AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เตือนภัยแม่! ระวัง แกงค์มิจฉาชีพ แฝงมากับโทรศัพท์

เครดิต: The Inquisitr และ iT24Hrs

เจอเบอร์แปลกให้ระวัง! แกงค์มิจฉาชีพ ข่มขู่จะฆ่าลูกสาวหากคุณแม่ไม่โอนเงินให้!!

 

 

เพราะสังคมสมัยนี้น่ากลัว คนมักหากินกันแปลก ๆ และง่ายขึ้นด้วยการอาศัยช่องทางต่าง ๆ นานา โดยที่ไม่สนใจเลยว่าจะไปทำให้ใครเดือดร้อนหรือไม่ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่จะมานำเสนอดังต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และแน่นอนค่ะว่าไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยในปัจจุบัน

โดยเรื่องราวที่ว่านี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งที่แกงค์มิจฉาชีพได้โทรเข้ามือถือลูกสาวก่อน และให้กดเลข หลังจากนั้นขอเบอร์โทรคนที่บ้านเพื่อจะได้ส่งของไปให้ เรื่องราวจะเป็นเช่นไร เราไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

“มิจฉาชีพมาแนวใหม่อีกแล้วครับ โทรเข้ามือถือลูกสาว บอกว่าจะส่งสินค้า แต่ไม่สามารถส่งให้ได้ ให้กด 9 เพื่อรับเลขพัสดุตกค้าง พอกด 9 มีเจ้าหน้าที่รับสาย สอบถามรายละเอียดข้อมูล พร้อมขอเบอร์โทรคนที่อยู่รับสินค้าที่บ้านจะได้ไปส่งให้ ให้เบอร์แม่ไป มิจฉาชีพโทรไปขู่ฆ่าแม่ที่บ้าน ถ้าไม่โอนเงินไปให้จะฆ่าลูกสาว แม่ก็วางสายไปคิดว่าเป็นมิจฉาชีพ แล้วรีบโทรหาลูกสาว แต่มิจฉาชีพรับสายบอกให้โอนเงินมา ถ้าไม่อย่างนั้นฆ่าลูกสาวทิ้งแน่ ๆ แล้วก็มีเสียงผู้หญิงกรีดร้องให้ช่วย มันบอกให้โอนเงินมา แต่ตัวแม่ไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับการโอนเงินหรือใช้ ATM เป็นเลย และบอกว่าไม่มีเงิน จะให้ฉันทำอย่างไร

สุดท้ายมิจฉาชีพบอกให้ไปซื้อบัตรเติมเงินมาเติมเงินที่โทรศัพท์ 1000 บาท ส่วนตัวลูกสาวพยายามโทรหาแม่เกือบ 20 สาย แต่ไม่ติด สรุปแล้วมิจฉาชีพ หลอกให้กด 9 เพื่อล็อคโทรศัพท์ไม่ให้โทรติดต่อใครได้อีก และมิจฉาชีพสามารถรับโทรศัพท์แทนได้ในขณะที่แม่โทรมาหาลูกสาว ทำให้แม่เชื่อว่าลูกสาวตกอยู่ในอันตราย จึงอยากจะเตือนภัยทุกท่าน สมัยนี้เขาหากินกันง่ายๆ แบบนี้นี่เอง บางคนอาจสูญเงินเป็นแสน เป็นล้าน เพื่อปกป้องญาติพี่น้องตัวเอง

อ่านเรื่องราวของแกงค์คอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้นจริงอีกเรื่องได้ที่หน้าถัดไปค่ะ


เครดิต: Pantip

 

เครดิต: Supachok Thongprasit

อีกกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้เกิดขึ้นกับผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Supachok Thongprasit โดยเจ้าตัวได้ระบุว่า มีสายแปลกโทรเข้ามา ปลายสายเป็นเสียงคอลเซ็นเตอร์ อ้างว่ามาจากไปรษณีย์ไทย ระบุว่า “คุณศุภโชค มีพัสดุตกข้างไม่ถึงมืออยู่กล่องหนึ่ง ต้องการทราบรายละเอียด กด 9” เมื่อกดแล้วได้โอนสายไปยังหญิงรายหนึ่ง ระบุว่า มีพัสดุที่เราเป็นคนส่ง ค้างอยู่ที่ไปรษณีย์ไทยหลักสี่ ส่งถึง นางวิไล จันทวงศ์ แต่ที่อยู่จังหวัดทางใต้ เพื่อความปลอดภัยในรายละเอียดและเป็นกฎให้แสดงตัวโดยบอกชื่อกับเลขที่บัตรประชาชน

เจ้าของโพสต์ได้ระบุว่า ตนไม่เคยส่งพัสดุดังกล่าว แต่ได้บอกชื่อและหมายเลขบัตรประชาชน จากนั้นปลายสาย อ้างว่า ในพัสดุนั้น เป็นบัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่ง และเงินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นการผิดพระราชบัญญัติไปรษณีย์ และปลายสายอ้างว่า จะโอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นปลายสายก็เป็นเสียงของชายรายหนึ่ง อ้างเป็นตำรวจยศร้อยตำรวจเอก ประจำอยู่ที่ตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งระหว่างนั้นได้ค้นหาชื่อในกูเกิลก็พบว่ามีชื่ออยู่จริง จึงคิดว่าเป็นเรื่องจริง

ปลายสายชายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ระบุว่า นางวิไล จันทวงศ์ ที่ไม่มารับเพราะถูกจับข้อหามีส่วนพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติด และในบัญชีจำนวนดังกล่าวที่อยู่ในพัสดุมีบัญชีนึงตรงกับชื่อของตน จึงอยากขอตรวจสอบทรัพย์สิน แม้เริ่มแปลกใจว่าจังหวัดที่ส่งไปรษณีย์ และตำรวจที่รับเรื่องมันคนละที่กันหมด แต่ก็ตอบไปว่าไม่อนุญาต ปลายสายจึงได้ทำการหว่านล้อมเล่าถึงวิธิการต่าง ๆ ในชั้นสืบสวน และท้าให้จดหมายเลขโทรศัพท์ โทรศัพท์ไปที่หมายเลข 1133 ถามหาหมายเลขโทรศัพท์ตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อตรวจสอบว่าเบอร์ที่ให้จดไปตรงกันหรือไม่ ซึ่งเป็นอุบายของมิจฉาชีพอย่างหนึ่ง ก่อนวางสายไป

อ่านต่อเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

 

 

อ่านเรื่องราว แกงค์มิจฉาชีพ ที่แอบอ้างว่าเป็น ไปรษณีย์ไทย กันต่อเลยค่ะ

เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ตรวจสอบไปที่หมายเลข 1133 แล้วพบว่าตรงกัน สายแปลกโทรเข้ามาอีกครั้ง ชายที่อ้างว่าเป็นนายตำรวจก็อ้างว่า การตรวจสอบนี้ต้องให้แบงก์ชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ระงับบัญชีทั่งหมดที่มี แล้วทำการตรวจสอบ ซึ่งจะกินเวลานานมาก ไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ ได้เลย แล้วแนะนำให้ผู้เสียหายถอนเงินแล้วใส่ตู้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ โดยอ้างว่าจะคุยกับแบงก์ชาติให้ตัดสัญญาณแล้วเปลี่ยนสัญญาณตู้นั้นเป็นระบบส่งเข้า เพื่อแยกทรัพย์สินเราไว้ตรวจสอบ

จากนั้น ปลายสายได้แนะนำให้ผู้เสียหายดังกล่าวทำธุรกรรม มีทั้งการโอนแบบถอนแล้วมาใส่ตู้โอน รวมถึงเสียบบัตรแล้วกดโอน รวมทั้งสิ้นกว่า 1 แสนบาท จากนั้นปลายสายยังอ้างว่า พูดถึงชั้นสอบสวน และเล่าถึงการโกง โดยการนำสลิปที่มีอยู่ไปใช้โกง จึงสั่งให้ฉีกสลิปเอทีเอ็มทั้งหมด ซึ่งผู้เสียหายก็ฉีกจนละเอียด แล้วทิ้งถังขยะ ปลายสายจึงพูดย้ำว่า จะทำการตรวจสอบบัญชีแล้วจะโทรกลับไป ระหว่างนี้ห้ามทำธุรกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น แล้ววางสายไป

