จริงหรือนี่!! แค่มีสองอย่างนี้ ก็สามารถแก้ไขอาการ ผมร่วง ได้แล้ว!?
สำหรับคุณแม่ท่านไหน ที่กำลังประสบกับปัญหาผมร่วงละก็ วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้รวบรวมเอาข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ เริ่มต้นจาก การทำความเข้าใจกับเส้นผมของคนเรากันก่อนเลยดีกว่านะคะ
ธรรมชาติของเส้นผมคนเราเป็นอย่างไร?
- โดยปกติแล้วคนเรามีเส้นผมประมาณ 90,000-140,000 เส้น ซึ่งผู้หญิงจะมีมากกว่าผู้ชาย คนที่มีสีผมอ่อนจะมีปริมาณเส้นผมมากกว่าคนสีผมเข้ม
- ผมของผู้หญิงจะยาวเร็วกว่าผู้ชาย ผมของเด็กจะยาวเร็วกว่าผู้ใหญ่
- รากผม 1 รากมีผมได้ 2-4 เส้น คนผมหนาอาจมีผมขึ้นมากถึง 4 เส้นสำหรับรากผม 1 รากจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแต่ละคนมีผมหนาบางไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ยคนเรามีรากผมประมาณ 85,000-130,000 รากผม
- ร้อยละ 90 ของเส้นผมจะงอกและเจริญเติบโตเป็นปกติ ส่วนร้อยละสิบที่เหลือนั้น ไม่มีการเจริญเติบโต และร่วงไปหลุดไป
- วงจรชีวิตของผมมีอายุประมาณ 2-6 ปี
- ผมของคนเราจะมีการหลุดล่วงและผลัดใบ โดยปกติผมจะร่วงประมาณ 50-100 เส้นต่อวัน แต่หากผู้ชายผมร่วงมากกว่า 60 เส้นต่อวัน และผู้หญิงร่วงมากกว่า 100 เส้น ถือว่ามีปัญหาผมร่วง แต่ถ้าน้อยกว่านี้ถือว่าเป็นปกติตามวงจรชีวิตเส้นผม
- หลังการหลุดล่วง ผมจะขึ้นใหม่ภายใน 6 เดือน โดยจะเริ่มสังเกตุเห็นเส้นผมไหม่ช่วง 3 เดือนขึ้นไป เพราะก่อน 3 เดือนผมขึ้นใหม่ยังสั้น ยังมองเห็นไม่ชัดเจน
อาการผมหลุดล่วงนั้น แบ่งเป็นกี่ประเภท >>
ประเภทของ “ผมร่วง”
1 ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ คือการร่วงเป็นบริเวณเล็ก ๆ ประมาณ 1/4 ของวงกลม ส่วนใดส่วนหนึ่งบนศีรษะ โดยเป็นอาการผมร่วงที่พบบ่อยกว่าการล่วงทั้งหัว ซึ่งโดยปกติแล้วผมจะงอกใหม่มาทดแทนภายใน 3-6 เดือนถึงแม้จะไม่มีการรักษาใด ๆ ซึ่งลักษณะดังนี้มักพบกับคนที่ชอบรวบผมแน่นเกินไป มัดผมและเปียผมตลอด..รวมไปถึงคนที่ชอบสระผมตอนกลางคืนแล้วนอนโดยที่ผมและหนังศีรษะยังไม่แห้ง จนทำให้หนังศีรษะเป็นเชื้อรา คนที่ชอบทำสี ดัด ย้อม โกรกผม สารเคมีจึงเป็นสาเหตุทำให้ร่วง เป็นต้น
2 ผมร่วงทั้งหัว ทั่วศีรษะ โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรม ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่เป็นปกติจากโรคต่างๆ ที่เกิดจากความบกพร่องของระดับฮอร์โมน เช่น เบาหวาน ไทรอยด์ ซีสต์ในรังไข่ และเกิดจากภาวะความเครียด ภาวะหลังคลอดบุตร หรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ หาหมอเฉพาะทางเฉพาะโรค เพื่อหาทางแก้ที่สาเหตุของโรคก่อนที่จะแก้ที่ปลายเหตุ
