สู่ขวัญ บูลกุล มีวิธีการเลี้ยงลูกในแบบของตัวเองเป็นอย่างไร หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยได้เห็นภาพบทบาทความเป็นคุณแม่มากนัก วันนี้ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเคล็ดลับการเลี้ยงลูกในแบบคุณแม่สู่ขวัญมาบอกต่อแม่ๆกันด้วยค่ะ
สู่ขวัญ บูลกุล เผย เคล็ดลับการเลี้ยงลูก
กลายเป็นไอดอลของสาวๆหลายคนในขณะนี้เลยค่ะ สำหรับ สู่ขวัญ บูลกุล กับภาพลักษณ์ความเป็นสาวเก่งมากความสามารถ ที่มาพร้อมกับเสน่ห์ความน่ารักที่เป็นตัวของตัวเอง แต่กับบทบาทหน้าที่ของความเป็นแม่นั้น บอกเลยว่าสู่ขวัญก็มีแนวคิดในการเลี้ยงลูกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
สู่ขวัญ ปัจจุบันเป็นคุณแม่ยังสวยวัย 45 ปี ที่มีชีวิตครอบครัวที่หลายคนแอบอิจฉา มีสามีที่ดี และลูกชายที่น่ารัก ชื่อว่า น้องปราบ วัย 12 ปี ซึ่งเธอเคยได้เผยถึงเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกในแบบของตัวเองว่า…
“แนวคิดในการเลี้ยงลูกของขวัญ ได้มาจากสิ่งต่างๆ ที่ทำและเกิดขึ้นกับเราทุกวัน เพราะสิ่งที่สอนลูกได้ดีที่สุด คือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาดู ถ้าแม่เป็นคนไม่มีระเบียบ นอนตื่นสาย พูดจาไม่สุภาพ เป็นไปไม่ได้เลยที่ลูกจะเป็นคนมีระเบียบ นอนตื่นเช้า พูดจาไพเราะ ก่อนพยายามอยากจะให้ลูกเป็นคนดี เราควรหันกลับมามองตัวเองก่อนว่าอะไรที่อยู่ในตัวเราแล้วรู้สึกว่าเราไม่อยากให้ลูกเป็น ให้เราเปลี่ยนนิสัยนั้นก่อน เพราะก่อนที่เราจะใส่อะไรดีๆ ให้ลูก เราควรที่จะเอาอะไรที่ไม่ดีออกจากตัวเองก่อนค่ะ”
นอกจากแนวคิดการเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกแล้ว คุณแม่สู่ขวัญก็ให้ความสำคัญกับการให้ธรรมชาติสอนลูกด้วยเช่นกันค่ะ
อ่านต่อหน้า 2 >> คุณแม่สู่ขวัญ ให้ธรรมชาติ สอนลูก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
สู่ขวัญ บูลกุล ให้ธรรมชาติ เสริมสร้างประสบการณ์ให้ลูก
ถ้าใครติดตามคุณแม่สู่ขวัญในไอจี แม้ว่าจะมีความเป็นสาวสังคม แต่ในบทบาทของความเป็นแม่ ก็จะเห็นว่าคุณแม่สู่ขวัญมักจะให้ลูกชาย “น้องปราบ” ได้อยู่กับธรรมชาติมากที่สุด เรียนรู้ชีวิตแบบธรรมชาติ รวมถึงให้ลูกได้เรียนรู้ชีวิตการทำงานในฟาร์มของครอบครัว เหมือนเป็นคนงานคนหนึ่ง เพื่อให้รู้จักคุณค่าของงาน และคุณค่าของเงินที่ได้มาอีกด้วย ทำเอาหลายคนเข้ามาชื่นชมในความคิดนี้ของคุณแม่มากๆค่ะ
