แพทย์เตือน! เป็นสิวบริเวณนี้ ห้ามบีบ!! โดยเด็ดขาด พร้อม 5 วิธีรักษาสิว ในแบบออร์แกนิค ปลอดภัยและทำง่ายได้ที่นี่
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านเคยโดนผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนรอบข้างเตือนเกี่ยวกับเรื่องของการบีบสิวกันหรือไม่คะว่า บริเวณนี้เขาห้ามบีบ หรืออย่าบีบเลยเดี๋ยวหน้าเป็นหลุม?
ขึ้นชื่อว่า “สิว” ไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะให้มันมาอยู่บนใบหน้าของเรา เพราะหากมันมาอยู่บนใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาของเราก็จะเหมือนกับอุกกาบาตที่มีตุ่มขึ้นอยู่เต็มไปหมด อีกทั้งดีไม่ดีเมื่อมันหายไปแล้วมันอาจจะทิ้งรอยแดงรอยดำทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย
สิวเกิดขึ้นได้อย่างไร?
สิวสามารถเกิดขึ้นมาได้ด้วยหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด ความสกปรก หรือฮอร์โมนที่อยู่ในตัวของเรา ซึ่งรูปแบบการขึ้นของมันส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ทั่วทั้งใบหน้า และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นตรงไหน แต่รู้หรือไม่ว่าใบหน้าของเรามีสามเหลี่ยมสุดอันตรายซ่อนอยู่ ซึ่งหากเกิดสิวขึ้นบริเวณนั้นแล้วห้ามบีบมันออกมาอย่างเด็ดขาด!!
จุดไหนบ้างที่ห้ามบีบโดยเด็ดขาด! >>
เมื่อไม่นานมานี้ Dr. Jeremy Brauer ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโรคผิวหนังแห่ง NYU Langone Medical Center ได้ออกมาเปิดเผยว่าบนใบหน้าของเราจะมีสามเหลี่ยมสุดอันตรายซ่อนอยู่ ซึ่งสามเหลี่ยมที่ว่านี้อยู่บริเวณระหว่างมุมปากทั้งสองข้างของเราไปจนถึงบริเวณจมูก ซึ่งหากเกิดสิวขึ้นบริเวณนี้เราควรจะหลีกเลี่ยงการบีบสิวโดยเด็ดขาด
สาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าควรหลีกเลี่ยงบริเวณนี้ก็เพราะว่า โดยปกติการบีบสิวจะทำให้ผิวหน้าของเราอักเสบและอาจเกิดบาดแผลที่เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าไปได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้จุดดังกล่าวมีความอันตรายมากกว่าปกติก็เพราะว่า มันเป็นจุดที่บอบบางและยังมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังมีเส้นเลือดดำหล่อเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก การบีบสิวในบริเวณนี้จึงอาจส่งผลต่อแอ่งหลอดเลือดดำในสมองที่เรียกว่า Cavernous sinus ที่อยู่ในสมองทั้งสองข้างของเราได้ ซึ่งจะแตกต่างกับจุดอื่นบนใบหน้าของเราอย่างที่แก้ม คางหรือหน้าผาก ที่ผลลัพธ์ร้ายแรงที่สุดของการบีบสิวก็เพียงรอยแผลเป็นเท่านั้น
“ถ้าหากมีการติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรงในบริเวณนี้ และไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีมันอาจจะส่งผลต่อสมอง ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรงขึ้นมาได้” Dr. Jeramy กล่าว
สำหรับการติดเชื้อจากการบีบสิวที่บริเวณสุดอันตรายนี้ สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ และหากคุณสงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อ อย่านิ่งนอนใจไปเพราะอาจส่งผลในภายหลังได้
โดยสัญญาณบ่งบอกว่าเราอาจจะติดเชื้อก็มีหลายอย่างทั้งรอยแดง การบวม มีเลือดออกรวมทั้งการมีหนองด้วย และหากคุณมีอาการต่อไปนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเข้าไปปรึกษากับทางแพทย์ผิวหนังจะเป็นการดีที่สุด
อ่านต่อ >> วิธีการรักษาสิว แบบออร์แกนิค
เครดิต: Catdumb และ RD
5 วิธีรักษาสิว แบบออร์แกนิค
1. สูตรขมิ้น ขมิ้นนั้นถือเป็นสมุนไพรรักษาสิวอย่างที่สองที่ยอดนิยมที่มีการนำมาใช้กันมากที่สุด จากปกติที่เคยเห็นว่าขมิ้นนั้นช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง นวลเนียนเมื่อนำมาพอกที่ผิวกาย หรือผิวหน้า แต่รู้หรือไม่ว่าขมิ้นนั้นก็ยังสามารถช่วยให้สิวยุบหายไปได้ด้วย โดยสำหรับสูตรนี้แนะนำให้ใช้ขมิ้นสดเล็กน้อย ดินสอพอง และมะนาว 1 ลูก เริ่มหั่นขมิ้นสดออกเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นก็นำไปปั่นรวมกับดินสอพอง และน้ำมะนาวจนเข้าไปที่ได้เป็นเนื้อครีมเหนียว ๆ หนืด ๆ เมื่อเสร็จแล้วก็นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออก สิวและจุดด่างดำก็จะค่อย ๆ ยุบและเลือนหายไป อีกทั้งยังเป็นการบำรุงผิวของเราไปด้วย ส่วนใครที่ต้องการเพียงแค่แต้มไว้ยังจุดที่เป็นสิวก็สามารถทำได้ แต้มแล้วทิ้งไว้ทั้งคืนค่อยล้างออก ทำเป็นประจำ 3 – 4 สัปดาห์ ใบหน้าของเรา ก็จะกลับมาสวยใสได้อีกครั้งหนึ่งแล้วละค่ะ
