ป้องกันลูกติดมือถือ สไตล์คุณพ่อลูกสอง เต๋า สมชาย

เห็นภาพในละคร นักแสดงหนุ่ม เต๋า สมชาย ออกจะสายเข้ม สายโหด แต่พอเข้าโหมดคุณพ่อลูกสองเนี่ย บอกเลยว่าความโหดไม่เท่า แต่ความเข้มงวดกับลูกๆก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะการออกกฎเหล็ก ป้องกันลูกติดมือถือ คุณพ่อเต๋า มีวิธีรับมือเรื่องนี้กับลูกๆอย่างไร แม่ๆตามมาดูกันเลยค่ะ

เรื่องที่คุณพ่อลูกสอง เต๋า สมชาย ออกจะเป็นห่วงเอามากๆ สำหรับลูกทั้งสองคน น้องสมใจ และน้องสุขใจ คงหนีไม่พ้น การที่กลัวลูกๆจะเป็นเด็กที่ติดมือถือมากจนเกินไป

แต่เมื่อไม่นานมานี้ คุณพ่อเต๋าก็ยอมใจอ่อน ที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือให้ลูกไว้ใช้ แต่เลี้ยงลูกแบบ สมชายสไตล์ ซะอย่าง ก็มีวิธี ป้องกันลูกติดมือถือ ด้วยวิธีนี้ค่ะ

ภาพจาก IG : yui_athamard

 

คลิกต่อหน้า 2 >>> เต๋า สมชาย เผย วิธี ป้องกันถูกติดมือถือ

 

 

วิธีป้องกันถูกติดมือถือ ในแบบของคุณพ่อมาดเข้ม เต๋า สมชาย

คุณพ่อเต๋า เผยว่า

“ผมซื้อโทรศัพท์โนเกีย 3310 ไว้โทรเข้าโทรออก แค่นั้น มันจำเป็นจริงๆ สำหรับยุคนี้ เวลาเขาอยู่โรงเรียน ผมไปรับ ต้องให้ตามเกือบชั่วโมง เขาไปเล่น ไม่รู้อยู่ไหน ผมไม่อยากให้เขาเล่นโซเชียล 3310 ก็มีอินเตอร์เน็ต ตอนผมซื้อ ผมให้ร้านปิดอินเตอร์เน็ต โทรเข้าโทรออก ให้เขาเล่นเกมได้ มีอยู่ 2-3เกม หนึ่งในนั้นคือเกมงู ตอนนี้เป็นสีแล้ว”

แล้วถ้าลูกๆเริ่มโต มีการขอเล่นมือถือมากขึ้น คุณพ่อเต๋า จะมีวิธีรับมืออย่างไร?

“ วันหนึ่งถ้าเขาขอผมเล่นโซเชียล ผมจะนั่งดูอยู่ด้วย เราจะอยู่ตรงนั้นด้วย ถ้าซื้อสมาร์ทโฟนให้เขา สิ่งสำคัญคือเราไม่รู้ว่าเขาเปิดดูอะไร และที่เราเห็นชัดเจน คือ มีอะไรโป๊ๆไม่ดี เด้งมาในโฆษณา ผมบอกลูกเสมอ ห้ามกดดู ไม่ใช่เรื่องของเด็ก เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ บางอันผู้ใหญ่ยังไม่สามารถเปิดดูได้เลย เราก็ตัดปัญหา เขาแฮปปี้ 3310 เป็นสี คราวที่แล้วให้ซัมซุงฮีโร่ เด็กไม่ค่อยอิน ดำๆ แต่มันดีมันทน วันเด็กเขาเลยขอของขวัญคนละชิ้น ลูกผู้ชายขอซื้อปืน ลูกผู้หญิงขอซื้อตุ๊กตา ยุ้ย ภรรยาผม เลยซื้อโทรศัพท์ให้ลูกคนละเครื่อง”

คุณพ่อเต๋า ยังเผยต่ออีกว่า ลูกๆไม่เคยเรียกร้อง แต่ก็สัญญากับเขาว่า ถ้าอายุถึง 15 ปี จะให้สมาร์ทโฟน ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ อายุ 7 ขวบ และ 8 ขวบ

ภาพจาก IG : yui_athamard

 

อ่านต่อหน้า3 >>> วิธีแก้ไข ทำอย่างไรเมื่อลูกติดมือถือ 

 

