หากได้รับพิษจากแมลงก้นกระดก หรือ แมลงน้ำกรด จะต้องทำอย่างไร? และจะเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือไม่? คุณพ่อคุณแม่ต้องอ่านเลยค่ะ
แมลงก้นกระดก หรือ แมลงน้ำกรด
เปิดมาเจออินสตาแกรมของคุณแม่ลูกสอง หน่อย บุษกร บอกเลยว่าตอนแรกแอบตกใจเลยค่ะ เพราะเห็นแม่หน่อยโพสต์ภาพแขนของตัวเอง มีลักษณะแดง และมีแผลพุพอง พร้อมกับโพสต์ข้อความอธิบาย ซึ่งทำให้รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังที่แขนพุพองแบบนี้เกิดจากพิษของเจ้าแมลงก้นกระดก หรือ แมลงน้ำกรด นั่นเองค่ะ โดยแม่หน่อยได้โพสต์ว่า
“ไปชะอำโดนแมลงก้นกระดกกัด ไม่รู้ตัว นึกว่าแพ้อะไรตอนนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้พงหญ้า เพราะเห็นเป็นแดงๆ เม็ดๆ แต่ไม่คัน โดนตั้งแต่วันพุธ วันเสาร์มันเพิ่งเริ่มอาการแสบๆ ร้อนๆ พอวันอาทิตย์มันเริ่มพุพองขึ้นมา ตอนแรกคิดว่าเราเป็นงูสวัดหรือ? เพราะเห็นมันเริ่มลามไปเกือบรอบศอก ตัดสินใจไปหาหมอถึงรู้จักแมลงชนิดนี้ น่ากลัวมาก มันกัดเราไม่รู้ตัวและพิษมันโหดมาก โชคดีที่ไม่โดนที่หน้า อืม เคราะห์ซ้ำกรรมซัดสินะ ผ่าฟันยังไม่ทันหายดี?? ปล ฝากไว้ให้รู้เนอะ”
เรียกว่ายังดีที่ไปพบแพทย์ทันนะคะ ซึ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อาจจะยังไม่รู้ถึงพิษแมลงก้นกระดก หรือ แมลงน้ำกรด ว่ามีอันตรายอย่างไร? มาดูกันเลยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก IG : kun_jun
อันตรายจากพิษแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อันตรายจากพิษแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด
ต้องบอกเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังพาลูก พาครอบครัวไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด อาจจะต้องระมัดระวังกันหน่อยค่ะ เพราะอาจจะเจอพิษของ แมลงก้นกระดกหรือแมลงน้ำกรด ทำให้หมดสนุกในการเที่ยวก็ได้นะคะ
แมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด คืออะไร?
แมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด หรือชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Paederus fuscipes เป็นแมลงขนาดเล็กประมาณ 7-8 มม. ส่วนหัวมีสีดำ ปีกน้ำเงินเข้มขนาดเล็ก และส่วนท้องมีสีส้ม แมลงชนิดนี้มักจะงอส่วนท้ายเมื่อเกาะอยู่กับพื้น จึงมักเรียกว่า แมลงก้นกระดก แมลงชนิดนี้จัดอยู่ใน Genus Paederus, Family Staphylinidae, Order Coleoptera โดยพบกระจายทั่วโลก มากกว่า 600 สายพันธุ์ โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้น โดยมักอาศัยบริเวณพงหญ้าที่มีความชื้น ชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน โดยเฉพาะจะมีมากในช่วงปลายฤดูฝน หรืออาจจะช่วงที่มีฝนตก
อันตรายจากพิษของแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด
ก่อนหน้านี้มีข่าวต่างๆออกมา มากมายรวมถึงมีนคำถามว่า หากโดนพิษของแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด จะเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือไม่? ซึ่งทางสมาคมแพทย์ผิวหนังได้ออกมายืนยันแล้วว่า พิษจากแมลงก้นกระดก หรือ แมลงน้ำกรด ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่จะทำให้เกิดตุ่มแผลพุพอง ที่อาจจะทำให้ผิวหนังเกิดแผลดูน่ากลัว และใช้ระยะเวลาในการรักษา
อาการเมื่อโดนพิษแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด
ความจริงแล้วไม่ได้เกิดจากการที่แมลงน้ำกรด กัดคน แต่เกิดจากการที่แมลงชนิดนี้สามารถปล่อยสารที่เรียกว่า สารพีเดอริน (Pederin) ออกมาที่ผิวหนังคน จากการที่โดนบี้ หรือตบ จนสารนี้ออกมาโดนผิวหนัง โดยสารชนิดนี้ก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิวหนังมาก จะทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัสโดน และจะมีอาการแสบร้อนหรือคันได้เล็กน้อยโดยไม่ได้ก่อให้เกิดอาการปวดแสบรุนแรงแต่อย่างใด และมีการอักเสบของผิวหนังได้ โดยความรุนแรงจะขึ้นกับปริมาณความมากน้อยหรือความเข้มข้นของสารพีเดอริน ที่สัมผัสโดน