2. ทานาคา เป็นสมุนไพรรักษาสิวอีกหนึ่งตัวที่อยากบอกว่าดีงามมาก ทานาคานั้นเป็นผงที่ได้จากเปลือกไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากพม่า ซึ่งสาว ๆ พม่านั้นนิยมเอามาทาหน้าเพื่อเป็นการบำรุงผิว ป้องกันแสงแดด และป้องกันการเกิดสิวได้อย่างดีอีกด้วย มีสรรพคุณที่ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ผดผื่นคัน ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดความมันบนใบหน้าที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว สำหรับสูตรนี้ก็ทำได้ไม่ยาก เพียงเตรียม ผงทานาคา น้ำผึ้ง และน้ำสะอาด ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า อาจจะเน้นไปที่บริเวณที่เป็นสิวเยอะหน่อย ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 แล้วล้างออก นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องทำให้คุณแม่ตกใจแน่นอนค่ะ
3. น้ำมะนาว ในน้ำมะนาวนั้นจะมี วิตามินซี เป็นส่วนประกอบ มีสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องการสมานแผล ทำให้สิวเป็นอยู่แห้งลงและจางไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันการใช้น้ำมะนาวรักษาด้วยวิธีธรรมชาติก็มีอยู่หลายสูตร แต่จะขอแนะนำสูตรที่เป็นการใช้น้ำมะนาวล้วนกันนะคะ เริ่มต้นเลย แนะนำให้ใช้มะนาวสด (เท่านั้น) งดน้ำมะนาวขวด เพราะมีเบอร์เซนต์ของการเป็นมะนาวปลอมอยู่สูงมาก จากนั้นก็ให้บีบน้ำมะนาวสดใส่ถ้วยเล็ก ๆ ที่เตรียมไว้ นำมาทายังจุดที่เป็นสิว ทิ้งไว้ราว ๆ 1 ชั่วโมง แต่บอกไว้ก่อนว่าถ้าเป็นสิวแผลเปิดก็อาจจะแสบอยู่หน่อย แต่เพื่อความสวยต้องอดทนนิดนึงนะคะ ทำเช่นนี้เป็นประจำต่อเนื่อง 1 – 2 สัปดาห์ ก็จะเห็นว่าสิวที่เป็นจะค่อย ๆ จางลงจนเห็นได้ชัดเลยละค่ะ
4. ไข่ขาว วิธีรักษาสิวด้วยไข่ขาวนี้ ถือเป็นอีกวิธีการรักษาสิวแบบธรรมชาติที่เห็นผลได้อย่างดีมาก เริ่มแรกด้วยการล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นให้เตรียมไข่ขาว ตอกไข่ และแยกเอาไข่แดงออก เสร็จแล้วให้ทาไข่ขาวลงบนใบหน้าบาง ๆ แล้วปล่อยให้ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำแบบนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะเห็นความแตกต่างว่าผิวเลยละค่ะว่ากระชับมากขึ้นจริง ๆ
5. เบคกิ้งโซดา เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่สามารถนำมารักษาอาการสิบอักเสบได้เป็นอย่างดี รู้จักกันดีในชื่อของ ผงฟู หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ โซเดียมไบคาร์บอเนต ที่มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับ pH ของผิว และช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้ผิวหน้าของเราได้ อาจลองนำมาทำเป็นครีมพอกผิว ที่กำลังเจอปัญหาสิวอักเสบ และกำลังลุกลามไปทั่วทั้งใบหน้า ให้เตรียมส่วนผสมเป็น เบคกิ้งโซดา น้ำตาล น้ำร้อน น้ำมันงา และผ้าก็อซ เริ่มต้นให้เราต้มนำให้เดือด จากนั้นให้ใส่น้ำตาล และเบคกิ้งโซดาลงไปอย่างละ 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน รอให้น้ำอุ่นลง เมื่ออุ่นได้ที่แล้วให้นำผ้าก็อซลงชุดแล้วบิดให้หมาดๆ นำไปปิดไว้ตรงบริเวณที่สิวอักเสบ หรือบริเวณหัวสิว ทิ้งไว้สักพัก ปิดท้ายด้วยการทำความสะอาดผิวด้วยน้ำอุ่น แล้วทาน้ำมันงาให้บริเวณผิวหน้าที่เป็นสิว ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงทำความสะอาดผิวอีกครั้งหนึ่ง ทำเช่นนี้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะสังเกตได้ว่าผิวหน้าของเราก็จะกลับมาเนียนใส เปล่งปลั่ง ดูดีได้อีกครั้งเลยละค่ะ
อย่างไรลองทำกันดูนะคะ เพราะงานนี้บอกเลย ปลอดภัยไร้กังวล แถมราคาไม่แพงด้วยค่ะ
เครดิต: Kapook
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- น้ำซาวข้าว ประโยชน์มากมาย ที่มีมากกว่าแค่ความสวยงาม
- ลดพุงหลังคลอด ง่ายๆ ด้วย 9 สูตรน้ำผักผลไม้ ทั้งไทยและญี่ปุ่น
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่