4 พฤติกรรมหยุดผมหลุดล่วง
- หยุดทำร้ายเส้นผมทุกวิธี แม้แต่การเข้าร้าน สระไดร์ผมบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่มีสารเคมีแรง ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณธ์ที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น แชมพูมะกรูด แชมพูดอกอัญชัญ เป็นต้น งดการย้อม ดัด กัดสีผม ทำสีผม รวมถึงการรวบผม การถักเปียผม การดึงรั้ง ดึงเส้นผมบ่อย ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมหลุดล่วงง่าย
- เล็มผม ตัดผมให้สั้นเพื่อดูแลรักษาง่ายขึ้น เพราะเส้นผมที่ยาวย่อมต้องการสารอาหารมาบำรุงมากกว่าผมสั้น ดังนั้นเมื่อเรามีสารอาหารไม่เพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงผมทุกเส้น ผมที่ขาดการบำรุง สารอาหารหล่อเลี้ยงไม่ถึงก็ต้องขาดสารอาหาร รากอ่อนแอ และหลุดล่วงไปในที่สุด ไม่ต่างจากต้นไม้ที่เมื่อขาดน้ำ ขาดสารอาหารสำคัญ ใบจะแห้งเหี่ยวและหลุดล่วง เหลือไว้แต่ลำต้น ผมของคนเราก็เช่นกัน
- บำรุงรากผม และรักษาหนังศีรษะให้สะอาด ให้ไม่มันหรือแห้งจนเกินไป สำหรับคนหนังศีรษะมันให้สระทุกวัน ส่วนคนหนังศีรษะแห้งอาจสระวันเว้นวัน แต่ไม่ควรปล่อย 3-4 วันสระครั้ง เพราะโอกาสที่หนังศีรษะจะมัน สกปรก หมักหมม เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าการสระทุกวันหรือสระวันเว้นวัน และที่สำคัญคือไม่สระผมในเวลากลางคืน เพราะเสี่ยงต่อหนังศีรษะชื้น เกิดเชื้อรา
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร โดยงดทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมาทางหนังศีรษะมากขึ้น ควรเปลี่ยนมาทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรงมากขึ้น เช่น ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ ปลาแซลมอน เม็ดอัลมอนด์ พืชผักสีเขียว เป็นต้น
ขิง ช่วยได้จริงหรือ? อ่านต่อคลิก >>
ขิง อีกหนึ่งสมุนไพรไทยที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก โปรตีน กากใยอาหาร ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ทำให้มีออกซิเจนไหลเวียนไปเลี้ยงรากผมได้ดี ป้องกันผมหลุดร่วงง่ายและยังช่วยทำให้เส้นผมเงางามและมีน้ำหนักด้วย
3 สูตรหมักผม แก้ผมร่วงด้วยขิง
1. แก้ผมร่วงด้วยขิงทุบ โดยให้นำขิงแก่ประมาณ 1 แง่ง มาทุบพอแตกแล้วใส่ในไมโครเวฟ อุ่นจนร้อนพอให้น้ำมันในขิงออกมา แล้วใช้ทาหนังศีรษะให้ทั่วหมักทิ้งไว้ก่อนสระผม 30 นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือถ้าไม่ขี้เกียจก็ทำก่อนสระผมทุกครั้งก็ได้
2. แก้ผมร่วงด้วยขิงอังไฟ โดยใช้ขิงแก่ประมาณ 1 แง่ง มาอังไฟแค่พอให้ขิงร้อนก็ใช้ได้ แล้วนำไปบดให้ละเอียด ทาบนหนังศีรษะเบาๆ จนทั่ว ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที หรือถ้ามีเวลามากอาจหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงค่อยสระผมให้สะอาด
