คำถามที่ผมได้รับเสมอ หลากหลายรูปประโยคแต่ใจความเดียวกันคือ ..ครูนัทเลี้ยงลูกยังไงถึงได้เก่งขนาดนี้ ?..
ที่มาของคำถามนี้เห็นจะเป็นเพราะเจ้าอาย ลูกสาวผมเธอดูเป็นเด็กเรียนเก่งในสายตาใครๆ เกรดเฉลี่ยของทุกปีอยู่ประมาณ 3.88 โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษได้เกรด 4 ตลอดด้วยคะแนนระหว่าง 90-100 คะแนนทุกเทอม ตอนป.6 สอบ o-net ได้คะแนนภาษาอังกฤษเต็ม 100 คะแนน และเมื่อกลางปีนี้เธอก็สอบภาษาอังกฤษด้วยข้อสอบมาตรฐานการศึกษาอเมริกันในการสอบขอรับทุนไปเรียนที่อเมริกาฯหรือแคนาดา 1 ปี โดยที่คะแนนเต็ม 500 เธอทำได้เกือบสี่ร้อย มีสิทธิ์เลือกไปได้ทั้งอเมริกาและแคนาดาเพราะคะแนนเกินเกณฑ์ภาษาจีนที่เธอกำลังเรียนก็ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เรียกว่าเธอมีทักษะทางภาษาที่ดีมาก
อีกอย่างหนึ่ง เธอเป็นเด็กที่มีทักษะทางศิลปะในระดับดีไม่แพ้ภาษา ชอบและฝึกฝนการเขียนรูปทั้งบนกระดาษและในคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เล็ก เธอมาบอกผมตั้งแต่ประมาณป. 4 ว่า เธอจะเป็นนักทำอนิเมชั่น และจากนั้นเธอก็ยืนยันจุดหมายนี้ของเธอเรื่อยมา (ทักษะในด้านนี้ของเธอแอบถูกใจพ่อซึ่งเรียนสายศิลปะอย่างผมมากมาย)
คำถามเดิม ..ครูนัทเลี้ยงลูกยังไงถึงเก่งขนาดนี้ ?.. เชื่อไหมถ้าผมจะตอบว่า ..เลี้ยงให้เขามีความสุข..
ผมใช้วิธีนี้จริงๆ ไม่ได้จะตอบให้มันฟังเป็นสำนวนเลื่อนลอยชวนฝันหรือแค่ให้ภาษาสวยๆอะไรเลย
ผมใชัวิธีที่เดี๋ยวนี้เขาเรียกกันให้เกร่อว่า child center นั่นล่ะ ตั้งแต่เขาเล็กๆแล้ว ผมจะเฝ้าคอยเล่นกับเขา คอยดูว่าเขาชอบเล่นอะไรแล้วก็ส่งเสริมจนกว่าเขาจะเบื่อไปเล่นอย่างอื่นผมก็เล่นกับเขาไป แรกๆอาจจะดูเหมือนเด็กจับจด เล่นอะไรไม่ทนสักอย่าง แต่พอถึงจุดหนึ่ง จะมีพฤติกรรมหรือความชอบเฉพาะตัวบางอย่างปรากฏออกมาให้เห็น อย่างของลูกสาวผม พอถึงวันหนึ่ง ความชอบเรื่องภาษาเรื่องศิลปะของเขาก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น พอถึงตรงนั้นเราก็ค่อยๆสอนเขาเรื่องนั้นเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ ข้อสำคัญคือต้องให้เขาทำแล้วมีความสุข เจ้าอายเลยสนุกกับการวาด การฟังภาษาต่างประเทศในการ์ตูนมาเรื่อยๆ
ในส่วนของตัวลูกเองนั้น เขาก็ไม่เคยคิดว่าฉันจะต้องสอบได้เกรดสี่ ฉันจะต้องเก่งเลิศ แต่เขาเพียงสนุกกับการเรียน สนุกกับการใช้ภาษา สนุกกับการวาดรูป ทั้งภาษาต่างประเทศและศิลปะกลายเป็นงานอดิเรก เป็นการเล่นสนุกของเขา รวมทั้งพ่อแม่เองก็ไม่เคยคาดหวังหรือกดดันเขาว่าว่าเธอต้องทำให้ได้นะ เรื่องนี้ทำให้เขาไม่เบื่อหน่ายต่อการทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วไม่ว่าใครก็ตาม ลองได้ฝึกฝนและสนุกกับการทำสิ่งใด สิ่งนั้นก็ย่อมจะออกมาดี
บอกตรงๆจากใจเลยว่าการที่เขาเป็นเด็กที่มีความสามารถสูงนั้น แน่นอนว่าทำให้พ่ออย่างผมชื่นใจ แต่การที่เขาเป็นเด็กที่มีความสุขในการเรียนรู้ ในการทำสิ่งที่ชอบ นั่นต่างหากทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด
น้องเจ้าอาย เด็กหญิงสิรวี เสวิกุล
เรื่องและภาพ : ชนะ เสวิกุล