“เป็นความโชคดีที่บ้านของเรามีฟาร์ม เพราะตั้งแต่น้องปราบยังเล็ก เขาเป็นคนที่ชอบอยู่กับธรรมชาติ ดังนั้นกิจกรรมยามว่างที่น้องปราบชอบ คือการเข้าไปทำงานอยู่ในฟาร์ม เราเลยปล่อยให้เข้าไปอยู่ในนั้นได้ทั้งวัน กิจกรรมที่ทำ เช่น ดูม้า อาบน้ำให้วัว ตัดต้นข้าวโพด นั่งรถแทรคเตอร์ โดยที่ตัวปราบออกไปตั้งแต่เช้า ตอนเที่ยงกลับมากินข้าวที่บ้าน แล้วออกไปใหม่ในตอนบ่าย ซึ่งเป็นกิจวัตรที่ทำมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถ้าใครไปถามเขาเกี่ยวกับฟาร์ม เขาจะสามารถอธิบายได้เลยว่างานแต่ละอย่างต้องทำอย่างไร และใช้เครื่องจักรอะไรบ้าง”
อีกหนึ่งความน่าชื่นชมของ สู่ขวัญ บูลกุล คือความคิดที่ว่า การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีนั้น ถือว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมอีกทางที่พ่อแม่ควรทำร่วมกัน เพื่อให้ลูกเป็นคนที่ดี และไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม สุดยอดไปเลยค่ะ
“ความเป็นแม่ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ในเมื่อเราสร้างชีวิตหนึ่งขึ้นมาแล้ว ต้องรับผิดชอบชีวิตนั้นให้ดีที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ชีวิตลูกเราเท่านั้น วันหนึ่งที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตจะต้องเกี่ยวพันกับคนอื่น แล้วมีผลกระทบต่อคนอื่นไม่ว่าจะทางที่ดีหรือไม่ดี เพราะฉะนั้นส่วนหนึ่งที่เราเป็นพ่อแม่ทำได้ คือการรับผิดชอบสังคมร่วมกัน ต้องดูแลลูกเราให้ดีที่สุด”
นอกจากนี้เทคนิคการสอนลูกในแบบของ สู่ขวัญ คือพูดคุยสอนลูกเหมือนเราคุยกับผู้ใหญ่คนนึง ไม่ใช่วิธีการสอนแบบหลอกเด็ก และแม้ว่าวันนี้ลูกอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ก็มีความเชื่อว่าในอนาคตเด็กจะค่อยๆเข้าใจสิ่งที่แม่ป้อนให้ขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังคงให้เค้ามีความเป็นธรรมชาติในแบบของตัวเอง รวมถึง สู่ขวัญ ยังเพิ่มเติมอีกว่า อะไรก็ไม่สำคัญเท่า เราทำอะไร ถ้าเราคิดดี ทำดี พูดดี เราย่อมไปอยู่ในจุดที่ดีด้วย
ขอบคุณบทสัมภาษณ์จากนิตยสาร Real Parenting
อ่านต่อหน้า 3 >> 10 เทคนิคการเลี้ยงลูกยุคใหม่ ที่พ่อแม่ควรรู้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
10 เทคนิคการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่ ที่พ่อแม่ควรรู้
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณพ่อคุณแม่ใช้สมาร์ทโฟนท่องอินเทอร์เน็ตมากขึ้น จะเพื่อใช้ค้นหาความรู้เกี่ยวกับลูกก็ดี หรือจะใช้เพื่อความบันเทิง ซึ่งต้องยอมรับว่า ก็ทำให้เด็กยุคใหม่ที่เกิดมาใกล้ชิดกับเทคโนโลยีมากขึ้น แล้วคุณพ่อคุณแม่จะทำอย่างไร ถึงจะเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่ให้เป็นคนดีมีคุณภาพได้
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เผยถึง 10 เทคนิคในการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่ไว้ว่า….