เมื่อเจ้าของโพสต์ทราบความจริงว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง จึงไปที่ธนาคาร จากการคุยกับทั้งธนาคารที่โอน และธนาคารปลายทางได้ความว่า ไม่มีอำนาจยกเลิกธุรกรรมในลักษณะนี้ได้ เพราะไม่ใช่การโอนผิดบัญชี ซึ่งหากเป็นการโอนผิดบัญชีต้องมีบัญชีอ้างอิง และเลขบัญชีต้องผิดเพียง 1-2 ตัว ทางธนาคารจะช่วยติดต่อทางบัญชีที่ผิดเพื่อขอให้โอนเงินคืนให้ แต่นี้ไม่ใช่ ทำได้เพียงแจ้งความ และเมื่อแจ้งความกับตำรวจ ก็ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียหายหลายราย บางรายเสียหายไป 7-8 แสนบาท ระหว่างลงบันทึกประจำวัน ตำรวจก็ถามถึงเลขบัญชีปลายทาง ก็บอกฉีกแล้วทิ้งไป แล้วไปโกยกลับมาแล้วแต่ต่อกลับไม่ได้ และเมื่อตรวจสอบแอปพลิเคชันจึงพบว่า ไม่มีรายการโอน แต่เป็นรายการถอน จึงทำได้แค่บันทึกแจ้งความเท่านั้น

อ่านต่อเรื่องราวเพิ่มเติมและวิธีรับมือได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

 

เครดิต: ไปรษณีย์ไทย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น ทำให้ไปรษณีย์ไทยต้องออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยไม่มีนโยบายเรียกร้องให้โอนเงินค่าพัสดุผ่านทางโทรศัพท์ อย่างไรก็ดีวันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็ได้รวบรวมวิธีการรับมือแกงค์มิจฉาชีพดังกล่าว จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ

• ตั้งสติก่อนเสียสตางค์ แกงค์มิจฉาชีพส่วนมาก มักเล่นกับความโลภ หรือความกลัวของเหยื่อ เช่น คุณเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเงินสดจำนวน …จากการจับฉลากของเรา หรือ ทางตำรวจสืบพบว่าบัญชีของคุณเป็นบัญชีที่ผิดกฏหมาย ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้รับมีอาการดีใจ หรือตื่นตกใจ จนไม่ทันคิดถึงความเป็นไปได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการมีสติ ไม่ไหลไปกับสิ่งที่ปลายสายกำลังพูด ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใครก็ตาม

• ทำตัวเป็นนักสืบ(ชั่วคราว) ระหว่างที่คุยโทรศัพท์กับปลายสายที่เราไม่แน่ใจว่าเป็นมิจฉาชีพหรือเปล่า ให้ลองทำตัวเป็น ‘คนช่างสังเกต’ ดูว่า บุคคลปลายสาย มีลักษณะดังนี้ หรือไม่
O ไม่เปิดโอกาสให้เรามีสติพอที่จะคิดหรือเปล่า เช่น /คุณต้องรีบโอนเงินตอนนี้ ไม่งั้นจะเสียสิทธิ์ /คุณต้องเสียภาษีภายในเย็นวันนี้ ไม่งั้นถูกดำเนินคดี /ห้ามบอกคนอื่นเพราะเป็นความลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ
O มีคำพูดจูงใจน่าคล้อยตาม แต่มีข้อแม้ที่ชวนสับสน เช่น คุณได้รับรางวัลมูลค่า 1 แสนบาท แต่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายภายในตอนนี้ ส่วนของรางวัลจะตามมาทีหลัง
O เมื่อใดที่เราเริ่มตั้งข้อสงสัยหรือถามข้อมูลกลับมาก ๆ ปลายสายจะเริ่มบอกปัด หรือรีบวางสาย และจะไม่มีการ ทิ้งเบอร์ติดต่อกลับอย่างเด็ดขาด

• ติดต่อไปยังแหล่งที่มาที่เป็นเบอร์จริง! กลุ่มมิจฉาชีพทางโทรศัพท์ส่วนมาก มักอ้างบริษัท ห้างร้าน ธนาคาร สถาบัน ที่เป็นที่รู้จักและ น่าเชื่อถือ หรืออ้างชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคม ดังนั้นหากไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังโดนหลอกหรือไม่ ให้ลองติดต่อสอบถามไปยังแหล่งที่ปลายสายอ้างถึง โดยอาจเสิร์ชดูหมายเลขโทรศัพท์ในอินเตอร์เนต หรือสอบถามจาก1113 ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 0-2283-5353 กระทรวงพาณิชย์ 02-507-8000 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 022514730 หรือ 191

อย่างไรก็ดี หากคุณแม่รู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อละก็ ให้รีบวางสายและจบบทสนทนาโดยทันทีค่ะ จะได้ไม่ต้องถูกแกงค์ดังกล่าวหว่านล้อมและข่มขู่ได้อีก ทั้งนี้ อย่าลืมเตือนคนใกล้ตัวและลูกหลานให้ระวังกันด้วยนะคะ

เครดิต: ผู้จัดการออนไลน์ และ Sanook

อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids