พบ ทารกถูกทิ้ง ในถังขยะมดกัดเต็มตัว สาเหตุเพียงเพราะ ไม่ได้เกิดมาเป็นเด็กผู้ชาย!
เป็นที่น่าเศร้าสลดใจกับสายตาผู้พบเห็น เมื่อสำนักข่าว The Sun รายงานว่า พบเด็กทารกแรกเกิดถูกห่อด้วยซองกระดาษในถังขยะ สภาพเนื้อตัวมีบาดแผล และกำลังถูกมดรุงกัดอยู่!
ทารกถูกทิ้ง เพียงเพราะเกิดเป็นหญิง!
Dheeraj Rathore คือชายผู้พบเห็นทารกแรกเกิดรายนี้ได้ให้การว่า ในขณะที่เขากำลังทิ้งขยะอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ จึงรีบค้นดูก็พบทารกน้อยแรกเกิดรายนี้นอนร้องไห้อยู่ในถังขยะสภาพน่าหดหู่ยิ่งนัก เขาจึงได้ใช้เสื้อของเขาเอง อุ้มและห่อทารกน้อยขึ้นมาพร้อมกับรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
แพทย์ได้ทำการตรวจทารกน้อยผู้น่าสงสารรายนี้พบว่า หนูน้อยมีน้ำหนักตัวราว 1,600 กรัมอยู่ในสภาพอิดโรย นอกจากจะมีร่องรอยการถูกมดกัดแล้ว ยังพบว่าร่างกายของหนูน้อยยังมีแผลที่เกิดจากการโดนทำร้ายอีกด้วย
ตำรวจพื้นที่คาดว่า น่าจะเป็นพ่อแม่ที่ไม่พอใจที่ลูกออกมาเป็นผู้หญิงจึงนำตัวทารกมาทิ้งไว้ในถังขยะดังกล่าว
ชมคลิป!
จริงหรือ?! ที่แม่รักลูกชายมากกว่า คลิก!
เครดิต: The Sun และ Daily Mail
แม่ส่วนใหญ่รัก “ลูกชาย” มากกว่าจริงหรือ?
ได้มีผลการวิจัยที่เกิดขึ้นจริงจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคุณแม่ทั้งหมด 2,000 คนที่มีทั้งลูกชายและลูกสาวในครอบครัว ผลสรุปพบว่า คุณแม่เหล่านี้รู้สึกว่าตัวเองรักลูกชายมากกว่า พยายามที่จะเอาอกเอาใจให้ลูกชายของตัวเองมีความสุข แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณแม่ไม่ได้รักลูกสาวนะคะ หากแต่คุณแม่กลุ่มตัวอย่างบอกว่า ลูกชายมักจะมีนิสัยร่าเริง เต็มไปด้วยความน่ารักน่าชัง ขี้เล่น ตลก อารมณ์ขัน ส่วนลูกผู้หญิงนั้นเนื่องจากเป็นเพศเดียวกันก็เลยรู้ว่าต้องการอะไร ก็เลยไม่ต้องเอาใจอะไรมากมายอีกทั้งยังชอบเถียงจนทำให้คุณแม่รู้สึกหงุดหงิดและปวดหัวได้ง่ายกว่า
ซึ่งจากผลการวิจัยนี้ทำให้เห็นถึงความน่าเป็นห่วงที่คุณแม่ทั้งหลายกำลังหันมาเอาอกเอาใจลูกชายมากกว่า เพราะการกระทำนี้สามารถส่งผลกับลูกสาวที่กำลังเติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกน้อยใจ และคิดว่าพ่อแม่ไม่รักได้
อ่านต่อ>> 12 วิธีเลือกเพศลูกแบบธรรมชาติ
มีลูกชายหรือลูกสาวดีกว่ากัน
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวล้ำจนทำให้เราสามารถเลือกเพศของเด็กในท้องได้ โอกาสที่พ่อแม่จะได้ลูกออกมาเป็นชายหรือหญิงจึงกำหนดได้ตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ทั้งด้วยการใช้หลักการทางการแพทย์ไปจนถึงความเชื่อที่บอกเล่าต่อ ๆ กันมา ทำให้โอกาสของการได้เพศลูกตามใจพ่อแม่ได้ต่างจากเมื่อก่อน
อ่านต่อวิธีกำหนดเพศลูกด้วยเทคโนโลยี ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
เครดิต: MedThai
วิธีการกำหนดเพศลูกด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย
การกำหนดเพศลูกในปัจจุบันนั้น เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ค่ะ
1. การเลือกก่อนการปฎิสนธิ ได้แก่
- การควบคุมอาหาร นั่นก็คือ ถ้าต้องการลูกชาย ให้รับประทานอาหารที่มีโปตัสเซียม และโซเดียมเยอะ ๆ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ถั่ว ไส้กรอก มะเขือเทศ แต่ถ้าต้องการลูกสาว ให้คุณแม่รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม และวิตามินดีมาก ๆ ได้แก่ นม ไข่ ผักใบเขียว เป็นต้น ว่ากันว่าวิธีนี้เห็นผลมาถึงร้อยละ 80 เลยละค่ะ
- การสร้างสภาวะร่างกายที่เหมาะสม ถ้าต้องการลูกชาย ให้งดร่วมเพศจนกว่าจะถึงวันที่ไข่ตกวันเดียวเท่านั้น โดยให้คุณสามีควรสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปในช่องคลอดให้ได้ลึกที่สุด และสุดท้าย คือ ต้องให้ภรรยาถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน หรือใกล้เคียงกับสามี แต่ถ้าต้องการบุตรสาว ให้ร่วมเพศ 2-3 วัน ก่อนวันไข่ตก ขณะร่วมเพศสามีไม่ควรสอดใส่อวัยวะเพศลึกเกินไป สุดท้ายคือ ภรรยาไม่ควรถึงจุดสุดยอดขณะร่วมเพศ อ้างกันว่าวิธีนี้เชื่อถือได้ถึงร้อยละ 80 เช่นเดียวกันค่ะ
- การคัดแยกเชื้ออสุจิที่มีโครโมโซม X หรือ Y ออกจากกันโดยการปั่นแยกในห้องปฎิบัติการ วิธีนี้ต้องอาศัยเทคนิคการปั่นแยกอสุจิในห้องปฏิบัติการ และทำการฉีดเชื้อกลับเข้าโพรงมดลูกโดยแพทย์ ซึ่งความน่าเชื่อถือทางการแพทย์ที่อ้างกันในทฤษฎีก็สามารถคัดได้ถึงร้อยละ 70-80 เลยทีเดียว
อ่านต่อ>> วิธีการกำหนดเพศลูกด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย
2. การคัดเลือกหลังจากมีการปฏิสนธิแล้ว ได้แก่
- เลือกก่อนฝังตัว คือ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ดึงเซลล์จากตัวอ่อนที่เลี้ยงในห้องปฎิบัติการมาตรวจโครโมโซมก่อน แต่มีราคาแพง ขั้นตอนยุ่งยาก และยังไม่รับรองความสมบูรณ์ของตัวอ่อนที่จะเจริญต่อหลังดึงเซลล์บางส่วนออกมาตรวจ แต่ว่ายังไม่มีรายงานความผิดปกติใด ๆ จากการทำวิธีนี้ในระยะเวลาหลายสิบปีที่ได้ทำมาทั่วโลก
- การเลือกหลังจากฝังตัวไปแล้ว วิธีนี้ต้องทำหลังจากการตั้งครรภ์เกิดขึ้นสมบูรณ์แล้ว ทำได้โดยการเจาะเนื้อรก เจาะน้ำคร่ำ เพื่อตรวจโครโมโซมทารกจริง ๆ แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่วิธีนี้มีประโยชน์สำหรับคู่สมรสที่มีความเสี่ยงต่อการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรม ที่ติดมากับโครโมโซม Y ถ้าพบว่าทารกเป็นเพศชาย ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าการคัดเลือกเพศลูกให้ถูกใจนั้นมีหลากหลายวิธีเลยใช่ไหมละคะ แต่จะให้ได้ผลสสมหวัง 100 เปอร์เซ็นนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าลูกของเราจะเกิดมาเป็นเพศอะไร ขอเพียงแค่สมบูรณ์แข็งแรง เป็นลูกที่ดีของคุณแม่ และเป็นคนดีของสังคม เพียงเท่านี้ เพศลูกก็ไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้วละค่ะ
เครดิต: Got To Know
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่