เตือนภัยพ่อแม่ระวัง! ภัยใกล้ตัว คนคุ้นเคยพยายามฉุดกระชากเด็กนักเรียนชั้นม. 4 ขึ้นรถตู้!
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา พลตำรวจตรีกิตติพศ ชำนาญเท สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาได้รับแจ้งจาก นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ชาวสีคิ้วว่า มีคนขับรถตู้สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับรถปาดหน้าจักรยายนต์ของลูกสาว ก่อนลากขึ้นรถเพื่อหวังข่มขืน
โดยนางเอ ได้ให้การณ์ว่า ตนเองนั้นมีอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ในวันเกิดเหตุตนได้ใช้ให้ลูกสาวขี่รถจักรยายนต์ไปซื้อของที่ตลาดสีคิ้ว ซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 300 เมตร หลังจากที่ซื้อของเสร็จแล้วได้ขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน แต่ระหว่างทางที่ลูกสาวกล้จะถึงบ้านแล้วนั้นก็ได้มี นายอัฐกรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือยา อายุประมาณ 40 ปี ทำงานเป็นพนักงานบริษัทผลิตอะไหล่เครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในอำเภอสีคิ้ว ได้ขับรถตู้คันสีขาว จำยี่ห้อและทะเบียนไม่ได้ มาปาดหน้าจักรยานยนต์ของลูกสาว
อ่านต่อเนื้อหาข่าวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
จากนั้นก็ได้ใช้กำลังฉุดกระชากลากตัวลูกสาวขึ้นรถ เพื่อหวังทำมิดีมิร้าย ตนเองได้ยินเสียงลูกร้องขอความช่วยเหลือจีงรึบวิ่งไปดูพบว่า ไอ้หื่นวัยกลางคนนี้พยายามลวนลามกอดรัดลูกสาวของตนอยู่ จึงตะโกนร้องให้คนแถวนั้นช่วย ก่อนจะยอมปล่อยแล้วขับรถตู้คันดังกล่าวหนีออกไปจากที่เกิดเหตุทันที
ด้านนางสาวบี นักเรียนหญิงอยู่ในอาการหวาดผวาร้องไห้และกอดแม่ตลอดเวลา ได้ให้การว่า ตนเองนั้นรู้จักลุงยาเป็นอย่างดี เพราะเคยมานั่งกินอาหารอยู่ที่ร้าน ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับบริษัทที่ลุงยาทำงานอยู่
ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับซึ่งอีก 100 เมตรก็ถึงบ้านแล้ว ลุงยาได้ขับรถตู้มาปาดหน้าตน พร้อมกับจอดรถถามว่า “หนูจำลุงได้ไหม” ตนเองได้ตอบไปว่า “จำได้” พร้อมกับยกมือไหว้ แต่ลุงยากลับเปิดประตูรถ แล้วตรงเข้ามาฉุดกระชากให้ขึ้นไปบนด้านท้ายของรถตู้ ตนจึงได้พยายามดิ้นรน แต่ก็สู้แรงไม่ไหว ก่อนถูกลวดลามกอดจูบและจะถอดกางเกงขาสั้นของตนออก เพื่อจะข่มขืน
จึงได้รีบร้องขอโดยอ้างว่า กำลังมีประจำเดือน ถ้าปล่อยตนไปก็จะไม่บอกให้พ่อกับแม่รู้ ในช่วงที่ลุงยาคลายท่อนแขนออกนั้น จึงสบโอกาสตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง จนแม่ได้ยินและวิ่งเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบมาตรวจสอบ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังบริษัทที่ผู้ต้องหารายนี้ทำงานอยู่ แต่ผลปรากฎว่า ผู้ต้องหาได้ไหวตัวหลับหนีไปก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบประสานงานเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
อ่านต่อคำเตือน ภัยใกล้ตัว อะไรบ้าง ที่พ่อแม่ควรเฝ้าระวัง!
เครดิต: เดลินิวส์
ทำอย่างไร เมื่อลูกหลานถูกล่วงละเมิดทางเพศ?