วิธีแก้ไข ทำอย่างไรเมื่อลูกติดมือถือ 

 

1. เริ่มที่ตัวพ่อแม่ ที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีเสียก่อน หากตัวพ่อแม่ยังคงติดอยู่กับการดูทีวีดึกๆ ติดจอมือถือตลอดเวลา คงไม่สามารถที่จะบอกให้ลูกหยุดติดมือถือ หรือเทคโนโลยีต่างๆได้ ดังนั้น ไม่ว่าจะตั้งกฎมากมายกับลูกมากเพียงใด หากพ่อแม่ ไม่ใช่แบบอย่างที่ดี ก็ไม่มีความหมาย

2. ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ลูกหันมาออกกำลังกาย  คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างแรงจูงใจให้ลูกเลือกเล่นกีฬาที่ชอบ  เราควรให้ลูกเป็นฝ่ายเลือกบ้าง ช่วยให้ลูกไปถึงเป้าหมาย และจัดตารางร่วมกันกับลูก มีกิจกรรมสานสัมพันธ์ร่วมกัน มากกว่ามานั่งติดอยู่กับหน้าจอ

3. เตือนลูกเมื่อถึงเวลาที่กำหนด การงดไม่ให้ลูกเลิกเล่นเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เตือนให้ลูกรู้ว่า ลูกกำลังทำอะไรอยู่ บางครั้งอาจต้องเตือนลูกอย่างใจเย็นๆ ว่า “แม่คิดว่าลูกใช้เครื่องมือสื่อสารมากเกินไปแล้ว” ดังนั้น ถึงเวลาควรหยุด และทำอย่างอื่นบ้างได้แล้ว

4. ต้องมีข้อตกลงร่วมกัน ในการใช้เครื่องมือสื่อสาร  พ่อแม่ควรทำข้อตกลง ที่เป็นกฎของบ้านร่วมกันกับลูก และควรมีการให้รางวัลเมื่อทำดี หรือลงโทษหากทำผิดกฎ เพื่อให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วม เช่น ห้ามดูทีวีขณะรับประทานอาหาร, ต้องทำการบ้าน หรืองานบ้านให้เสร็จก่อนดูทีวี, เมื่อถึงเวลานอนต้องปิดทีวี, ใช้คอมพิวเตอร์ได้ในห้องนั่งเล่นเท่านั้น เป็นต้น

5. ให้ลูกได้มีการเข้าสังคม ให้ลูกได้มีโอกาสเข้าสังคม และรู้จักการปรับตัวเข้ากับคนอื่น โดยการให้ลูกเลือกทำกิจกรรมกับกลุ่มที่ลูกคุ้นเคย และสนใจก่อน เช่น ร่วมกิจกรรมที่โรงเรียน ทำกิจกรรมกับเพื่อนบ้านใกล้เคียง หรืออาสาสมัครทำงานที่ลูกชอบ

6. เปิดอกคุยกับลูก หากการตั้งกฎต่างๆข้างต้น ใช้ไม่ได้ผลกับลูก อาจถึงเวลาที่จะต้องพูดคุยกับลูกตรงๆ ถึงผลเสียของการติดมือถือ และเทคโนโลยีต่างๆ ผลกระทบของการใช้มากเกินความจำเป็น เช่น อาจเป็นโรคอ้วน จอภาพสายตาเสื่อม เป็นโรคหัวใจเป็นต้น เพื่อจะได้ตระหนักถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้น

เทคโนโลยีมีทั้งผลดี และผลเสีย ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ให้ถูกต้อง และเหมาะสม แม้ว่ายุคสมัยนี้ เด็กๆรุ่นใหม่จะเข้าใกล้เทคโนโลยีมากขึ้น แต่เชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องยาก ที่คุณพ่อคุณแม่จะปรับตัว และมีวิธีรับมือกับลูกๆที่ติดมือถือได้ค่ะ

 

เครดิต : www.manager.co.th

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ 

หมอเผย! แก้ปัญหา ลูกติดมือถือ ผิดวิธี! ส่งผลเสียต่อพัฒนาการ

7 วิธีป้องกันและแก้ปัญหาลูกติดเกม

หมอเตือน! ให้ลูกเล่นโทรศัพท์ตอนปิดไฟ เสี่ยงตาบอด