ผลกระทบของการ ลงโทษลูก ด้วยการใช้ความรุนแรง
“ลิซ่า เบอร์ลิน” นักวิจัยจากศูนย์จัดตั้งนโยบายเพื่อเด็กและครอบครัว ในมหาวิทยาลัยดุ๊ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการอธิบายว่า การที่พ่อแม่ตีลูกไม่ว่าจะตีเบาหรือแรง และบ่อยครั้งแค่ไหน จากการสำรวจและวิจัยข้อมูลต่าง ๆ พบว่า มันก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ขณะที่การว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้มีส่วนทำให้เด็กเป็นคนก้าวร้าวเหมือนการถูกตีแต่อย่างใด
ลิซ่า ได้ทำการสำรวจจากเด็กจำนวนกว่า 2,500 คน โดยเลือกเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย และล้วนแล้วแต่เคยถูกพ่อแม่ตีมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งผลออกมาว่า เด็ก ๆ มีปัญหาเรื่องสุขภาพจิตและพฤติกรรมพอสมควร อนึ่งนักจิตวิทยาหลายฝ่ายได้เห็นพ้องต้องกันว่า การทำโทษลูกนั้น ควรดูเวลาและสถานที่ด้วย
เธอกล่าวว่า “ทั้งเด็กเล็กและเด็กโตที่ได้พูดคุยด้วย ฉันคิดว่าปัญหาสำคัญคือความรู้สึกนึกคิดของพวกเขานะ เพราะเด็ก ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูก อะไรผิด พวกเขาไม่รู้และไม่เข้าใจเรื่องการถูกทำโทษ ว่าทำไมพ่อแม่ต้องลงมือกับพวกเขาด้วย โดยเฉพาะการตี ซึ่งในขณะที่พ่อแม่อาจจะทำไปเพราะรัก แต่เชื่อเถอะว่าลูก ๆ ของพวกคุณไม่เข้าใจพวกคุณหรอก เพราะเขายังเด็กเกินไปที่จะรับฟังเหตุผล”
อย่างไรก็ดี เบอร์ลิน และทีมงานพบว่า เด็ก ๆ ที่ถูกตีตั้งแต่ขวบปีแรก จะเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาอายุครบ 2 ขวบ และอาจจะมีผลกระทบกับกระบวนการทางความคิดในช่วง 3 ขวบขึ้นไป
คุณพ่อคุณแม่คำ การลงโทษลูกด้วยการใช้พละกำลังนั้น อาจไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเสมอไป วิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงและจะสำเร็จได้ด้วยดีนั้น เราควรแก้ปัญหาจากการใช้ความเข้าใจ ความรัก และเหตุผลเป็นหลัก มากกว่าการเลือกที่จะระบายอารมณ์ของเราออกไป เพราะนั่นไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเลย หนำซ้ำ ยังเป็นการสร้างรอยแผลในใจให้กับลูกอีกด้วย
เครดิต: ซีเอ็นเอ็น นิวส์
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่