- พ่อแม่ควรอธิบาย หรือสอนให้ลูกรู้ถึงพิษภัยที่แอบแฝง ของการใช้อินเทอร์เน็ต และควรแนะนำเว็บไซต์การเรียนรู้ภาษา สวนสัตว์ หรือเว็บไซต์ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก รวมถึงบล็อกเว็บไซต์สื่อลามกอนาจารที่ไม่เหมาะสม
- พ่อแม่ควรควบคุมการใช้เทคโนโลยีในบ้าน พักจากทีวี อินเทอร์เน็ต แล้วมาใช้เวลากับลูกมากขึ้น โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพราะของเล่นที่ดีสำหรับลูกก็คือ พ่อแม่นั่นเอง นอกจากจะเป็นการสร้างความอบอุ่นที่ดีแล้ว ยังเป็นการสร้างพัฒนาการของลูกได้ดีกว่าการให้ลูกเล่นเกมออนไลน์ เพราะการให้ลูกเล่นเกมส์ออนไลน์หรือคอมพิวเตอร์มากเกินไปจะทำให้เด็กมีแนวโน้มที่จะอยู่ในโลกส่วนตัวสูง มีปฏิสัมพันธ์ พูดคุย กับบุคคลอื่นลดลง
- พ่อแม่ควรให้ลูกดื่มนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และทานอาหารที่มีคุณค่า ฝึกทักษะการกินและสร้างนิสัยการกินที่ดี โดยเฉพาะอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม ขนมกรุบกรอบ และไม่ควรกินตามกระแสโฆษณา
- พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้ภาษามากกว่าหนึ่งภาษา เพราะจะเป็นการได้เปรียบในทุกด้าน โดยเฉพาะการประกอบอาชีพการงานในอนาคต
- พ่อแม่ควรรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกพูดคุย และแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น พูดคุยตอบโต้กับลูก กระตุ้นให้ลูกได้คิด สนใจถึงความเป็นไปในสิ่งรอบตัว ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และการพัฒนาของสมอง
- พ่อแม่ควรเสริมสร้างด้านจิตอาสาให้ลูก ให้ลูกเป็นคนดี มีน้ำใจ คิดดี ทำดี พูดจาดี และสนใจในเรื่องการช่วยเหลือสังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
- พ่อแม่ควรพาลูกออกไปหากิจกรรมอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย อย่าปล่อยให้ลูกจมอยู่กับทีวี หรือเล่นเกมนานๆ ซึ่งสำหรับเด็กวัย 2-6 ปี ควรให้วิ่งไล่จับ กระโดดเชือก เตะบอล ปีนป่ายของเล่น เด็กวัย 7-10 ปี ให้ขี่จักรยาน ตีปิงปอง ว่ายน้ำ และเด็กวัย 10 ปีขึ้นไปควรชวนเต้นแอโรบิก เล่นฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่ลูกชอบ
- พ่อแม่ควรสอนการเข้าสังคมให้ลูก แนะนำให้ลูกรู้จักกับบุคคลอื่นๆ ให้ทักทาย สวัสดี รู้จักแบ่งขนม ของเล่นให้เพื่อน การทำงานเป็นกลุ่ม การเข้าหาผู้อื่น การเอาใจเขามาใส่ใจเรา และรู้จักการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
- พ่อแม่ควรสอนให้ลูกหันมาช่วยกันลดภาวะโลกร้อน เช่น การปลูกต้นไม้ การสอนลูกให้รู้จักใช้น้ำ ใช้ไฟอย่างประหยัด รู้จักการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดคุ้มค่า
- พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักออมเงิน และบริหารเงินออมให้เป็น รวมทั้งการสอนให้รู้จักการทำงานแลกเงิน ซึ่งถือว่าเป็นทักษะที่ควรถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ เพราะจะช่วยให้มีวินัยการใช้เงิน
มีเทคนิควิธีให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกนำไปปรับใช้กันเยอะเลยนะคะ แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนๆ การเลี้ยงลูกให้ปลอดภัย และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ดี ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่เชื่อว่าพ่อแม่มีส่วนสำคัญมากๆ หากคุณพ่อคุณแม่เอาใจใส่ดูแลลูกๆอย่างใกล้ชิด และเต็มที่อย่างที่สุดแล้ว อย่างน้อยลูกจะต้องได้รับการซึบซับสิ่งดีๆจากพ่อแม่กลับไปไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูล www.hfocus.org
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
พ่อแม่เช็กด่วน! หลังจิตแพทย์เตือน! เลี้ยงลูกระวังเสี่ยง ภาวะเด็กถูกเร่ง
นักจิตวิทยาเด็กแนะเทคนิค! เลี้ยงลูกให้ห่างไกล ภัยจากโซเชียลมีเดีย
เลี้ยงลูกให้ฉลาด อารมณ์ดี ด้วยธรรมชาติ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่