สวัสดีแฟนๆ AMARIN Baby & Kids ทุกท่านค่ะ หลายท่านที่กำลังรอประกาศผลรางวัลสุดยอดองค์กรสนับสนุนเด็กและครอบครัวแห่งปีจากการโหวตผ่านนิตยสาร AMARIN Baby & Kids ก่อนอื่นเรามาย้อนดูเรื่องราวแห่งปีของสุดยอดคุณพ่อคุณแม่แห่งปี จากครอบครัว “ผลดี” และ “สหวงษ์”
พ่อติ๊ก – แม่พีช – น้องเต๊นท์ ครอบครัวผลดี
ไม่เคยเปิดตัวออกสื่อเลย แต่เมื่อใส่เสื้อทีมออกงานครั้งแรกก็ดังเป็นพลุ เพราะเป็นควันหลงจากละครเรื่องเจ้าบ้านเจ้าเรือน ซึ่ง พ่อติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี รับบทเป็นคุณไรวินทร์ เจ้าบ้านเจ้าเรือนผู้สวมสูทมีออร่าขาวผ่อง (แสดงคู่กับนางเอกสุดฮอตสวยระดับนางฟ้าอย่างศรีริต้า เจนเซ่น) ในบทพ่อ ไม่แตกต่างจากชีวิตจริงที่คุณติ๊ก เป็นคุณพ่อเต็มตัวแล้วเช่นกัน
ผู้หญิงที่โชคดีผู้ได้หัวใจ “พี่ติ๊ก” ไปครอง คือ คุณพีช สิตมน ซึ่งปีนี้ทั้งครอบครัวผลดี ก็ได้รับรางวัลสุดยอดครอบครัวแห่งปีอีกด้วย ผู้อ่าน AMARIN Baby & Kids โหวตให้สุดแรงมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดโหวต
- จุดเริ่มต้นความรักของคุณพีชกับพี่ติ๊กเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ
พีชกับพี่ติ๊กมีโอกาสได้รู้จักกันค่ะ พอได้คุยกัน มันค่อนข้างคลิก เพราะเรามีแนวคิดอะไรบางอย่างที่ไปในทิศทางเดียวกัน ก็เป็นเพื่อนกันก่อน แล้วคบกันมาเรื่อยๆ 6-7 ปีได้ค่ะ เลยตัดสินใจแต่งงานกัน
- ดูไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ค่อนข้างแตกต่างกัน เราหาจุดลงตัวที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไรบ้างคะ
พีชคิดว่าทุกคนต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง และเราควรจะรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ แต่เราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ใช้ร่วมกันได้ พีชคิดว่าอย่างนี้มันจะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข เป็นวงจรที่แข็งแรงกว่า คือถ้าเราต้องดึงเขามาอยู่กับเราตลอดหรือเขาดึงเราไปอยู่กับเขาตลอด ในสิ่งที่เขาหรือเราไม่ได้เป็นมันจะอึดอัด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำให้กันได้ คือสนับสนุนกันไปมา เท่าที่เราจะทำได้ พีชว่าแค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว
- รวมเวลาที่คุณพีชกับพี่ติ๊กคบกันและแต่งงานกันก็เกินสิบปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังหวานกันเหมือนเดิม มีเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่อย่างไรคะ
ความเข้าใจกันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดค่ะ เราต้องเข้าใจในตัวเขา และเข้าใจตัวเองด้วย ส่วนเรื่องความรู้สึกก็สำคัญเหมือนกัน พอเราอยู่ด้วยกันมานานเราจะรู้แล้วว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเกินขอบเขต เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเราก็จะไม่ทำ และพีชไม่ชอบการปะทะ ไม่ชอบความเครียด เลี่ยงได้ก็จะไม่ทะเลาะกับใครเลย อะไรยอมได้เราจะยอม และพีชก็คิดว่าพี่ติ๊กก็คงคิดเหมือนกัน เพราะเราถึงได้อยู่กันมาได้ เขาก็ยอม เราเลยไม่ค่อยทะเลาะกัน อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างเราก็จะคุยกันมากกว่า
- มีวิธีรับมือกับวัย Terrible Twos อย่างไรบ้างคะ
ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ได้จริงๆ พีชใช้วิธีพูดกับเขาค่ะ เน้นน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น เพราะพีชสังเกตดู คือถ้าสมมติเราเสียงเข้มกับเขา เขาก็จะรู้สึกว่าแม่กำลังโกรธ แม่ไม่พอใจแล้วนะ เขาก็จะเข้ามาหาเข้ามาอ้อน เขาอาจจะไม่ได้เข้าใจประโยคที่เราอธิบายทั้งหมด แต่เขาเข้าใจจากน้ำเสียง
- เริ่มวางแผนอนาคตให้น้องเต็นท์หรือยังคะ
ยังไม่ได้คิดไปไกลมากค่ะ เริ่มคิดเรื่องโรงเรียนก่อน ตอนนี้ก็ให้เขาไปเตรียมความพร้อมโรงเรียนใกล้ๆบ้าน ไปแค่ 3 ชั่วโมงไปเล่น ไปฝึกเจอเพื่อน เจอคนแปลกหน้า ส่วนโรงเรียนอนุบาลก็ค่อยๆดู ช่วงนี้เป็นช่วงหาข้อมูล เก็บข้อมูลค่ะ สิ่งที่พีชคำนึงมากที่สุดคืออยากให้เขามีความสุข ดังนั้นจะเลี้ยงอย่างไงก็ได้ขอให้ลูกมีความสุข โดยยังเป็นคนที่มีระเบียบวินัย และมีขอบเขตในการประพฤติตัวที่ไม่สุดโต่งจนเกินไปค่ะ
- มีเรื่องน่ารักของลูกชายที่คุณแม่ปลื้มสุดๆไหมคะ
เรานอนด้วยกันตลอด เขาก็จะกอดเรา พีชว่าการที่เราได้กอดกันทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเขาคงไม่กอดเราแล้ว
- แล้วโมเมนต์น่ารักๆของพ่อลูกที่คุณพีชประทับใจล่ะคะ
พี่ติ๊กเป็นคนที่อยู่กับเด็กแล้วน่ารัก เขาเป็นคนที่เล่นกับเด็กเก่งอยู่แล้ว แล้วเวลาที่เขาเล่นกับลูกเราจะแอบเห็นเขาทำเสียงเล็กเสียงน้อย หาอะไรมาเล่นกันเยอะมาก เวลาเล่นกันก็จะสนุกเต็มที่มอมแมมไปทั้งคู่เลย เหมือนเด็กโตกับเด็กเล็กเล่นกัน (หัวเราะ) นอกจากเรื่องเล่นแล้วก็จะมีเรื่องที่เขาดูแลลูก อาบน้ำให้ลูกทุกวัน แล้วพี่ติ๊กเขาทำคล่อง ทำคนเดียวได้ เพราะถ้าพีชอาบให้ลูกจะต้องมีคนช่วย เพราะถ้าหันหลังปุ๊บเต็นท์วิ่งไปแล้ว มันจะวุ่นวายมาก
- วางแผนมีน้องให้น้องเต็นท์อีกคนไหมคะ
อยากมีนะคะ ตอนนี้ก็พยายามดูแลสุขภาพตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะพีชกับพี่ติ๊กเราเห็นตรงกันว่าการมีพี่น้องมันสนุก เราทั้งคู่ต่างคนก็มีพี่น้อง สมมติในอนาคตที่เราไม่อยู่แล้ว เขาจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เขาจะได้มีคู่หูมีคู่คิดค่ะ (จากสัมภาษณ์นิตยสารอมรินทร์เบบี้แอนด์คิดส์ : คอลัมน์ Our Story ฉบับสิงหาคม 2559)
อ่านเรื่อง “วิธีเลี้ยงลูกให้ “ฉลาด” และ “ดี” ในแบบฉบับของ “พ่อติ๊ก&แม่โบว์” ” คลิกหน้า 2
แม่โบว์ – น้องมะลิ ครอบครัวสหวงษ์
เมื่อแฟนๆ ทุกคนรู้สึกเศร้าใจแลเจ็บปวดแทนแม่โบว์เท่าใด ยิ่งส่งผลให้เอ็นดูและสนับสนุนครอบครัวสหวงษ์มากขึ้น โดยครึ่งปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลยที่สื่อไม่พูดถึง “น้องมะลิ” เด็กหญิงพาขวัญ สหวงษ์ มีอีเว้นท์ออกงานแทบทุกวัน ออกหนังสือโฟโต้บุ๊ก และถ่ายปกนิตยสารเป็นสิบฉบับ และถ่ายโฆษณาสินค้าเด็กหลายผลิตภัณฑ์ ซึ่งทุกคนรักหนูน้อยมะลิขึ้นทุกวันๆ
ปอหวงลูกสาวมากหวงมาก ถึงขนาดอยากให้มะลิโตมาเป็นทอม อยากเลี้ยงลูกให้เป็นทอม แถมยังเคยซ้อมทำบทโหด ๆ ด้วย โดยการเอาดินสอเขียนคิ้วไปเติมหนวด เติมเครา แล้วก็เล่นบทพ่อสุดหวง ตอนนั้นตนกับมะลินั่งมองกันงงหนักมาก เพราะปอเล่นได้สมบทบาทสุด ๆ สุดท้ายแล้วก็มาคุยกันว่า ตอนมะลิโตให้มะลิเป็นคนเลือกเองดีกว่า (ที่มาจากเรื่อง โบว์ แวนด้า เผยเรื่องราว 70 วันที่ ปอ ทฤษฎี ป่วย กับการสูญเสียที่เปลี่ยนแปลงทั้งชีวิต โดย women.kapook.com)
ทำไม “น้องมะลิ” เต้นเก่งได้ขนาดนี้
พ่อปอจะเต้นให้มะลิดูทุกวัน เป็นคนสอนให้มะลิเต้น และทุกวันนี้มะลิจะดูจากคลิป เขาเป็นเด็กที่ฉลาดมาก สามารถจำท่าทางจากคลิปได้ และเวลาเต้นก็จะมีจังหวะ มีการสะบัด หยุด และเต้นตามท่าต่างๆ (ไม่รู้ว่าจำได้ยังไง) ปอเป็นคนเปิดให้เขาดู ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงแนวสามช่า
วางแผนอนาคตให้กับน้องมะลิไว้ว่าอย่างไรบ้าง
คงให้เรียนอนุบาล 1 – 3 ไว้ก่อน ตามที่คุณปอเคยบอกไว้ อยากจะให้เรียนที่กรุงเทพฯ พอหลังจาก 3 ปีไปแล้วค่อยมาดูด้านพัฒนาการกันอีกทีว่าพอจะจบอนุบาล 3 แล้ว น้องเขาชอบอะไร ชอบกีฬา ชอบกิจกรรมอะไรบ้างหรือเปล่า? แล้วค่อยมาดูกันอีกทีว่ามีโรงเรียนไหนที่จะรองรับความถนัดด้านนี้ได้ ส่วนเรื่องของวงการบันเทิงยังไม่รู้ เป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้าเขาชอบก็ไม่ห้าม พยายามเลือกสิ่งที่เขาชอบ เพราะคุณปอเคยบอกไว้ให้เขาเลือกชีวิตของเขาเอง (จากสัมภาษณ์นิตยสารอมรินทร์เบบี้แอนด์คิดส์ : คอลัมน์ Cover Kids ฉบับพฤษภาคม 2559)