AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

9 เรื่อง การเสริมสวยที่แม่ท้องควรรู้

ลูกผู้หญิงอย่างเรา”รักสวยรักงาม”  ต้องการเสริมสวย ให้ดูดีในทุก ๆ เวลาจริงไหมคะ ไม่เว้นแม้แต่ตอนตั้งครรภ์ เพราะในช่วงเวลานั้น ยิ่งทำให้รูปร่าง ผิวพรรณ ของว่าที่คุณแม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บางคนอาจดูสวยเปล่งปลั่งขึ้น หรือบางคนอาจดูโทรมขี้เหร่กว่าเดิมจนทนไม่ไหว  อยากจะลุกขึ้นมาแต่งสวยเหมือนก่อนท้องบ้าง

ซึ่งก็มีคุณแม่ท้องหลายคนที่อยากเข้าร้านเสริมสวย แต่ก็ยังกังวลเป็นห่วงลูกน้อย กลัวลูกจะได้รับอันตรายจากสารเคมีที่ใช้ ดังนั้นแล้วในช่วงตั้งครรภ์ มีเรื่องความสวยความงามเรื่องใดบ้างที่คุณแม่ท้องสามารถทำได้หรือเรื่องใดต้องห้ามและควรหลีกเลี่ยง มาดูกันเลยค่ะ

 

1. แต่งหน้าและใส่น้ำหอม

คุณแม่บางคนพอรู้ตัวว่าตั้งครรภ์แล้วก็เลิกประทินโฉม  กลัวว่าสารเคมีต่างๆที่อยู่ในเครื่องสำอางจะเป็นอันตรายต่อลูกน้อย  แต่คุณแม่บางคนแม้จะท้องก็ตาม  ก็ยังทาหน้าแต่งตาให้ดูสวยงาม บางคนก็ยังฉีดน้ำหอมจนกลิ่นฟุ้ง เพื่อให้น่าเข้าใกล้  น่าชื่นชม

ซึ่งความจริงแล้ว ขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถแต่งหน้า ใช้น้ำหอมได้เหมือนก่อนตั้งครรภ์ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องค่ะ เพียงแต่ต้องระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดถี่ถ้วน หลีกเลี่ยงของปลอม หรือของไม่มีคุณภาพ ไม่มีอย.รับรอง เวลาแต่งก็อย่าพอกให้หนามากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกหนักหน้าแล้ว การแต่งหน้าทาปากจนเกินพอดี อาจทำให้ดูไม่งามขึ้นมาได้ค่ะ

2. โกรกผม ย้อมผม ยืดผม ดัดผม

สำหรับเรื่องการเสริมสวยของเส้นผมระหว่าตั้งครรภ์นั้น ไม่ว่าจะดัด ยืด  ย้อมผม ทำสี  แนะนำว่าถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงค่ะ เพราะการเสริมความงามเหล่านี้ต้องใช้สารเคมี  ซึ่งสารเคมีบางอย่างอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ถ้าหากเราเกิดอาการแพ้ และเป็นแผลที่หนังศีรษะ ก็อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลามรวดเร็ว  หรือถ้าอดใจไม่ไหว อยากเสริมสวยจริงๆละก็ ควรรอทำหลังจากที่มีอายุครรภ์เกิน 4 เดือนไปแล้ว  เพราะการตั้งครรภ์ช่วงแรกเป็นช่วงที่มีการพัฒนา สร้างอวัยวะต่างๆของลูกในท้อง  คุณแม่ควรมองหาน้ำยาในการทำผมที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก FDA ซึ่งหากมีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ต้องมีฉลากแจ้งเตือนที่เห็นได้ชัดเสมอ  อย่างไรก็ตาม น้ำยาดัด ยืดผม น้ำยาย้อมผม ทำสีส่วนใหญ่ยังไม่มีการรายงาน หรือมีหลักฐานยืนยัันแน่ชัดว่าส่งผลกระทบต่อลูกในท้องแต่อย่างใด

สำหรับคุณแม่ที่อยากเลี่ยงสารเคมีต่างๆ ขอแค่ไดร์ผมให้สวยเข้าทรงเท่านั้นก็ไม่ว่ากันค่ะ  การใช้ไดร์เป่าผมควรระวัง  ไม่ใช้ความร้อนสูงนัก และถ้าเลี่ยงการอบผมได้ในช่วงนี้ก็ควรเลี่ยง เพราะการได้รับความร้อนนานๆ อาจทำให้แม่ตั้งครรภ์รู้สึกเวียนหัว หน้ามืด เป็นลมได้

อ่านต่อหน้า 2 >> “แม่ท้องสามารถเสริมสวยอะไรได้บ้าง?” คลิก!!

3. ทาเล็บ

ก่อนหน้านี้เคยมีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับภัยของการทาเล็บกับคนท้องว่าไม่ควรทาเล็บเพราะอาจเป็นอันตรายต่อตัวอ่อนในครรภ์ได้ ทำให้คุณแม่หลายคนกังวล โดยเฉพาะคนที่รักการตกแต่งเล็บเป็นชีวิตจิตใจ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีรายงานถึงกรณีที่การทาเล็บจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเด็กที่คลอดออกมาแต่อย่างใด

ดังนั้นก็สรุปได้ว่า คุณแม่ท้องสามารถทาเล็บได้ เว้นแต่ว่าถ้าคุณแม่ไม่ได้มีพฤติกรรมประหลาด ๆ  ซึ่งอาจส่งผลต่อร่างของคุณและเด็ก เช่น ชอบกัดและกลืนเล็บ หรือสูดดมยาทาเล็บระหว่างที่รอเล็บแห้งเพราะยาทาเล็บก็มีสารเคมีบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณและลูกในครรภ์หากใช้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน

4. นวดตัว ขัดผิว

เพราะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์ดูหมองคล้ำลง ถ้าอยากจะไปนวดตัว ขัดตัว หรือสครับผิว ถ้าขัดไม่รุนแรง หรือใช้สารเคมีก็คงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด  แต่สิ่งสำคัญที่ต้องระมัดระวังคือ ไม่ควรออกแรงขัดตรงบริเวณท้อง หรือบริเวณฝ่าเท้า เพราะจะไปกระตุ้นมดลูก ทำให้มีการบีบรัดตัวก่อนกำหนด ซึ่งมีผลสำหรับคนที่แท้งลูกง่าย  หรือทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้ง่ายมากขึ้น ยิ่งบริเวณส้นเท้าที่เป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาท ถ้ามีการนวดหรือขูดบริเวณนี้จะส่งผลให้เกิดการหดรัดตัวของมดลูกได้ จึงควรเลี่ยงการนวดส่วนนี้ไปก่อน

ในส่วนของการขัดตัวด้วยน้ำยาหรือสารเคมีต่างๆ แม้จะบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ หรือมีส่วนประกอบต่างๆเป็นสมุนไพร ก็อาจมีโครงสร้างของสารเคมีอยู่ด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีสารออกฤทธิ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะออกฤทธิ์อย่างไร
เพราะปัญหาที่เกิดกับคุณแม่ท้องมาจากสภาพแวดล้อมเป็นส่วนใหญ่ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้มากๆ ค่ะ

5. อบไอน้ำ และซาวน่า

การอบไอน้ำและซาวน่าทั้งสองวิธีนี้ จะทำให้ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำ ซึ่งถ้าเกิดกับผู้หญิงทั่วไปก็คงไม่เป็นไร แต่หากอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์แล้วนั้น อาจไม่เป็นผลดีต่อทั้งร่างกายคุณแม่ท้องและลูกในท้องนะคะ เพราะหลังการผ่านกระบวนการเหล่านั้น อาจจะทำให้คุณแม่เป็นลมหน้ามืดได้  นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยว่า หลังอบซาวน่าประมาณ 1-2 ชั่วโมงจะทำให้ไอคิวของเราต่ำลงด้วย เพราะการสูญเสียน้ำในร่างกายนั่นเองค่ะ

อ่านต่อหน้า 3 >> “แม่ท้องสามารถเสริมสวยอะไรได้บ้าง?” คลิก!!

6. โบท็อก

การโบท็อกหน้าเป็นอีกกรรมวิธีในการฉีดสารที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นสารพิษ ซึ่งผลิตจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง เรียกว่า botulinum toxin ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง โดยใช้ปริมาณน้อยมากๆ ฉีดเข้าไปในผิวหนังของเรา ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ได้รับสาร กลายเป็นอัมพาต และผลของก็คือ มีความเต่งตึง แม้จะทำให้สวย แต่เป็นข้อต้องห้ามอย่างเด็ดขาดของคุณแม่ท้องนะคะ

และถ้าคุณแม่ท้องเผลอไปฉีดและได้รับสารพิษชนิดนี้ในปริมาณมากๆ ก็มีผลอันตรายมากเช่นกัน โดยขึ้นอยู่กับความชำนาญของผู้ฉีด เพราะถ้ายาเข้าสู่กระแสเลือด ก็อาจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ รวมทั้งพบว่าสารนี้สามารถเข้าสู่เต้านมได้ด้วยค่ะจึงไม่เหมาะกับคุณแม่ที่ให้นมลูกด้วย

7. ทรีตเม้นท์หน้าใส

การทำทรีตเม้นท์หน้าใส ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมี AHA หรือ BHA หรือไออนโต ที่กำลังได้รับความนิยมกันในขณะนี้ ส่วนใหญ่ตามสถานเสริมความงามทั่วไปมักจะเป็นการใช้กรดผลไม้ ช่วยผลัดเซลผิว ซึ่งจะทำให้เมลานินที่เคยเป็นสารปกป้องผิวบางลง ทนแดด ทนมลภาวะได้น้อยลง รวมทั้งในครีมบำรุงผิวบางตัวก็มีส่วนผสมของสารบางชนิด เช่น Vitamin C, Kojic acid, Mulberry extract เป็นต้น

คุณแม่ท้องบางคนอาจมีอาการแพ้ ใช้แล้วเกิดอาการคัน ระคายเคือง หรือเกิดเม็ดผื่นแดง ซึ่งควรหลีกเลี่ยงในระหว่างการตั้งครรภ์เพื่อป้องกันผลที่ไม่พึงประสงค์นั่นเองค่ะ

8. การสวมแหวน

ถ้าคุณแม่ยังใส่แหวนในขณะตั้งครรภ์อยู่ ขอแนะนำให้ถอดเก็บเอาไว้ก่อน เพราะคุณแม่เกือบทุกคนมักมีอาการบวมเกิดขึ้น เมื่อบวมมาก ๆ แหวนที่ใส่อยู่ก็จะถอดออกไม่ได้ ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่สะดวก ยิ่งใกล้คลอดจะยิ่งบวมมาก บางรายบวมมากจนแหวนรัดนิ้วจนเน่าเลยก็มี (อ่านต่อ “เรื่องที่แม่ๆไม่เคยรู้! ท้องแล้ว “นิ้วบวม” จนต้องตัดแหวน”) 

9. จัดฟัน-ถอนฟัน

มีความเชื่อกันว่า เวลาตั้งท้องห้ามทำฟัน บางคนฟันผุจนจะหมดปากแล้วยังไม่ยอมไปทำฟันเลยก็มี ทนปวด ทนทรมานไป ซึ่งความจริงการทำฟันขณะตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ทำได้ เพียงแต่ต้องให้ความระมัดระวังให้มาก

ซึ่งหากคุณแม่ท้องจำเป็นต้องถอนฟันอาจจะทำให้มีเลือดออกได้มากกว่าคนที่ไม่ตั้งครรภ์ หมอฟันจึงมักจะหลีกเลี่ยงที่การถอนฟันของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ทำได้ ในคุณแม่บางรายที่มีปัญหาต้องกรอฟันเป็นเวลานาน ๆ อาจจะทำให้เกิดอาการเกร็ง ถ้าเคยมีประวัติหรือมีความเสี่ยงจะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด อาจจะทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้  อย่าลืมปรึกษาหมอที่ฝากครรภ์เพื่อประเมินความเสี่ยงของสุขภาพครรภ์ก่อนไปทำฟันด้วยนะคะ  สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ ที่ต้องการทำฟัน  อย่าลืมแจ้งหมอฟันด้วยนะคะว่าตนเองนั้นตั้งครรภ์อยู่

…………………………………………………………..

เชื่อว่าคุณแม่ท้องทุกคนมีความสวยอยู่แล้ว เป็นความงามตามธรรมชาติของการตั้งครรภ์ เป็นสีสันของความสุขที่สุดในชีวิตของผู้หญิงกับการที่จะได้เป็นแม่  ความงามที่เกิดจากภายใน   ซึ่งมีคุณหมอหลายท่านแนะนำว่า หากไม่จำเป็นคุณแม่ก็ควรรอให้คลอดน้องก่อนแล้วค่อยไปแต่งความงามเติมความสวยหลังคลอดน่าจะดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ต้องคอยกังวลตลอดเวลาที่อุ้มท้อง นอกจากจะช่วยปกป้องให้ลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัย 100% แล้ว ยังช่วยปกป้องตัวคุณแม่เองด้วย เพราะช่วงตั้งครรภ์ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแม่อาจจะเปลี่ยนแปลงไป

ที่สำคัญ คุณพ่อ คือกำลังใจที่ดีที่สุด ถ้าอยากได้ลูกน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ก็ต้องหมั่นชื่นชมความงามตามธรรมชาติของภรรยาสุดที่รักนะคะ

อ่านต่อบทความน่าสนใจ

คลิก!! เรื่องที่แม่ท้องสงสัย ? ไขข้อข้องใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ 

คลิก!! งานบ้านที่แม่ท้องทำได้และควรหลีกเลี่ยง