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มีคำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติให้ผู้ปกครองทุกคนทราบถึงวิธีปฏิบัติหากพบว่าลูกหลานถูกล่วงละเมิดทางเพศเอาไว้ดังนี้
- เมื่อเด็กแสดงท่าทีว่าต้องการบอกเล่าเรื่องราวที่เขารู้สึกว่าเป็นปัญหาหรืออยากขอความช่วยเหลือ อย่าผัดผ่อนเพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าเราไม่สามารถเป็นที่พึ่งของเขาได้ ควรแสดงตนว่าพร้อมที่จะรับฟังเขา ช่วยเหลือเขาในทุกกรณี เพื่อให้เด็กเกิดความรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ
- กรณีที่เด็กไม่สามารถบอกเล่าได้อย่างต่อเนื่องเพราะปัญหาด้านจิตใจหรืออารมณ์ คอยปลอบโยน ให้กำลังใจเด็ก ให้เด็กสบายใจว่าหากเขาบอกเล่าออกมาหมด เขาจะได้รับความปลอดภัยและได้รับการช่วยเหลือทุกเรื่อง อย่าขัดหรือโต้แย้งเด็ก เพราะจะทำให้เด็กเข้าใจว่าเราไม่เชื่อ ไม่รับฟังเรื่องที่เกิดขึ้น ปล่อยให้เด็กพูดทั้งหมดที่เขาต้องการบอกเล่าก่อน แล้วจึงค่อยซักถามในรายละเอียดที่เรารู้สึกว่ายังไม่ชัดเจน
- แม้เด็กจะไม่เล่าว่าผู้กระทำคือใคร ก็ไม่ต้องไปคาดคั้น แต่สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เด็กจะถูกกระทำ เพื่อกำหนดวงผู้ต้องสงสัย และรายละเอียดเกี่ยวกับผู้กระทำหรือความสัมพันธ์ของผู้กระทำกับเด็กเท่าที่จะทำได้ การทราบว่าผู้กระทำเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องให้เด็กระบุตัวหรือบอกชื่อเสมอไป เพราะยังมีวิธีค้นหาอื่น ๆ อีกมากมาย
- วิเคราะห์ข้อมูล พิจารณาว่าเป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องที่ไม่จริงรายละเอียดในการเล่าแต่ละครั้งจะไม่ตรงกัน ไม่ปะติดปะต่อ ทั้งนี้ บางครั้งก็อาจเป็นเรื่องจริงก็ได้แต่เด็กอาจมีความสามารถในการสื่อสารน้อย หรือยังมีปัญหากระทบกระเทือนทางจิตใจ จึงเล่ารายละเอียดได้ไม่ชัดเจน ทั้งนี้เราจึงต้องค่อยๆฟังและจับเรื่องราวต่างๆมาวิเคราะห์แล้วหาวิธีการช่วยเหลือต่อไป
- แจ้งหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ หรือแจ้งตำรวจทันทีหากทราบรายละเอียดแล้ว โดยแจ้งว่า ผู้กระทำเป็นใคร (หากทราบ) เวลาที่เกิดเหตุ สถานที่ที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันทั้งตัวเด็กเองและเด็กคนอื่น ๆ ไม่ให้เจอสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้
- ให้พาเด็กไว้ในที่ปลอดภัย และมีหลักประกันให้เด็กว่าจะสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างปลอดภัย รวมถึงเก็บรวบรวมหลักฐาน เช่น เสื้อผ้าที่เด็กใส่ขณะถูกล่วงละเมิดทางเพศ ขนเพชร ก้นบุหรี่ ถุงยางอนามัย หรืออื่น ๆ ที่ผู้กระทำผิดทิ้งไว้ หากสามารถถ่ายภาพร่องรอยการกระทำไว้ได้ก็เก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้บอกให้เด็กเข้าใจว่าเราถ่ายไปเพื่ออะไร และไม่นำไปเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิเด็ก
- พาเด็กไปตรวจรักษา (อาจร่วมกับหน่วยงานที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ หรือพาเด็กไปตรวจเองก่อนเพื่อความรวดเร็ว) เพื่อรวบรวมหลักฐาน ห้าม!! ชำระร่างกายเด็กก่อนตรวจรักษาเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ไม่พบร่องรอยที่จะเป็นหลักฐานในการเอาผิดผู้กระทำ หากถูกกระทำผ่านมาหลายวันแล้วก็ควรที่จะตรวจรักษาเพื่อป้องกันโรคติดต่อและตรวจสอบการตั้งครรภ์ด้วย
หากคุณพ่อคุณแม่พบเห็นเหตุการณ์หรือต้องการแจ้งเหตุ สามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 0-2412-1196 (ในเวลาราชการ) หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 (ตลอด24ชั่วโมง) เลยนะคะ
เครดิต: มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- ภัยข่มขืน รูปแบบใหม่ใช้ความบริสุทธิ์ของเด็กเป็นเหยื่อล่อ
- 7 วิธีรับมือ! “ภัยช่วงปิดเทอม” ที่พ่อแม่ต้องรู้!!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่