จะรู้ได้อย่างไรว่า…ลูกป่วย ติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย?
สำหรับอาการเจ็บคอส่วนใหญ่ (8 ใน 10 ราย) เกิดจากเชื้อไวรัส โดยจะมีอาการต่อมทอนซิลบวมแดง คอแดงทำให้เจ็บคอ อาจมีอาการไอร่วมด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะก็หายได้
ส่วนการติดเชื้อแบคทีเรีย (ซึ่งพบน้อยกว่า) จะมีคอแดง ต่อมทอนซิลบวมแดงและเจ็บคอ มีข้อแตกต่างจากเจ็บคอจากเชื้อไวรัส คือ มีจุดหนองที่ต่อมทอนซิล มีฝ้าสีเทาที่ลิ้น และมักจะคลึงพบต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้ขากรรไกรโต และ จุดแตกต่างที่สำคัญที่สังเกตได้ง่าย คือ มักจะไม่มีอาการไอ
หวัดเจ็บคอจากเชื้อไวรัส ลูกไม่ชอบกินยา จะรักษาอย่างไร ?
เด็กๆ ทุกคนมีภูมิต้านทานของร่างกายที่เอาชนะเชื้อไวรัสได้อยู่แล้ว แต่ในช่วงที่ไม่สบาย ก็อาจมีอาการเป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ไอ มีน้ำมูกหรือเสมหะ และรู้สึกเพลีย และในช่วงเวลานี้เอง “พระเอกภูมิต้านทาน” ก็กำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสอยู่
ส่วนยาแก้คัดจมูก และยาลดไข้ คือ “ผู้ช่วยพระเอก” ที่จะทำให้ลูกน้อยทุเลาอาการเหล่านี้ลง จนกว่าพระเอกจะปราบผู้ร้ายเชื้อไวรัสได้หมดซึ่งมักใช้เวลา 3 – 4 วัน เป็นอย่างน้อย
เป็นหวัด เจ็บคอจากเชื้อไวรัส หายเองได้จริงหรือ?
ในขณะที่ “พระเอกภูมิต้านทาน” กำลังสู้กับ “ผู้ร้ายเชื้อไวรัส” ส่วนคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ที่ดูแลลูกน้อย ก็คือ “นางเอกคนสำคัญ” นั่นเอง เพราะว่าจะต้องคอยดูแลลูกมากกว่าเวลาปกติ โดยการช่วยเช็ดตัวลดไข้ จัดยาที่จำเป็นและหาอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มหรือโจ๊ก ให้เรากิน รักษาบริเวณลำคอของเรา ให้อบอุ่น และให้เราดื่มน้ำมากๆ
นอกจากนี้หากป่วย เจ็บคอ แล้ว ไม่ชอบกินยา การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอหรือระคายเคืองในคอได้ ซึ่งการทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ภูมิต้านทานร่างกายของเราแข็งแกร่ง เพียงไม่กี่วัน และเชื้อไวรัสหวัดก็ต้องล่าถอยไปเอง
อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!
- 8 เทคนิคป้อนยาลูก เมื่อลูกกินยายาก
- ลูกกินยายากมาก ทำยังไงดี
- ลูกเป็นหวัด มีน้ำมูก 5 วิธีรักษาแบบไม่ต้องพึ่งยา
- ป้องกันไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมให้ลูกน้อยช่วงหน้าฝน
ขอบคุณข้อมูลจาก : health.mthai.com