แม่โพสต์เตือนแม่! ก่อนฝากเลี้ยงที่ไหน อย่าลืมเช็ก ประวัติ พี่เลี้ยงเด็ก ให้ดีเสียก่อน!
พบกับเรื่องราวสุดสะเทือนใจหัวอกพ่อแม่ เมื่อลูกวัยน้อยวัยเพียงขวบเศษหัวแตกจนถึงขั้นต้องเย็บ สาเหตุเป็นเพราะพี่เลี้ยงเด็กไม่ได้ดู … แถมอ้างลูกเป็นแบบนี้เพราะตกเปลเอง ซึ่งเรื่องราวนี้ กลายเป็นกระแสดุเดือดเป็นอย่างมาในโลกโซเชียล
ซึ่งนอกจากเรื่องราวของคุณแม่ที่ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้นำเอามาฝากไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์แล้ว ยังมีวิธีการเลือกสถานรับเลี้ยงเด็ก และพี่เลี้ยงเด็กมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุก ๆ ท่านด้วยเช่นกันค่ะ
อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม >>
เมื่อไม่นานมานี้ สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ G’Google E’Gle ได้โพสต์เตือนภัยหลังสถานรับเลี้ยงเด็กโทรมาบอกว่า ลูกหัวแตก แต่แผลไม่เยอะเท่าไร … ด้วยความเป็นห่วง คุณแม่จึงรีบรุดไปยังสถานรับเลี้ยงเด็กทันที … แต่ต้องถึงกับตกใจเพราะสภาพของลูกที่ได้เจอกันตานั้น มันยากเกินกว่าจะทำใจจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ มีผู้ใช้สังคมออนไลน์แสดงความคิดเห็นจำนวนมากและเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ล่าสุดนั้น ทางสถานรับเลี้ยงเด็กรายนี้ได้ออกมายอมรับความผิดและพร้อมที่จะเป็นผู้ดูแลค่ารักษาพยาบาลนี้ให้แล้ว ส่วนอาการของน้องนั้น ตอนนี้ปลอดภัยแล้วค่ะ คุณหมอได้ทำการเอ็กซเรย์ที่ศีรษะ ไม่พบการกระเทือนทางสมองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณแม่ก็ได้ฝากถึงครอบครัวอื่น ๆ ว่า คนที่เลี้ยงดูแลลูกดีที่สุดไม่ใช่ใคร แต่เป็นคุณแม่เองต่างหาก แล้วจะให้ดี ก่อนฝากลูกเลี้ยงไว้กับใคร อย่าลืมตรวจสอบประวัติให้ดีเสียก่อนนะคะ
ชมคลิป!
อ่านต่อวิธีการเลือกสถานรับเลี้ยงเด็ก และพี่เลี้ยงเด็ก >>
เครดิต: Sanook และ Amarin TV
สิ่งที่ควรคำนึงก่อนหา พี่เลี้ยงเด็ก หรือสถานรับเลี้ยงเด็กให้ลูก
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานประจำ จึงส่งผลให้ไม่มีโอกาสหรือเวลาที่จะเลี้ยงลูกได้เอง การมองหาพี่เลี้ยงเด็กหรือสถานรับเลี้ยงนั้น จึงเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่เลือก ซึ่งการเลือกนั้น ควรที่จะคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆดังนี้ค่ะ
- จำนวนนักเรียน คุณครูและพี่เลี้ยง ซึ่งอัตราส่วนของความแตกต่างนั้น ไม่ควรมีมากเกินไป มิเช่นนั้น อาจจะทำให้ไม่สามารถดูแลเด็กได้อย่างทั่วถึงได้
- การแบ่งแยกห้องนั้น ควรจะต้องมีการแบ่งเด็กออกเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องเด็กอ่อน (เด็กที่มีอายุระหว่าง 6 – 12 เดือน) ห้องเด็กเล็ก (เด็กที่มีอายุระหว่าง 1 – 2 ปี) และห้องเด็กโต (เด็กที่มีอายุระหว่าง 2 – 3 ปี) เป็นต้น
- อุปกรณ์เครื่องเล่น สถานที่โดยรอบของโรงเรียน และห้องเรียน ควรที่จะได้มาตรฐาน ไม่เก่าหรือสกปรกจนเกินไป และควรอยู่ในพื้นที่หรือบริเวณที่ปลอดภัย เป็นต้น
- อาหารการกิน ควรตรวจสอบว่า ส่วนใหญ่แล้วอาหารที่ให้ลูกนั้นเป็นอาหารประเภทอะไร มีนมให้หรือไม่ ถ้าไม่มีการนำเอาไปเองเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ
- ประวัติความเป็นมา ควรตรวจสอบประวัติให้ดีเสียก่อนว่า สถานรับเลี้ยงหรือพี่เลี้ยงคนนีี้มีประวัติในทางที่ไม่ดีบ้างหรือไม่
ที่ต้องเช็กกันให้ละเอียดนั้นเป็นเพราะ เรากำลังจะเอาชีวิตและหัวใจดวงน้อย ๆ ของเราไปฝากกับคนอื่น เราก็ต้องอยากที่จะมั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถดูแลลูกของเราได้ดีที่สุดจริง ๆ อย่างไร ก่อนหาสถานที่รับเลี้ยง อย่าลืมตรวจสอบตามรายละเอียดข้างต้นนี้ให้ดีกันก่อนนะคะ
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่