AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

พ่อแม่ต้องรู้! 2 วิธีสังเกต ลูกป่วยไวรัสโรต้า

ระบาดหนัก! ไม่ใช่แต่เด็กที่ป่วย หน้ากากทุเรียนก็ป่วยได้เช่นกัน พร้อม 2 วิธีสังเกต ลูกป่วยไวรัสโรต้า

 

 

ด่วนจ้าด่วน! คุณแม่ท่านไหนเป็นแฟนคลับของหน้ากากทุเรียนกันบ้างเอ่ย … รู้หรือยังว่าตอนนี้ “ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์” จอมฉายาหน้ากากทุเรียนป่วยนอนซมอยู่โรงพยาบาล พร้อมประกาศยกเลิกงาน!

แฟนคลับพากันตกใจ เมื่อไอจี Room39studio เผยภาพหน้ากากทุเรียนสุดฮอต หรือ “ทอม” ประกาศ “อัพเดท อาการของทอม Room39 ตอนนี้อาการไข้และท้องเสียยังมีอยู่ คุณหมอขอดูอาการอีก 3 วัน ดังนั้นงานในช่วง 3 วันนี้จึงมีความจำเป็นต้องแคนเซิลไปก่อน แต่วันนี้อาการโดยรวมถือว่าดีขึ้นแล้วค่ะ ทอมและวงฝากขอโทษในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ค่ะ”

ทั้งนี้ผู้จัดการส่วนตัวได้เปิดเผยว่า ตอนนี้คุณหมอกำลังเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมยอมรับว่าอาการป่วยของหนุ่มทอมนั้น คล้ายกับติดเชื้อไวรัสโรต้า ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ดีต้องรอให้คุณหมอวินิจฉัยอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยจะอัพเดตให้แฟนคลับได้ทราบกันอย่างแน่นอน

อย่างไรทีมงาน Amarin Baby and Kids ขอเป็นกำลังใจให้หนุ่มทอมหายไว ๆ นะคะ … แฟนคลับรออยู่จ้ะ

อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>


เครดิต: AmarinTV

 

 

คุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบกันใช่ไหมละคะว่า ผู้ใหญ่เป็นไวรัสโรต้ากันได้ด้วยหรือ? คำตอบคือ “ได้ค่ะ” ที่สำคัญตอนนี้ระบาดหนักในผู้ใหญ่กันเสียด้วยละค่ะ

นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทบทวนมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า ซึ่งโดยปกติพบมากในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี แต่ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมานี้ พบว่ามีรายงานในผู้ใหญ่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจติดเชื้อจากการดูแลเด็กที่ป่วย หรือติดจากการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม โดยเชื้อไวรัสโรต้ามักจะพบมากในช่วงฤดูหนาว

ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยจากโรคอุจจาระร่วงประมาณ 1 ล้านคน ใกล้เคียงกันทุก ๆ ปี โดยพบว่าจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้นในช่วงปลายปีจนถึงต้นปี 2561 นี้ และจากการสุ่มตรวจพบว่ามีผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้าเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ และพบมากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า เกิดจากการรับเชื้อที่มากับอาหารและน้ำโดยตรงเข้าทางปาก หรือโดยอ้อมหลังการสัมผัสกับเครื่องใช้หรือของเล่นต่างๆที่ปนเปื้อนอุจจาระที่มีเชื้อไวรัส โดยจะมีอาการภายใน 1-3 วัน และผู้ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่าสัปดาห์หลังเริ่มมีอาการ

ส่วนอาการของโรคคือ มีไข้ อาเจียน และท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการขาดน้ำ หากรับการรักษาไม่ทันหรือไม่เหมาะสม อาจเกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ จากข้อมูลยังพบอีกว่า สามารถมีการติดเชื้อซ้ำได้หลายครั้ง โดยครั้งหลัง ๆ อาการจะน้อยลง

อ่านต่อ >> วิธีสังเกตลูกป่วยไวรัสโรต้า

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกป่วยไวรัสโรต้าหรือไม่?

ไวรัสโรตา เป็นเชื้อที่ติดต่อได้ง่ายมาก ชอบแฝงตัวอยู่ตามของเล่นหรือสิ่งของ เมื่อเด็กจับแล้วนำมือเข้าปากก็ติดเชื้อได้แล้ว ซึ่งเชื้อไวรัสโรต้าค่อนข้างทน และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหลายวัน ซึ่งหากลูกน้อยนำสิ่งของหรือมือที่เปื้อนเชื้อโรคเข้าทางปาก ก็จะทำให้รับเชื้อไวรัสนี้เข้าไปได้อย่างง่ายดายเลยละค่ะ ซึ่งวิธีการสังเกตว่าลูกเป็นหรือไม่ดูได้โดย

  1. หลังจากลูกน้อยได้รับเชื้อประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการเริ่มต้นด้วยการมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งไข้อาจสูงถึง 39 องศาเซลเซียส และอาเจียนซึ่งอาจมากถึง 7 – 8 ครั้งต่อวัน กรณีที่อาการไม่รุนแรง อาการไข้และอาเจียนมักจะหายได้เองภายใน 2-3 วัน
  2. อาการที่พบได้บ่อยคือ อาการปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำหรือถ่ายเป็นฟองหลายๆ หน บางคนอาจมีน้ำมูกไหลและไอร่วมด้วย อาการท้องเสียอาจเป็นนานได้ถึง 7-10 วัน

คุณพ่อคุณแม่คะ ไวรัสโรต้า ไม่มียาหรือการรักษาโดยเฉพาะ เพียงดูแลตามอาการก็จะดีขึ้นจนหายไปได้เอง หากอาการรุนแรง จนทำให้กินอาหารไม่ได้ ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรุนแรง อาจนำไปสู่ภาวะช็อก และเสียชีวิตได้ สิ่งเดียวที่สามารถป้องกันได้ก็คือ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อันได้แก่

หากคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกให้ทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำได้ละก็ ไวรัสโรต้าก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงอีกต่อไปแล้วละค่ะ

เครดิต: สสส.

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids