วันที่ได้พบ น้องอู๋-ด.ช.ปัณณวิชญ์ เฉลิมเลิศปัญญาเป็นครั้งแรกนั้น น้องอู๋ ในวัย 9 ขวบดูทะมัดทะแมงอยู่ในชุดนักกีฬาที่ใส่ตอนที่ไปแข่งขันกีฬาสแต็คชิงแชมป์โลกปี 2015 ไกลถึงที่ประเทศแคนาดา แถมได้แชมป์กลับมาเสียด้วย!
“ผมรู้จักกับสแต็คจากที่โรงเรียนตอนอยู่ประถม 1 เทอม 2 เห็นเพื่อนๆ พี่ๆ เล่นกันอยู่ใต้อาคารหลังเลิกเรียน ก็เลยไปลองเล่นบ้างแล้วรู้สึกติดใจครับ” น้องอู๋ยิ้มและเล่าให้ฟังว่ารู้จักกับกีฬา “สแต็ค” ได้อย่างไร กีฬาสแต็คเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความเร็ว การประสานงานกันระหว่าง มือ ตา และสมอง เพื่อสั่งการให้เราเรียงแก้วและเก็บแก้วตามรูปแบบที่กำหนดให้ได้เร็วที่สุดซึ่งมีวิธีการเรียง 3แบบได้แก่แบบ3-3-3แบบ3-6-3 และแบบCycle
คุณแม่นุชบอกกับเราว่า “คุณแม่จะไปรับน้องอู๋ช้าเป็นประจำ จึงให้เขาอยู่ทำกิจกรรมหลังเลิกเรียน เราจะเปลี่ยนกิจกรรมให้เขาทำทุกเทอมเพื่อให้เขาได้ลองสิ่งใหม่ๆ แต่ปรากฏว่าเขาไม่ทิ้งการเล่นสแต็ค”
“ความสนุกของสแต็คคือตอนที่เราเรียงแก้วแล้วไม่ล้ม และทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ” น้องอู๋บอกเหตุผลที่ทำให้เล่นสแต็คมาตลอดทั้งที่เล่นกีฬาอื่นไปด้วย สิ่งที่ท้าทายของกีฬาสแต็คคือ แม้จะเล่นง่าย แต่เด็กๆ จะอยากเล่นต่อไปไหมเมื่อมีความกดดันเรื่องเวลาในการแข่งขัน
ฝีมือการเล่นสแต็คของน้องอู๋พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนได้เป็นตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาสแต็คชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2557 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และได้รางวัลเหรียญทองกลับมา! การแข่งขันชิงแชมป์โลกในปีนี้น้องอู๋ก็กวาดเหรียญทองมาได้ถึง 5 เหรียญ ได้แชมป์ประเภทคู่อันดับ 2 ของโลกแถมยังเป็นนักกีฬาอายุน้อยที่สุดของทีมไทยด้วย เล็กพริกขี้หนูของแท้! เมื่อถามว่าเครียดไหมที่อายุน้อยที่สุด น้องอู๋ตอบตรงๆ ว่า “เครียดครับ”
“บางครั้งน้องอู๋จะบอกคุณแม่ว่า ใจเต้นจนเหมือนจะหลุดออกมาข้างนอกเลย เวลาแข่งเขาก็เครียด ขนาดคุณแม่บ้างครั้งยังไม่อยากดูเพราะลุ้นไปกับเขาด้วย” คุณแม่นุชเล่าถึงบรรยากาศตอนแข่ง แล้วทำอย่างไรจึงจะหายตื่นเต้นล่ะ น้องอู๋ตอบว่า “สูดหายใจเข้าลึกๆ ครับ”
น้องอู๋บอกกับเราว่า “กีฬาสแต็คนอกจากสนุกแล้วผมรู้สึกว่าทำให้สมาธิดีขึ้น เรียนได้ดีขึ้นด้วยครับ”คุณแม่นุชบอกอีกว่า “หลังจากเล่นสแต็คเป็นประจำ สังเกตได้ว่าน้องอู๋มีความจำดีขึ้น บางอย่างที่เคยสอนให้ พอมาทบทวนก่อนสอบก็ใช้เวลาไม่นานเท่าเดิม และมีสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น นั่งนิ่งได้นานขึ้น” ประโยคสุดท้ายของคุณแม่เจือเสียงหัวเราะ เพราะน้องอู๋เป็นเด็กชอบเคลื่อนไหว คุณแม่จึงส่งเสริมให้เล่นกีฬาตั้งแต่ยังเล็กเมื่อถามถึงแนวทางในการสนับสนุนลูกชาย คุณแม่นุชบอกว่า “คุณพ่อคุณแม่จะคอยแอบมองเวลาเขาทำกิจกรรม อยากให้เขาลองทำหลายๆ อย่าง ต้องให้เวลาเขา เมื่อรู้ว่าเขาสนใจอะไร ก็สนับสนุนเขาเต็มที่เท่าที่จะทำได้”
น้องอู๋พยักหน้าอย่างมั่นใจเมื่อถามว่าจะกวาดแชมป์โลกมาอีกไหมในการแข่งปีหน้า แล้วน้องอู๋คิดจะเล่นสแต็คไปจนถึงเมื่อไรกัน น้องอู๋ยิ้ม “คงจะเล่นไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากไปแข่งระดับโลกทุกปีเลยครับ”
“น้องอู๋” ด.ช.ปัณณวิชญ์ เฉลิมเลิศปัญญา วัย 9 ขวบ
สัมภาษณ์และเรียบเรียง พอแก้ว รักษ์เธียรมงคล ภาพ ครอบครัวเฉลิมเลิศปัญญา