AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ดูแลแผลผ่าคลอด 11 วิธี สำหรับคุณแม่มือใหม่

วิธีการ ดูแลแผลผ่าคลอด ของคุณแม่มือใหม่

 

คุณแม่หลายคนใช้วิธีในการคลอดลูกด้วยการผ่าคลอด หลังจากที่คุณแม่คลอดลูกด้วยการใช้วิธีผ่าตัดแล้ว อาจจะเกิดแผลจากการผ่าคลอด มีความรู้สึกเจ็บๆ คันๆ บริเวณที่ผ่าตัด และอยากจะรู้วิธีการรักษาให้หายโดยเร็ว เรามาดูวิธี ดูแลแผลผ่าคลอด กันค่ะ

วิธีดูแลแผลผ่าคลอด

นพ.ธรรมนูญ พนมธรรม ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลราชวิถี ให้ข้อมูลในงานเสวนาเรื่อง รู้จริงเรื่อง…แผล เป็นว่า การเกิดรอยแผลเป็นนั้นมีหลายปัจจัย อย่างแรก คือ เรื่องอายุ ในคนที่อายุน้อยๆ จะมีโอกาสการสร้างพังผืดเยอะกว่า ในคนที่มีอายุมากหรือสูงอายุ ลักษณะของผิวหนังก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง คือ ในคนที่มีผิวสี เช่น คนเอเชีย หรือคนแอฟริกา มีโอกาสการเกิดเป็นแผลเป็นนูนมากกว่าคนที่มีผิวขาว ตำแหน่งการเป็นของแผล ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ถ้าตำแหน่งที่เกิดในบริเวณหน้าอกทั้งด้านหน้าด้านหลัง ไหล่ หู หรือในส่วนบริเวณผิวหนังที่มีการเคลื่อนไหวได้บ่อยๆ ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดแผลเป็นที่มีปัญหา และดูไม่ดีได้

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ปัญหาของแผลผ่าตัด ที่พบบ่อย

  1. แผลเป็นเกิดนูนแดงนั้น กลายเป็น แผลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่า คีลอยด์
  2. หลังจาก 1 ปีหรือ 1 ปีครี่งไปแล้ว แผลนั้นยังแดงอยู่ แดงอยู่นาน และรอยแดงไม่ลดลง
  3. มีอาการเจ็บหรือคัน
  4. เป็นแผลที่เกิดตรงบริเวณข้อต่อ ทำให้ขยับข้อต่อได้ไม่เต็มที่ หรือนิ้วงอ หรือมีการผิดรูปเกิดขึ้น
  5. แผลที่ไม่มีปัญหา เพียงแต่ดูไม่ดี แต่เป็นสิ่งต้องการและความคาดหวังในการรักษาของคนไข้


อ่านต่อ “วิธีการดูแลแผลผ่าคลอดของคุณแม่มือใหม่” คลิกหน้า 2

วิธีการดูแลแผลผ่าคลอด

วิธีการ ดูแลแผลผ่าคลอด ของคุณแม่มือใหม่

Amarin Baby and Kids มีวิธีการดูแลแผลผ่าคลอด ของคุณแม่มือใหม่แบบง่ายๆ มาแนะนำกันค่ะ

  1. หลังจากผ่าคลอดได้ 1 วัน คุณหมอจะให้คุณแม่ลุกขยับตัวเดิน แม้จะเจ็บมากก็ต้องฝืน เพราะถ้าคุณแม่ไม่ยอมเคลื่อนไหว จะทำให้เกิดพังผืดขึ้น ซึ่งจะไปเกาะอวัยวะภายในช่องคลอด ทำให้เสี่ยงท่อนำไข่อุดตัน หรือการผ่าตัดครั้งต่อไปทำได้ยาก หรือท้องผูกเรื้อรังได้

2. ใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด เพื่อช่วยพยุงกล้ามเนื้อส่วนหลังเวลาเดิน ช่วยลดเจ็บได้อีกด้วย

3. ช่วงแรก คุณหมอจะปิดแผลผ่าตัดหลังคลอด ด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ คุณแม่ไม่ต้องล้างแผล หรือล้างแผลตามวิธีแนะนำของคุณหมอ หรือไม่เปิดแผลบ่อยๆ อาบน้ำได้ตามปกติแต่ก็ควรระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ

4. ทานอาหารจำพวกโปรตีนแต่พอดี ไม่เยอะเกินไป ช่วยให้แผลผ่าคลอดประสานได้ไวขึ้น

5. ช่วงสามเดือนแรกต้องไม่ยกของหนัก ขยับตัวได้เท่าที่ไม่รู้สึกเจ็บ ถ้าเจ็บ หรือตึง แสดงว่าแผลยืดเหยียดมากเกินไป และจะทำให้ร่างกายปรับสภาพตัวเอง เนื่องจากกลัวว่าแผลจะหลุด จึงสร้างเส้นใยคอลลาเจนหนาๆ เพื่อทำให้แผลแน่นขึ้น เมื่อเส้นใยคอลลาเจนหนาเกินไปจึงกลายเป็นแผลนูนขึ้นมาเป็นแผลคีลอยด์ในที่สุด

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อ “วิธีการดูแลแผลผ่าคลอดของคุณแม่มือใหม่” คลิกหน้า 3

การดูแลแผลผ่าตัดหน้าท้อง

 

6. หลังแผลผ่าคลอดแห้งสนิทแล้ว สามารถเปิดแผลได้ ถ้ามีแผลเป็นให้ใช้ครีมซึ่งมีส่วนผสมของเสตียรอยด์อ่อนๆ หรือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีทาบริเวณแผล ไม่มีผลต่อน้ำนมเพราะเป็นยาใช้ภายนอก

7. ปรับหัวนอนให้สูงขึ้น จะช่วยให้แผลผ่าที่หน้าท้องไม่ตึงจนเกินไป ช่วยลดอาการเจ็บแผล

8. เนื่องจากการผ่าคลอด เป็นวิธีที่หายช้ากว่าแบบธรรมชาติ เสี่ยงภาวะเลือดอุดตันที่ขา จึงควรเดินบ่อยๆ

9. ใช้แผ่นซิลิโคนใสเหมาะสำหรับแผลเป็นที่มีสีแดงหรือสีคล้ำหรือนูน ซึ่งตามคำแนะนำการดูแลรอยแผลเป็นของ The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002 บอกว่าเมื่อใช้แผ่นเจลซิลิโคนแล้วจะช่วยปรับสีของแผลให้จางลงและแผลแบนราบลงได้ ในการใช้แผ่นเจลซิลิโคนนี้ไม่ควรจะใช้ในขณะแผลเปิด ควรเริ่มใช้ทันทีที่แผลปิดสนิทหรือหลังตัดไหมสำหรับแผลเย็บ โดยปิดแผ่นเจลซิลิโคนนี้ทับแผลเป็นหรือคีลอยด์เป็นระยะเวลานานมากกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้แผลเป็นนี้ยุบลงได้ โดยที่ไม่เจ็บ

10. การฉีดยาคอร์ติโคสตีรอยด์ (Intra lesional corticosteroid) ตามคำแนะนำการดูแลรอยแผลเป็นของ The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002 ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์ โดยศัลยแพทย์ตกแต่งจะฉีดยาเสตียรอยด์นี้เข้าใต้ตำแหน่งของแผลเป็น ซึ่งจะช่วยให้แผลเป็นนั้นนุ่มลงและแบนราบลงได้ ยานี้ควรใช้เมื่อใช้แผ่นซิลิโคนใสแล้วยังไม่หายดี ซึ่งการฉีดยาได้ผลพอใช้ได้ แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บขณะที่ฉีดยา และต้องมาฉีดเป็นระยะตามที่แพทย์นัด

11.การนวดบริเวณแผลเป็น เป็นการกระตุ้นให้แผลนุ่มขึ้น แต่ควรจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และโลชั่นมาช่วยนวดและทาด้วยเพื่อให้แผลเป็นชุ่มชื้น จะได้นุ่มได้ไวขึ้น แบนราบได้เร็วขึ้น และทำให้อาการปวดจากแผลเป็นเหล่านี้ลดลงไปได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังในการนวดก็คือ นวดในแผลเปิด แผลอาจปริขึ้นมา หรือบวมขึ้นมา หรือแพ้โลชั่นก็ต้องหยุด

การดูแลแผลหลังผ่าตัด

เครดิต: ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย, The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002, นพ.ธรรมนูญ พนมธรรม ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลราชวิถี

อ่านต่อบทความน่าสนใจคลิก!

8 วิธีดูแลรักษาแผลนูนแดง หลังผ่าคลอด ให้สวยเรียบ

ไขข้อข้องใจ! “ผ่าคลอด น้ำนมไหลช้า” จริงหรือ? พร้อมเทคนิคนวดเปิดท่อน้ำนม (มีคลิป)

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids