ในปัจจุบัน หนึ่งในอันตรายที่สร้างความหวาดผวาให้กับคุณพ่อ คุณแม่ คือการลักพาตัวเด็ก ซึ่งนับวันจะยิ่งได้ยินข่าวนี้กันอยู่บ่อยๆ โดยสถิติของประเทศไทย อายุของเด็กที่ผู้ร้ายมักทำการลักพาตัว คือ การลักพาตัวเด็กอายุ 3-4 ขวบ โดยเฉพาะเด็กที่ใส่ สร้อยทอง ล่อตาล่อใจคนร้าย
เกือบถูกลักพาตัวเพราะ สร้อยทอง
เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และไม่มีแรงขัดขืนต่อผู้ร้าย โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ที่ดูปลอดภัย เช่น หน้าบ้าน โรงเรียน โรงพยาบาล วัด ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งคนร้ายมักจะมาในรูปแบบที่คาดไม่ถึง และไม่ทำอะไรผิดสังเกต มักพูดจาดี และหลอกล่อเด็กด้วยขนม และของเล่น หรืออ้างถึงพ่อแม่ของเด็กให้ตายใจ บางคนอาจมาทำตัวตีสนิทกับเด็กก่อนลงมือ
Amarin Baby & Kids จึงขอเตือนใจคุณพ่อคุณแม่ที่มีความเชื่อว่าการใส่ “กำไลข้อเท้าทอง” หรือ “กะพรวนข้อเท้าทอง” ให้ลูกแล้วจะเกิดโชคลาภวาสนากับเด็กและครอบครัวนั้น อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายที่เสี่ยงต่อชีวิตของลูกน้อย ได้ดังเช่นเหตุการณ์ด้านล่างนี้
ให้ลูกใส่ สร้องทอง เกือบต้องเสียแกไป |
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เกิดกับตัวเรา แต่เป็นเรื่องของเพื่อนที่สนิทกันค่ะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่เกิน 3 เดือนที่ผ่านมา เราไปเยี่ยมเพื่อนมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อาจจะเล่าไม่ค่อยเก่งเท่าไร
เพื่อนเรา ชื่อ น้ำฝน (นามสมมติ) มีลูกชายวัยน่ารักอายุ 3 ขวบชื่อ น้องเจมส์ ครอบครัวนี้ค่อนข้างมีฐานะ
เพียงแต่วันที่เกิดเหตุ คุณแม่ของสามีน้ำฝนได้มา และได้ให้สร้อยคอ+ข้อมือทอง อย่างละ 1 สลึงให้หลานชาย
ก่อนที่ท่านจะกลับบ้านอีกหลังหนึ่ง น้ำฝนจะถอดเก็บเลยก็น่าเกลียด ก็เลยให้ลูกชายใส่ไว้ก่อน
ตอนบ่าย 3-4 โมงเย็น ในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีเด็กแถวนั้น วิ่งเล่นกัน ก็เลยปล่อยให้ลูกชายวิ่งเล่นแถวนั้นกับเพื่อนๆ อีกหลายคน
ส่วนใหญ่ก็เด็กแถวนั้นอ่ะค่ะ ส่วนน้ำฝนก็เข้าไปในบ้านไม่ถึง 10 นาทีก็จะออกมาตามน้องเจมส์ ปรากฏน้องเจมส์หายไปค่ะ
ถามเด็กแถวนั้น เด็กเลยบอกว่าเจมส์วิ่งไปทางนู้นฮะ บอกจะไปซื้อขนม
น้ำฝนเลยตามออกไปหาที่ปากซอย ซึ่งจะเป็นถนนใหญ่ เห็นน้องเจมส์เดินกลับมา ร้องไห้ตาแดงเลย
” แม่ครับ .. ลุงเอาไป .. เจมส์ไม่ให้ ..เค้าจะฆ่าแม่ครับ”
น้ำฝนใจหายว้าบ กับคำว่า “ฆ่า”
น้ำฝนสำรวจเนื้อตัวลูกชาย มีรอยถลอกที่ข้อมือ ช้ำเป็นปื้น ๆ , สร้อยคอกับข้อมือหายไป และลูกก็ดูขวัญเสียอย่างมาก
พอน้ำฝนสอบถามลูกในวันรุ่งขึ้น (หลอกถาม) ก็ได้ใจความว่า
มีลุงคนหนึ่งบอกน้องเจมส์ว่า จะพาไปหาแม่ แม่รออยู่หน้าปากซอย จะหนีไปเที่ยว
แต่เจมส์บอกว่า แม่อยู่ในบ้าน
ลุง : แม่แอบหนีหนูไปรออยู่หน้าปากซอยอ่ะสิ จะไปเที่ยว เดี๋ยวลุงพาไป
พอไปถึงที่ลับตาคน ก็พยายามถอดสร้อยคอกับข้อมือ แต่เจมส์ไม่ยอม
เค้าเลยขู่จะฆ่าแม่ให้ตาย เจมส์เลยให้เค้าไป
เด็ก น้อยฯ ไปหาเพื่อนมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เลยนำมาบอกเพื่อน ๆ ให้ได้ทราบกันค่ะ ว่าอย่าใส่ของมีค่าให้เด็กโดยที่ทิ้งแกไว้เพียงลำพัง มันเหมือนล่อตาล่อใจชักชวนภัยมาถึงตัว
นี่ขนาดอยู่แถวบ้าน คำว่า “แป๊ปเดียว คงไม่เป็นไรหรอก” บางทีมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้อย่าว่าแต่น้องเจมส์จะขวัญเสียเลย เพื่อนเราตอนนี้เองก็ไม่อยู่ห่างจากลูกเลย แถมยังสอนแกว่า อย่าไปไหนกับใครเด็ดขาด ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวเรา
อ่านต่อ “หลัก 12 ประการ ป้องกันลูกรักเป็นเหยื่อลักพาตัว” คลิกหน้า 2
หลัก 12 ประการ เพื่อป้องกันลูกรักตกเป็นเหยื่อการลักพาตัว
1.ลดเหตุจูงใจที่มีต่อผู้ร้าย เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรตระหนักให้มาก โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง โจรผู้ร้ายออกทำการก่อการร้ายมากขึ้น เพื่อหาเงิน หาทรัพย์สินที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้ง่ายๆ ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กเล็กๆ ที่มีของมีค่าใส่ติดตัวแล้ว ยิ่งล่อตาล่อใจและจูงใจผู้ร้ายได้มากขึ้น
2.พ่อแม่ผู้ปกครองต้องไม่ประมาท ต้องจับตาดูลูกน้อยอยู่สม่ำเสมอ
3.ไม่พาเด็กเล็กไปในสถานที่ผู้คนพลุกพล่านโดยไม่จำเป็น
4.อย่าทิ้งเด็กไว้นอกเหนือความดูแล
5.ไม่ปล่อยให้เด็กเล็กไปวิ่งเล่นตามลำพังแม้จะใกล้บ้านก็ตาม
7.ไม่ให้ใครมารับลูกเล็กที่โรงเรียนแทนผู้ปกครอง ถ้าจำเป็นต้องแจ้งคุณครูก่อนทุกครั้ง
8.สอนหรือห้ามเด็กๆ รับขนม รับเงิน หรือพูดคุยกับคนที่ไม่รูจัก
9.สอนให้เด็กรู้จักร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
10.หมั่นพูดคุยกับลูกว่าเจอคนแปลกหน้าบ้างหรือไม่
11.ไม่ทิ้งเด็กเล็กไว้กับคนสูงอายุ เนื่องจากคนสูงอายุอาจดูแลเด็กเล็กไม่ไหวหรืออาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง
12.ถ้าเด็กหายไปนานผิดปกติสามารถแจ้งความได้ทันทีไม่ต้องรอเวลาให้ครบ 24 ชั่วโมง
เครดิต : pantip.com, มูลนิธิกระจกเงา
Save
Save