ซึ่งอาการผื่นผิวหนังจะยังไม่เกิดทันทีที่สัมผัส แต่จะเริ่มเกิดผื่นและอาการแสบเมื่อผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมง ต่อมาจะเกิดเป็นผื่นแดงขอบเขตชัดเจน หรือรอยไหม้ลักษณะเป็นทางยาว โดยลักษณะที่เกิดเป็นทางยาวเพราะเกิดจากการปัดด้วยมือ หรือบางรายจะเกิดผื่นที่บริเวณซอกรอยพับที่ประกบกัน ร่วมกับตุ่มน้ำพองและตุ่มหนองใน 2-3 วัน
โดยผื่นตุ่มน้ำตามบริเวณใบหน้า ลำคอ แขน มักทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นงูสวัดได้ แต่แตกต่างจากผื่นงูสวัด คือ ผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดกหรือแมลงน้ำกรด จะไม่มีอาการปวดร้าวตามแนวเส้นประสาทในตำแหน่งที่เกิดผื่นเหมือนอาการงูสวัด
สำหรับในรายที่ผื่นเป็นบริเวณกว้าง อาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดข้อ หรืออาการคลื่นไส้อาเจียนได้ หากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
การรักษา อาการผื่นผิวหนังจากแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด
- ผื่นที่เกิดจากการสัมผัสแมลงก้นกระดกนี้ ในเวลาต่อมาผื่น หรือแผลจะตกสะเก็ด และหายได้เองได้ภายใน 7-10 วัน หายแล้วอาจจะทิ้งรอยดำไว้สักระยะหนึ่งได้ แต่มักไม่เกิดแผลเป็น นอกจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติมที่บริเวณผื่นเดิม ทำให้ผื่นหายช้าลงและอาจลุกลามจนมีโอกาสเกิดเป็นแผลเป็นหลังจากผื่นหายแล้วได้
- การรักษาโดยการใช้ครีมสเตียรอยด์ ทาในผื่นแดงระยะเริ่มแรก แต่ถ้าผื่นมีตุ่มน้ำพองเป็นบริเวณกว้างหรือแผลไหม้ควรทำการประคบด้วยน้ำเกลือครั้งละ 5-10 นาที วันละ 3-4 ครั้งจนแผลแห้ง ร่วมกับพิจารณายาปฏิชีวนะชนิดรับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม และการรับประทานยาแก้คันเพื่อช่วยบรรเทาอาการคันในผู้ป่วยบางราย
- หากสัมผัสถูกตัวของแมลงก้นกระดก แมลงน้ำกรด ให้รีบล้างด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำสบู่ และประคบเย็นในบริเวณที่สัมผัสโดนแมลง สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนัง ถ้าเกิดเพียงรอยแดงเล็กน้อยสามารถหายเองได้ใน 2-3 วันไม่จำเป็นต้องทายาใด
วิธีป้องกันตัว จากพิษแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด
- ไม่ควรจับตัวแมลงที่ไม่รู้จัก หรือไม่เคยเห็นมาก่อน หยิบจับเล่น เพราะอาจจะเป็นแมลงมีพิษได้
- ควรหลีกเลี่ยงการปัด หรือบีบตัวแมลงที่มาเกาะตามตัว ควรใช้วิธีเป่าแมลงให้หลุดออกไปเองโดยไม่ต้องจับโดนตัวแมลง
- ก่อนนอนควรปัดที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม ก่อน เพื่อป้องกันแมลงเกาะตามที่นอน รวมทั้งควรปิดประตูตู้เสื้อผ้า ประตูและหน้าต่างห้องนอนให้มิดชิด ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ในช่วงกลางคืนควรเปิดไฟเฉพาะเท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะควรปิดไฟห้องนอน เพราะแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรด มักชอบออกมาเล่นกับแสงไฟตามบ้าน
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วว่าพิษจากแมลงก้นกระดก หรือแมลงน้ำกรดนั้น อันตรายอย่างไร ก็ควรจะดูแลตัวเอง และลูกน้อย เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อเวลาไปต้องไปเที่ยวในสถานที่ที่มีความเสี่ยง จะได้เที่ยวกันอย่างมีความสุข ไม่มีโรคภัยติดกลับบ้านมาด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก healthandtrend
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
แม่ท้องระวัง ไข้มาลาเรีย เป็นแล้วอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และลูก
แพทย์เตือน ไม่กินข้าวเช้า ระวังเสี่ยง 6 โรคร้าย
เตือนพ่อแม่! เฝ้าระวัง โรคพิษสุนัขบ้าระบาด หนักในไทย!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่