ความเชื่อของคนไทย แม่ท้องให้นมลูกเสี่ยงแท้ง!? - Amarin Baby & Kids
ความเชื่อของคนไทย

ความเชื่อของคนไทย แม่ท้องให้นมลูกเสี่ยงแท้ง!?

event
ความเชื่อของคนไทย
ความเชื่อของคนไทย

วิธีช่วยคุณแม่ตั้งครรภ์หย่านมโดยราบรื่น

  1. ค่อยๆ ลดจำนวนมื้อ ไม่หยุดนมแบบทันทีทันใด ในกรณีที่ลูกยังดูดนมวันละหลายครั้ง เพราะจะทำให้เต้านมคัดจนอักเสบเป็นฝี ค่อยๆ ลด 1 มื้อ ทุก 2-3 วัน จะทำให้เต้านมปรับตัวลดปริมาณการสร้างน้ำนม
  2. ประคบเย็นบ่อยๆ หรือ ใช้กะหล่ำปลีแกะเป็นใบล้างสะอาด แช่ฟรีซแล้วเอามาใส่ไว้ในเสื้อชั้นใน เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดคัดตึงเต้าได้ดี อาจกินยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาปวดได้
  3. ไม่แนะนํา ให้กินยาลดน้ำนมเพราะคุณแม่กำลังตั้งครรภ์อยู่ หากมีอาการปวดมากอาจบีบน้ำนมออกเล็กน้อย พอให้หายปวดหากบีบออกมาก จะเป็นการกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นได้
  4. ให้ลูกกินนมจากขวด ถ้วย หรือดูดหลอด แล้วแต่อายุของลูก โดยผู้อื่นเป็นคนให้จะง่ายกว่าแม่เป็นคนให้ และควรให้ตอนลูกเคลิ้มๆ หรือหิว
  5. อดทนเพราะลูกร้องไห้มากขึ้นแน่นอน แต่หากอดทนได้นาน 1-2 สัปดาห์ ลูกจะปรับตัวได้ และลืมไปด้วยซ้ำว่าการดูดนมแม่ทำอย่างไร หลายคนกลัวว่าลูกจะฝังใจ กับความทุกข์จากการไม่ได้ดูดจนส่งผลต่อพัฒนาการตอนโต อันนี้เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ไม่นานลูกก็ลืมแล้ว เหมือนกับการฝึกให้ลูกเลิกใช้ขวดนมเลิกกินนมกลางคืนเช่นกัน เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องฝืนเพราะลูกต้องมีพัฒนาการเพื่อก้าวต่อไป
  6. ให้ความใส่ใจดูแลลูกมากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณยังรักเขาอยู่เสมอและพยายามหากิจกรรมให้ลูกทำเพลินๆ ถ้าเป็นกิจกรรมนอกบ้านจะช่วยให้ลืมนมแม่ได้ดียิ่งขึ้น
  7. ไม่แนะนำให้ใช้ยาขม บอระเพ็ด ยาหม่อง หรือพริกมาทาที่หัวนม เพราะเป็นการลาจากเต้าที่สวยงาม และถ้าภายหลังคุณแม่อยากให้เขากลับมาดูดเต้าอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมดูด พอคุณแม่คลอดลูกแล้วอาจให้ลูกคนโตกลับมากินนมแม่ได้อีก โดยการดูดโดยตรงหรือปั๊มให้กินก็ได้ค่ะ
ความเชื่อของคนไทย
คุณแม่คลอดลูกแล้วอาจให้ลูกคนโตกลับมากินนมแม่ได้อีก โดยการดูดโดยตรงหรือปั๊มนม

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อสงสัยเรื่อง ถ้าตั้งครรภ์ให้นมลูกแล้วจะแท้งได้หรือไม่? สิ่งที่คุณแม่ควรทำอันดับแรกคือ อย่าเพิ่งเชื่อทุกสิ่งที่ได้ยินมา การรับข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลครรภ์ควรใช้วิจารณญาณ และยังไม่ปักใจเชื่อในทันที คุณแม่ควรหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหลายๆ แห่งมาเปรียบเทียบเพื่อความแน่ใจ และหากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาหรือสอบถามจากแพทย์จะเป็นการดีที่สุดนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจาก Amarin Baby & Kids

บทความจากกองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids

อ่านต่อบทความดีๆ น่าสนใจ คลิก!!

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up