AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

“พีช สิตมน ผลดี” กับบทบาทภรรยา แม่ และเวิร์กกิ้งมัมคนเก่ง

ถ้าเอ่ยชื่อ “พีช สิตมน ผลดี” หลายคนคงเกิดอาการอิจฉาเล็กๆ เพราะเธอคือนางเอกในชีวิตจริงของพระเอกสุดฮอตตลอดกาลอย่าง “พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” เธอคนนี้จัดว่าครบเครื่องทั้งสวยและเก่ง ทุกวันนี้นอกจากรับหน้าที่แม่และภรรยาแล้ว เธอยังขอหวนคืนวงการด้านดีไซน์ที่เธอชื่นชอบ ด้วยการเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเด็กในชื่อ LittleFox และเป็นความโชคดีของ Amarin Baby&Kids สุดๆ ที่เราได้บุกมาถึงโชว์รูมเสื้อผ้าของเธอ และยังได้พูดคุยกับเธอแบบเจาะลึกทุกเรื่องอีกด้วยค่ะ

พีชกับพี่ติ๊กมีโอกาสได้รู้จักกันค่ะ พอได้คุยกัน มันค่อนข้างคลิก เพราะเรามีแนวคิดอะไรบางอย่างที่ไปในทิศทางเดียวกัน ก็เป็นเพื่อนกันก่อน แล้วคบกันมาเรื่อยๆ 6-7 ปีได้ค่ะ เลยตัดสินใจแต่งงานกัน

พีชคิดว่าทุกคนต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง และเราควรจะรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ แต่เราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ใช้ร่วมกันได้ พีชคิดว่าอย่างนี้มันจะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข เป็นวงจรที่แข็งแรงกว่า คือถ้าเราต้องดึงเขามาอยู่กับเราตลอดหรือเขาดึงเราไปอยู่กับเขาตลอด ในสิ่งที่เขาหรือเราไม่ได้เป็นมันจะอึดอัด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำให้กันได้ คือสนับสนุนกันไปมา เท่าที่เราจะทำได้ พีชว่าแค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว

ความเข้าใจกันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดค่ะ เราต้องเข้าใจในตัวเขา และเข้าใจตัวเองด้วย ส่วนเรื่องความรู้สึกก็สำคัญเหมือนกัน พอเราอยู่ด้วยกันมานานเราจะรู้แล้วว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเกินขอบเขต เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเราก็จะไม่ทำ และพีชไม่ชอบการปะทะ ไม่ชอบความเครียด เลี่ยงได้ก็จะไม่ทะเลาะกับใครเลย อะไรยอมได้เราจะยอม และพีชก็คิดว่าพี่ติ๊กก็คงคิดเหมือนกัน เพราะเราถึงได้อยู่กันมาได้ เขาก็ยอม เราเลยไม่ค่อยทะเลาะกัน อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างเราก็จะคุยกันมากกว่า

ย้อนกลับไปหลังจากแต่งงานประมาณ 3 ปี ก็ท้อง ตอนนั้นตื่นเต้นและดีใจมากเพราะว่า ทีแรกเรายังไม่ตัดสินใจจะมีลูก แต่พอตัดสินใจว่าจะมีลูก น้องเต็นท์ก็มาเลย ชีวิตเปลี่ยนไปต้องระวังไปทุกอย่าง ดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งเรื่องจิตใจและร่างกาย พยายามไม่เครียดและทำอะไรที่ตัวเองชอบ โชคดีว่าเป็นช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตั้งใจท้องจริงๆ ไม่ได้ทำงาน เลยมีเวลาดูแลตัวเองเต็มที่ ได้ออกกำลังกายบ้าง ทั้งเดินรอบบ้าน เล่นโยคะ พิลาทิส และออกกำลังกายในน้ำ

 

 

ใช่ค่ะ ปกติพีชเป็นคนกินตามใจตัวเองมาก อยากกินอะไรก็กิน ขนมชอบมาก (ลากเสียงยาว) ตอนท้องก็ยังกินทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ต้องเพิ่มอะไรที่เราไม่ชอบเข้าไป เช่น ตับ เพราะพีชไม่กินเครื่องใน แต่คุณหมอบอกว่าต้องกินบ้างเพราะมันมีธาตุเหล็ก ก็พยายามลองหลายแบบกว่าจะกินได้ บังคับตัวเองสุดๆ

ปกติเพราะพี่ติ๊กเขาเป็นคนใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่แล้ว อย่างเวลาเราเดินออกกำลังกาย เขาก็จะมาเดินเป็นเพื่อน หรือเราอยากทำอะไรเขาไม่เคยห้ามแต่ขอให้ระวังตัวเองนิดหนึ่ง พีชเลยค่อนข้างจะโชคดีได้ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ อยากจะออกไปข้างนอก ไปเดินเล่น หรือช้อปปิ้งก็ไป พีชพยายามทำตัวเป็นปกติที่สุด ไม่ปล่อยตัวเองให้โทรม ยังทาปากแดงออกจากบ้านทุกวัน

ก็มีช่วงที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน อารมณ์ขึ้นๆลงๆแปรปรวนบ้าง แต่ไม่ใช่อารมณ์น้อยใจ เพราะปกติเขาก็ไปทำงานทุกวัน แต่บางวันเราจะรู้สึกเหงา พี่ติ๊กเขาก็พยายามเอาใจ โทรหาระหว่างวัน เพราะเขาออกไปทำงานตอนเช้า ตอนเย็นก็เจอกันแล้ว ส่วนพีชก็พยายามเข้าใจอารมณ์ตัวเองและปรับที่ตัวเองก่อน

พีชผ่าคลอดนะคะ เพราะมีปัญหาเรื่องความดันต่ำคลอดธรรมชาติไม่ได้ ตอนนั้นก็มึนๆ ยานิดหนึ่งแต่ก็ยังจำโมเมนต์ที่เห็นหน้าเขาได้ มันมีหลายๆความรู้สึกเลย ทั้งดีใจ โล่งใจ ตื้นตัน แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงเขามากกว่าก็คืออยากรู้ว่าเขาแข็งแรงสมบูรณ์ไหม พอเราถามไปแล้วพี่ติ๊กตอบว่าโอเค เราก็สบายใจแล้ว

เราตั้งใจว่าจะเลี้ยงกันเอง วันแรกก็โกลาหลมาก ทั้งๆที่พยายามฝึกตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว แต่เละเลยค่ะ (หัวเราะ) เปลี่ยนผ้าอ้อมก็เลอะเทอะไปหมด ตอนอาบน้ำก็กลัว เพราะเขาตัวเล็กมาก ไหนจะร้องไหนดิ้น วุ่นวายมาก ช่วง 3-4 เดือนแรกพีชไม่ได้นอนเตียงเลย อุ้มลูกนั่งให้นมบนเก้าอี้ก็หลับไปด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก แต่พอตอนนี้เรามองย้อนกลับไป อืม…เราก็ผ่านมาได้นะ

พี่ติ๊กเขาก็พยายามมาช่วยทุกอย่าง ทั้งอาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนนม เพราะฉะนั้นก็มีบางวันที่เขาให้เราพัก ให้เราออกไปเที่ยว เขาก็จะดูลูกให้เอง เขาทำได้

ไม่ค่อยนะ เพราะรู้ว่าพี่ติ๊กเขาเลี้ยงเป็นเราก็จะสบายใจ แต่ถ้าเป็นคนอื่นสิ น่าห่วงกว่า ในตอนแรกพีชถึงไม่เอาพี่เลี้ยงเลย พีชรู้สึกไม่ไว้ใจใคร กลัวคนอื่นดูแลลูกเราไม่ดีเท่าที่เราดู จนลูกเริ่มเดินได้ ถึงให้มีคนเข้ามาช่วยบ้าง

