกพร้อมไว้เป็นทุนการศึกษาให้น้องต่อไป

#แม่น้อง7ขวบประกาศปิดรับบริจาค #ขอบคุณทุกแรงใจที่ช่วยให้แม่เริ่มใหม่อีกครั้งมาไกลเกินฝันแล้วค่ะแม่เริ่มต้นวันนี้แล้วค่…

โพสต์โดย แหม่มโพธิ์ดำ บน 10 พฤษภาคม 2017

♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠♠

จากข่าวคราวการข่มขืนเด็กหญิง ที่ปรากฏทางสื่อมวลชนหนาหู ทำให้ลูกสาวถามพ่อว่า ทำไมผู้ชายต้องข่มขืนผู้หญิง?

พ่อตอบว่า บางคนเขาก็ชอบแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะชอบแบบนี้ไปทั้งหมด! ลูกสาวบอกฟังแล้วยังไม่เข้าใจ แต่ฟังข่าวแล้วกลัว

ถามพ่อว่าจะซื้อปืนไว้จะช่วยได้ไหม? นั่นคือทางออกตามประสาเด็ก 9 ปี ที่ต้องการอาวุธป้องกันตัว….

จริงๆ แล้วอาวุธป้องกันตัวที่สำคัญไม่ใช่ปืน หากคือการเลี้ยงดูที่พ่อแม่สามารถให้แก่ลูกได้ตั้ง แต่ยังเล็กนั่นเอง โดย ชารอน บิดดัลท์ นักสังคมสงเคราะห์ชาวออสเตรเลีย ได้แนะนำวิธีป้องกันลูก จากการถูก ล่วงเกินทางเพศ ที่พ่อแม่ควรสอนสิ่งเหล่านี้ แก่ลูกตั้ง แต่ยังเล็กๆ ได้แก่

อ่านต่อ >> “การสอนลูกป้องกันจากการถูก ล่วงเกินทางเพศ” โดยนักสังคมสงเคราะห์ชาวออสเตรเลีย คลิกหน้า 3

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : แหม่มโพธิ์ดำ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

“ป้องกันลูก จากการถูก ล่วงเกินทางเพศ”

√ ภาษาที่แสดงความรู้สึก

พ่อแม่ควรสอนให้เด็กเข้าใจความหมาย และหัดใช้คำพูดถ่ายทอดความรู้สึก เช่น มีความสุข เศร้าใจ กลัว ไม่มีความสุข โกรธ เพื่อว่าวันใดที่ลูกรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลใจ หรือมีความต้องการอะไร จะได้สามารถพูดแสดงความรู้สึกออกมาได้ไม่ยาก ไม่ต้องเก็บกดเอาไว้จนเป็นปัญหา

√ กฎที่ปราศจากความกลัว

ระเบียบกฎเกณฑ์ที่นำมาใช้ในบ้านต้องไม่มีบทลงโทษที่ทำให้ลูกกลัว ต้องไม่มีการดุด่า ประณาม หรือ ทุบตี แต่ต้องฟังลูก ให้พูดถึงเหตุผลที่ไม่ทำตามกฎที่วางไว้ เพราะนี่คือการสอนลูกว่า ลูกมาหาพ่อแม่ได้ทุกครั้งที่ลูกรู้สึกผิด และพ่อแม่จะฟัง และไม่ทำร้ายลูกทั้งกาย และใจ

สองข้อแรกนี้ คือพื้นฐานของการให้มีความมั่นใจในตัวเอง และมั่นใจในพ่อแม่ที่เขาจะพึ่งพิงได้เมื่อเกิดอันตรายขึ้นกับเขา

√ สอนให้รู้จักคำว่าหยุด

ในเกมที่เล่นกับลูก หรือลูกเล่นกัน ถ้าใครสักคนบอกว่าหยุดหรือพอ อีกคนต้องให้ความสำคัญ และยอมเลิก เรื่องนี้ สำคัญเพราะจะสอนให้เด็กรู้ว่าคำพูดหรือความต้องการของเรามีความหมาย ยิ่งไปกว่านั้นหากอีกฝ่ายไม่ยอมหยุด ลูกก็มีสิทธ์ที่จะเดินหนี หรือไปขอความช่วยเหลือจากคนที่โตกว่าได้

√ สอนให้รู้จักสถานที่ และเวลาที่ปลอดภัย

ควรพูดคุยให้ลูกรู้ว่าที่ใดควรหรือไม่ควรไป เวลาใดไม่ควรอยู่นอกบ้าน หยิบตัวอย่างมาฝึกให้ลูกคิดจะช่วยให้ลูกมีวิจารณญาณในการไตร่ตรองมากขึ้น

⇒ Must read : เผยพื้นที่เสี่ยงภัย 217 จุดในกทม. พ่อแม่รีบเช็คด่วน! บริเวณไม่ปลอดภัยกับลูกและตัวเอง

√ สอนและให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว

ค่อยๆ ให้ความคิดลูกเรื่องความเป็นส่วนตัว บอกลูกว่าผู้ใหญ่จะไม่ แต่งตัวต่อหน้าคนอื่น หรือไม่ให้ใครแตะต้องอวัยวะเพศ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ว่าลูกสาวหรือลูกชาย ฝึกให้ลูกรู้จักใส่เสื้อผ้าเองในที่มิดชิด เท่ากับสอนให้เขาหวงเนื้อหวงตัวตั้ง แต่ยังเด็ก

√ หลีกเลี่ยงการกระตุ้นทางเพศ

ไม่ควรส่งเสริมการ แต่งตัวที่เน้นรูปร่างแม้จะอายุน้อยอยู่ ในบ้านไม่ควรมีภาพโป๊เปลือย ไม่ควรให้เด็กเห็นภาพการแสดงบทรักอย่างดูดดื่มของผู้ใหญ่แม้ แต่ในโทรทัศน์

⇒ Must read : รวมพฤติกรรมยอดแย่ที่พ่อแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก

√ ไม่มีความลับของครอบครัว

ครอบครัวไม่ควรมีความลับต่อกัน เพื่อต่อไปหากเด็กมีปัญหาจะได้ไม่รู้สึกว่าบอกใครไม่ได้ เด็กจะได้สบายใจที่จะพูด หากสักวันมีใครมาทำร้าย และขู่ไม่ให้เด็กบอก เด็กจะได้ไม่กลัว และกล้าที่จะบอกพ่อแม่

√ ค้างคืนในบ้านที่รู้จัก

ไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ตาม ถ้าลูกไปค้างคืนกับครอบครัวอื่น ต้องมั่นใจว่าพ่อแม่รู้จักคนในบ้านนั้นดีทุกคน และวางใจได้ และต้องแน่ใจด้วยว่า ในคืนนั้นจะไม่มีแขกอื่นมาพักในบ้านด้วย

√ เชื่อในสัญชาตญาณ ทำไปตามความรู้สึก

บ่อยไปที่สิ่งบอกเหตุว่าจะมีการทำร้ายทางเพศในเด็ก คือสัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์หรือความรู้สึกว่าชักจะไม่ชอบมาพากล ก็ให้ลูกใคร่ครวญดู ไม่ใช่ไม่รู้สึกรู้สา หรือไม่เป็นไร บางครั้งอาจรู้สึกว่าไม่มีเหตุผล แต่คุณก็บอกให้ลูกกันไว้ก่อนดีกว่า โดยการปฏิเสธไม่ไปกับคนนั้น หรือไม่ไปอยู่ในที่นั้น

√ อย่าปล่อยลูกเข้าห้องน้ำสาธารณะ โดยลำพัง

โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้า พ่อแม่ควรเข้าไปกับลูกด้วย ถ้าลูกเข้าไปคนเดียวควรตรวจตราทางเข้าออกว่ามีทางเดียวหรือไม่ ถ้าเห็นท่าไม่ดี ให้ลูกกลั้นไว้แล้วพากลับบ้านดีกว่า

√ อย่าแตะต้องอวัยวะเพศของลูก

หลังจากลูกขับถ่ายทำความสะอาดได้เองแล้ว ไม่ควรให้มีใครนอกจากตัวเด็กเองที่จับต้องอวัยวะเพศ/ของตนได้ หรือถ้าลูกมีปัญหาเกี่ยวกับ อวัยวะเพศ ก็ควรให้ลูกเป็นผู้จับให้พ่อแม่ดูเอง

√ มาตรฐานของคนเลี้ยงลูก

กรณีมีผู้อื่นมาช่วยเลี้ยงลูก ควรตั้งมาตรฐานของคนที่จะมาดูแลลูกไว้สูง ทั้งด้านสุขภาพจิต ภูมิหลัง ทัศนคติต่อเรื่องต่างๆ มีวุฒิภาวะเพียงไร เพราะคนคนนี้ จะมีผลทั้งพฤติกรรมการแสดงออกของลูก และที่สำคัญอาจเป็นผู้ทำร้ายลูกได้ในภายหลัง

สุดท้ายสอนว่า ความสุขทางเพศเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น ซึ่งข้อนี้เป็นข้อเรียกร้องต่อตัวพ่อหรือแม่โดยตรง ที่จะต้องสร้างทัศนคติให้กับตัวเอง และลูกให้ได้ว่า การหาความสุขจากความรักหรือความใคร่นั้น หาได้จากร่างกายของคนที่โตแล้วหรือเป็นผู้ใหญ่แล้วเท่านั้น และต้องจากผู้ที่เต็มใจด้วย นั่นก็เผื่อช่วยปกป้องลูกจากเรื่องที่ไม่กวรเกิดเมื่อยังเป้นเด็กนั่นเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้นตามหลักความเป็นจริงพ่อแม่เพียงได้แต่สอนลูกสาวถึงวิธีป้องกัน แต่ในทางที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งต้นตอนั้นมาจากการไม่รู้จักยับนั้งชั่งใจ หรือให้เกียรติฝ่ายหญิงจากผู้ชายนั้นเอง จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่หากคุณมีลูกชาย ก็ควรสอนลูกายไว้เสมอว่า สิ่งใดคือสิ่งต้องห้ามของผู้หญิง และควรให้เกียรติผู้หญิงเสมอ ไม่คิดกระทำสิ่งที่ไม่เป็นอันควร หรือไม่ควรไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของใคร

⇒ Must read : 14 วิธีสอนลูกชายให้เป็นสุภาพบุรุษ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณเนื้อหาดีดีจาก : thaiparents.net และ saijai.net (women.mthai.com)