เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า คาร์ซีทคืออุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับเด็กที่รถยนต์ทุกคันที่มีเด็กโดยสารไปด้วยควรจะมี และเด็กทุกคนควรถูกฝึกให้นั่งคาร์ซีท เช่นเดียวกับที่ผู้ใหญ่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย มาดูแบบอย่างที่ดี ลูกดารานั่งคาร์ซีท สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ควรทำ
การฝึกลูกนั่งคาร์ซีท เป็นวินัยพื้นฐานอย่างหนึ่ง การที่ลูกร้องไห้มากๆไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าไม่นั่งคาร์ซีท อาจเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรงดการอุ้มลูกนั่งตักระหว่างเดินทาง หรือให้ลูกวิ่งเล่นในรถ ให้เปลี่ยนเป็นวางในคาร์ซีท และรัดเข็มขัดให้ปลอดภัย หากจะนำลูกออกมาจากคาร์ซีท ต้องจอดรถก่อนทุกครั้ง
ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าชื่นชม ที่ในปัจจุบันพ่อแม่หลายท่านหันมาให้ความสนใจในเรื่องการใช้คาร์ซีทกันมากขึ้น ดังเช่นคุณพ่อคุณแม่ดาราคนดังเหล่านี้
น้องบีลีฟ ลูกพ่อตั๊ก-บริบูรณ์
อ่านต่อ “ลูกดารานั่งคาร์ซีท” คลิกหน้า 2
น้องเร ลูกแม่ทาทา
อ่านต่อ “ลูกดารานั่งคาร์ซีท” คลิกหน้า 3
อ่านต่อ “ลูกดารานั่งคาร์ซีท” คลิกหน้า 4
อ่านต่อ “ลูกดารานั่งคาร์ซีท และมารู้จักชนิดของคาร์ซีท” คลิกหน้า 5
คาร์ซีทมี 2 ชนิด
1.ชนิดสำหรับทารก (infant car seat)
ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 16 กก. ถ้านน.มากเกินนี้หรือตัวโตเกินไป จะต้องเปลี่ยนเป็นคาร์ซีทชนิดอื่น ข้อดีของคาร์ซีทชนิดนี้คือ มีน้ำหนักเบา ใช้เป็นที่นั่งเล่นหรือนั่งโยกเยกในบ้านได้ สามารถถอดและนำออกจากรถได้ขณะที่ลูกยังหลับอยู่โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายตัวลูกออกจากคาร์ซีท จะได้ไม่รบกวนการนอนของลูก สามารถใช้ถือเพื่อพาลูกไปไหนมาไหนได้ด้วย (carrier) หรือนำคาร์ซีทวางไว้ในรถเข็นเด็กได้เลย (stroller)
คาร์ซีทรุ่นทารกนี้ต้องหันไปทางด้านหลังรถเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของศีรษะ คอและลำตัว
สมาคมกุมารแพทย์แห่งอเมริกาแนะนำว่าทารกต้องนั่งคาร์ซีทหันไปด้านหลังจนอายุอย่างน้อย 2 ปี หรือจนกว่าน้ำหนักตัวเกิน 16 กก. เพื่อป้องกันปัญหากระดูกคอเคลื่อนหากเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
งานวิจัยในปัจจุบันแนะนำให้ชะลอการหันคาร์ซีทไปด้านหน้าให้ช้าที่สุดจนกว่าลูกจะตัวยาวเกินกว่าที่จะนั่งแบบหันไปด้านหลังได้อีกต่อไปเพราะว่าขายาวยันเบาะอย่างมากจนนั่งได้ไม่สบาย
เหตุผลที่แนะนำให้หันไปด้านหลังนานกว่าเดิมที่เคยบอกว่าให้หันมาด้านหน้าได้หลังจากอายุ 1 ปี เพราะงานวิจัยยืนยันว่า เด็กเล็กยังมีกระดูกคอไม่แข็งแรง การหันคาร์ซีทไปด้านหลังจะช่วยลดอันตรายจากแรงกระแทก เพราะเบาะของคาร์ซีทจะช่วยกระจายแรงกระแทกต่อกระดูกคอ ช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตและเป็นอัมพาตได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการหันคาร์ซีทไปทางด้านหน้า
2.คาร์ซีทชนิดหมุนได้ (convertible seat)
ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนลูกหนักถึง 36กก. โดยระยะแรกที่ลูกยังเล็กน้ำหนักน้อยกว่า 16 กก. จะหันคาร์ซีทไปทางด้านหลังรถ หากน้ำหนักเกิน 16 กก.ให้หันคาร์ซีทไปทางด้านหน้าได้ คาร์ซีทชนิดนี้นำ้หนักมากและยกขึ้นลงไม่สะดวก
ข้อดีของคาร์ซีทชนิดนี้คือประหยัดเงินเนื่องจากใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนโต แต่ข้อเสียคือ หากนำมาใช้ในเด็กทารกแรกเกิด อาจดูใหญ่เทอะทะเกินไป ต้องหาอุปกรณ์มาประคองลำตัวและคอของทารกให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น
ส่วนบู๊สเตอร์ซีท เป็นที่นั่งสำหรับเด็กที่โตเกินกว่าคาร์ซีทชนิดหมุนได้ แต่ยังไม่โตพอสำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัยแบบผู้ใหญ่ (อายุที่ใช้เข็มขัดนิรภัยแบบผู้ใหญ่คือ อายุเกิน 8 ปีขึ้นไป)
ควรเลิกใช้ Car Seat เมื่อไหร่ ?
ในการเลิกใช้คาร์ซีทคุณพ่อและคุณแม่ควรที่จะพิจารณาตามข้อบังคับดังต่อไปนี้
- เมื่อลูกของเรามีความสูงพอที่จะนั่งห้อยขาแล้วยาวถึงพื้นพอดี หรือโตพอที่จะนั่งตั้งตัวตรงได้แล้วเพราะจะสามารถที่จะทรงตัวได้เองในรถ
- เข็มขัดนิรภัยสามารถที่จะรัดตรงส่วนกระดูกเชิงกรานของได้พอดี จะต้องไม่รัดอยู่ที่ช่วงหน้าท้อง ขณะเดียวกันหากต้องขาดเข็มขัดนิรภัยส่วนบ่าจะต้องพาดตรงส่วนหน้าอก ไม่ผ่านบริเวณตรงแขนหรือบริเวณคอของลูก
- เมื่อลูกอายุ 8 ขวบหรือมีความสูงเกิน 150 เซนติเมตรขึ้นไป และสามารถรัดเข็มขัดได้อย่างถูกต้องแล้ว
ที่มาข้อมูล https://www.facebook.com/SuthiRaXeuxPhirocnKic/posts/1291878694171608:0, http://blog.lazada.co.th/tiptrick/megamum/car-seat/
ที่มาภาพ Instragram ของดารา ตามที่ปรากฏในภาพ
Save
Save
Save
Save
Save