สองขวบครึ่งแล้วค่ะ ซนตามธรรมชาติเด็กผู้ชายทั่วไป พูดเก่ง ชอบสำรวจ ติดพ่อติดแม่ ขี้อ้อน พีชว่าเป็นช่วงอายุที่กำลังน่ารัก แล้วเราก็พยายามเลี้ยงเขาอย่างธรรมชาติที่สุด อะไรที่เขาอยากทำอยากสำรวจถ้ามันไม่อันตรายต่อตัวเขา เราจะให้เขาทำทั้งหมด ความเลอะเทอะไม่ใช่สิ่งที่เรากลัว เพราะฉะนั้นเขาจะได้เล่นเต็มที่เลย พ่อแม่ก็จะคอยดูอยู่ข้างๆมากกว่า

 

 

 

ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ได้จริงๆ พีชใช้วิธีพูดกับเขาค่ะ เน้นน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น เพราะพีชสังเกตดู คือถ้าสมมติเราเสียงเข้มกับเขา เขาก็จะรู้สึกว่าแม่กำลังโกรธ แม่ไม่พอใจแล้วนะ เขาก็จะเข้ามาหาเข้ามาอ้อน เขาอาจจะไม่ได้เข้าใจประโยคที่เราอธิบายทั้งหมด แต่เขาเข้าใจจากน้ำเสียง

ยังไม่ได้คิดไปไกลมากค่ะ เริ่มคิดเรื่องโรงเรียนก่อน ตอนนี้ก็ให้เขาไปเตรียมความพร้อมโรงเรียนใกล้ๆบ้าน ไปแค่ 3 ชั่วโมงไปเล่น ไปฝึกเจอเพื่อน เจอคนแปลกหน้า ส่วนโรงเรียนอนุบาลก็ค่อยๆดู ช่วงนี้เป็นช่วงหาข้อมูล เก็บข้อมูลค่ะ สิ่งที่พีชคำนึงมากที่สุดคืออยากให้เขามีความสุข ดังนั้นจะเลี้ยงอย่างไงก็ได้ขอให้ลูกมีความสุข โดยยังเป็นคนที่มีระเบียบวินัย และมีขอบเขตในการประพฤติตัวที่ไม่สุดโต่งจนเกินไปค่ะ

เรานอนด้วยกันตลอด เขาก็จะกอดเรา พีชว่าการที่เราได้กอดกันทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเขาคงไม่กอดเราแล้ว

พี่ติ๊กเป็นคนที่อยู่กับเด็กแล้วน่ารัก เขาเป็นคนที่เล่นกับเด็กเก่งอยู่แล้ว แล้วเวลาที่เขาเล่นกับลูกเราจะแอบเห็นเขาทำเสียงเล็กเสียงน้อย หาอะไรมาเล่นกันเยอะมาก เวลาเล่นกันก็จะสนุกเต็มที่มอมแมมไปทั้งคู่เลย เหมือนเด็กโตกับเด็กเล็กเล่นกัน (หัวเราะ) นอกจากเรื่องเล่นแล้วก็จะมีเรื่องที่เขาดูแลลูก อาบน้ำให้ลูกทุกวัน แล้วพี่ติ๊กเขาทำคล่อง ทำคนเดียวได้ เพราะถ้าพีชอาบให้ลูกจะต้องมีคนช่วย เพราะถ้าหันหลังปุ๊บเต็นท์วิ่งไปแล้ว มันจะวุ่นวายมาก

อยากมีนะคะ ตอนนี้ก็พยายามดูแลสุขภาพตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะพีชกับพี่ติ๊กเราเห็นตรงกันว่าการมีพี่น้องมันสนุก เราทั้งคู่ต่างคนก็มีพี่น้อง สมมติในอนาคตที่เราไม่อยู่แล้ว เขาจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เขาจะได้มีคู่หูมีคู่คิดค่ะ

พีชชอบเรื่องแฟชั่นและดีไซน์อยู่แล้ว ก่อนแต่งงานเคยทำร้าน Q Concept ซึ่งเป็น Concept Store ที่รวบรวมเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านจากหลากหลายแบรนด์ ได้ไปเลือกของเอง ทำมาตลอดแต่เลิกทำก็เพราะตั้งใจจะมีลูก พอมีลูกก็อยากทำเสื้อผ้าให้ลูกแหละ เพราะพีชชอบเสื้อผ้าแนวเท่ๆ แฟชั่นๆ แต่บ้านเรายังไม่มีเสื้อผ้าเด็กแนวนี้ออกมา หรือถ้ามีก็เป็นแบรนด์ต่างประเทศที่ราคาค่อนข้างสูงมาก พีชก็เริ่มพัฒนาความคิดไอเดียต่อไปเรื่อยๆ จนอยากทำจริงจัง พี่ติ๊กก็เชียร์ให้ทำแบรนด์ตัวเองเราจะได้ปล่อยไอเดียได้เต็มที่ เจ้าจิ้งจอกแสนซนหรือ LittleFox จึงเกิดขึ้นมาค่ะ

พีชเป็นคนคิดคอนเซ็ปต์ทั้งหมด เป็นคนวางโครงหลัก และมีน้องอีกคนมาช่วยเพราะเราก็ยังต้องเลี้ยงลูก คือไม่มีเวลาอยู่ออฟฟิศตลอด เมื่อได้ธีมของแต่ละคอลเลคชั่นแล้วก็คิดไว้เลยว่าสีจะเป็นโทนไหน เราจะใช้ผ้าอะไร แล้วก็พัฒนาสิ่งที่เราคิดให้ไปด้วยกัน

แรงบันดาลใจมาจากทุกที่เลยค่ะ ทั้งตอนไปเที่ยว ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ อะไรที่เราว่ามันน่าสนใจก็จะดึงมันออกมา

ซึ่ง LittleFox เราเป็นบูทีค คอลเลคชั่นหลักๆของเราคือ Spring และ Summer สองคอลเลคชั่นนี้เสื้อผ้าจะแนวแฟชั่น มีดีเทล มีลูกเล่นเยอะนิดหนึ่ง ไว้ใส่ออกนอกบ้าน และคอลเลคชั่น Basic ซึ่งเป็นชุดลำลองน่ารัก สำหรับใส่อยู่บ้าน เน้นเสื้อยืดใส่สบายที่เราออกแบบลายผ้าเอง ทำเป็นทรงต่างๆ จริงๆใส่เที่ยวได้ด้วย เป็นวันสบายๆ

เราขายออนไลน์เป็นหลักค่ะ เพราะแม่ๆส่วนใหญ่ต้องอยู่กับลูกก็จะไม่มีเวลาออกมาช้อปปิ้ง ถ้าสั่งซื้อออนไลน์มันก็ง่าย เพราะพีชเองพอมีลูกก็เน้นช้อปปิ้งออนไลน์เหมือนกัน แต่ก็จะมีไป Pop upตามห้างบ้างแบบชั่วคราว แต่ถ้าใครสนใจอยากเข้ามาดูแบบพาลูกมาลองชุด โทรเข้ามานัดที่โชว์รูมได้เลยค่ะ

อนาคตมีแผนทำเสื้อผ้าผู้ใหญ่ด้วยไหมคะ เห็นมีแฟนคลับเรียกร้องอยากให้ทำเสื้อผ้าผู้ใหญ่บ้าง

ที่จริงรายละเอียดของเสื้อผ้าผู้ใหญ่กับเด็กมันต่างกัน ตอนนี้เราอยากทำเสื้อผ้าเด็กให้ดีที่สุดก่อน แต่ไม่แน่ค่ะอาจจะมีคอลเลคชั่นพิเศษสำหรับแม่ลูกออกมาบ้างต้องติดตามนะคะ

 

สัมภาษณ์และเรียบเรียง นันทวรรณ์ ภู่ศรี ช่างภาพ กัญชนิกา เมืองวงษ์ ผู้ช่วยช่างภาพ จักรพงษ์ นุตาลัย วรรณรดา เต่าบำรุง Acting Coach มัลลิกา ชัยทวีพร