3. แก้ผมร่วงด้วยขิงตำ โดยนำขิงแก่ประมาณ 1 แง่ง มาตำจนเนื้อขิงละเอียด ห่อด้วยผ้าขาวบางทำเป็นลูกประคบ จากนั้นใส่น้ำเปล่าประมาณครึ่งหม้อและขึงผ้าข้าวบางอีกผืนไว้บริเวณปากหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอน้ำเดือดก็วางลูกประคบขิงไว้เพื่อให้เกิดความร้อน ทั้งนี้อย่าให้ร้อนมากเกินไปนะคะ เพราะจะส่งผลให้ผิวหนังแดงและแสบได้ แล้วใช้ประคบบริเวณโคนผมให้ทั่ว หากลูกประคบขิงเริ่มเย็นให้นำไปวางบนปากหม้อรมไอน้ำพอร้อนอีกครั้ง แล้วค่อยนำมาประคบโคนผมต่อเรื่อย ๆ วิธีนี้ทำวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที นานประมาณ 5 วัน อาการผมร่วงจะค่อย ๆ ดีขึ้น
อ่านต่อ เกลือสยบผมร่วงได้จริงหรือไม่ >>
สำหรับการใช้เกลือเพื่อช่วยรักษาอาการผมร่วงนั้น สามารถช่วยได้จริงค่ะ เพราะเกลือมีคุณสมบัติเพิ่มความสมดุลให้แก่หนังศีรษะได้ และจะชดเชยความชุ่มชื้นบนหนังศีรษะซึ่งอาจสูญเสียไปตามธรรมชาติ โดยการกระตุ้นรูขุมขนให้หดเล็กลง ซึ่งจะป้องกันเส้นผมไม่ให้แห้งแตกปลายจนหลุดร่วงง่าย นอกจากนี้ เกลือไม่ได้มีผลดีแค่ลดอาการผมร่วงเท่านั้น หากใครมีปัญหาของรังแครังควานหนังศีรษะที่มีสาเหตุจากเชื้อรา เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อราทำให้รังแคหมดไปได้ เช่นกัน
วิธีใช้เกลือรักษาผมร่วง แบบง่ายๆ ได้ผล
วิธีการง่าย ๆ ก็คือ ให้นำเกลือประมาณ 100-150 กรัม มาผสมกับน้ำอุ่น กะปริมาณ 1 ลิตร จนละลายเข้ากันดี แล้วใช้น้ำเกลือราดพอทั่วหนังศีรษะ จากนั้นเริ่มนวดหนังศีรษะอย่างเบามือนาน 2-3 นาที หมักผมโดยการโพกผ้าขนหนูทิ้งไว้ 2-3 นาที ก็สระผมด้วยแชมพู 1 ครั้ง แต่เวลาล้างออกให้ใช้น้ำเกลือล้าง 1 ครั้ง และจบลงที่การใช้น้ำเปล่าล้างหนังศีรษะและเส้นผมอีกครั้งให้สะอาดก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการทำ
ควรทำตามวิธีการนี้ให้ได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 1 เดือนะคะ แล้วคุณแม่จะสังเกตเห็นว่าผมจากที่เคยหลุดร่วงเป็นกอบเป็นกำก็น้อยลงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เส้นผมจะกลับมาดกดำดังเดิม ที่สำคัญน้ำเกลือนั้นมีความเป็นกรด-ด่างที่ใกล้เคียงกับหนังศีรษะของคนเรา จึงเหมาะกับคนมีปัญหาผิวแพ้ง่ายด้วย ข้อควรระวังอย่าทำทุกวันหรือบ่อยเกินไปเพราะอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
คุณแม่ ๆ ลองทำกันดูนะคะ รับรองได้เห็นถึงความแตกต่างที่ดีขึ้นจริง ๆ เลยละค่ะ
เครดิต: สุขภาพดี
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่