พาลูกเที่ยวทะเล …เมื่อเข้าสู่ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน สองสิ่งที่เด็กๆ รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะพักผ่อน คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการไปเที่ยวและทะเล Amarin Baby & Kids จึงขออาสาแนะนำที่เที่ยวทะเลแสนสนุกมาเป็นตัวเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ได้ดูกันค่ะ ว่าจะพาลูกไปเที่ยวทะเล เปิดโกลกว้างที่ไหนดี?
เพราะช่วงปิดเทอมใหญ่ในฤดูร้อน กินเวลากว่า 3 เดือน ซึ่งนั้นก็พอที่จะทำให้เด็กๆ มีเวลาว่างเพื่อพักผ่อนสมองจากการเรียนหนังสือมาทั้งเทอม ส่วนด้านคุณพ่อคุณแม่ก็คงเตรียมวางแผนหากิจกรรมสร้างสรรค์ให้เด็ก ๆ ได้ทำกันไว้แล้ว และกิจกรรมหน้าร้อนที่ขาดไม่ได้เลย ก็เห็นจะเป็นการยกครอบครัวไปเที่ยวทะเลกันนั่นเอง
พาลูกเที่ยวทะเล เสริมประสบการณ์ช่วงปิดเทอม
ซึ่งการ พาลูกเที่ยวทะเล เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกน้อยที่ดีอีกทางหนึ่ง เพราะทะเล คือสถานที่ท่องเที่ยวที่จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณเพลิดเพลิน กับวิว ทิวทัศน์ต่าง ๆ ลูกสามารถเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติรอบ ๆ ทะเลได้ เช่น ชีวิตสัตว์ทะเล น้ำทะเล สภาพอากาศ อาหารทะเล และอื่น ๆ รับรองว่าจะสร้างความประทับใจให้ลูกน้อย รวมถึงตัวคุณอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
♥ บทความแนะนำน่าอ่าน : พาตัวเล็กเที่ยวทะเลครั้งแรกอย่างไร ปลอดภัยและสนุก
พาลูกเล็กเที่ยวทะเลครั้งแรกให้ปลอดภัย
แต่ก่อนจะพาลูกไปเที่ยวทะเล รับลมและแดดร้อน ๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนเตรียมตัวและพึงระวังเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด เมื่อพาลูกไปเที่ยวทะเลครั้งแรก ซึ่งสิ่งที่ต้องระวัง คือ
1. เรื่องของแดด
มีงานวิจัยบอกว่าการถูกแดดแรงๆ เป็นระยะเวลานานจะเพิ่มอัตราเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ถึงสองเท่า ดังนั้น สถาบันมะเร็งของสหรัฐฯ จึงแนะนำให้หลีกเสี่ยงแสงแดดระหว่างเวลา 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น เพราะเป็นเวลาที่รังสีอัลตร้าไวโอเล็ตแรงที่สุด
2. เรื่องของน้ำดื่ม
การออกแดดเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ร่างกายร้อนมาก และอยู่ในภาวะขาดน้ำได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป ทำให้เกิดอาการวิงเวียน หิวน้ำ และเหน็ดเหนื่อย เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 60 ปี มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้ได้มากที่สุด ดังนั้น ระหว่างอยู่กลางแจ้ง อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มอุณหภูมิปกติไว้ให้เขาดื่มบ่อยๆ ด้วย
Tip : นอกจากน้ำเปล่าสะอาดแล้ว อาจจะเตรียมน้ำผลไม้รสอร่อยให้กับลูก อาจจะเป็นแตงโมปั่น หรือน้ำองุ่น จะช่วยให้สดชื่นขึ้น
3. เรื่องของแมงกะพรุน
เป็นสัตว์ที่สร้างความเจ็บปวด ปวดแสบปวดร้อนอย่างมากถ้าไปถูกเข้า แมงกะพรุนนั้นดูยากมาก ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ คุณไม่มีทางรู้ว่าตัวไหนมีพิษหรือตัวไหนปลอดภัย ถ้าถูกตัว ก็จะเกิดอาการแสบ ผิวหนังเปลี่ยนสี รอยแผลอาจคงอยู่นาน 1 – 2 เดือน อย่าลืมเตือนเด็กๆ ด้วยว่าถ้าเห็นแมงกะพรุน ห้ามไปเข้าใกล้ หรือจับตัวมันเป็นอันขาด
Tip : หากลูกถูกแมงกะพรุน ให้สังเกตดูอาการ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หายใจลำบาก ให้รีบเอาน้ำแข็งประคบ และพาไปโรงพยาบาลด่วน
อ่านต่อ >> “8 ที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพ พาลูกไปช่วงปิดเทอม” คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
พาลูก เที่ยวทะเล ใกล้กรุงเทพฯ เสริมประสบการณ์ช่วงปิดเทอม
ซึ่งทะเลใกล้กรุงเทพฯ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ สำหรับสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาที่เที่ยวรับลมร้อนในช่วงปิดเทอมให้กับตัวเองและลูกๆ แล้วจะมีทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ไหนสวยและน่าเที่ยวบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ
1.พัทยา
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ สำหรับการพาเด็กๆและครอบครัวไปพักผ่อนริมทะเล พัทยาเป็นเมืองที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นอกจากจะมีชายหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว พัทยายังมีโรงแรมที่พัก ซึ่งมีโซน kids club เพื่อรองรับเด็กๆ อีกด้วย
หาดพัทยา ตั้งอยู่ในตัวเมืองพัทยา จากพัทยาเหนือถึงพัทยาใต้ เป็นหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีถนนเลียบชายหาดที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาชนิด ชายหาดทางด้านเหนือเป็นบริเวณที่ค่อนข้างเงียบสงบ นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำ นั่งพักผ่อน หรือเล่นกีฬาทางน้ำต่าง ๆ ส่วนชายหาดช่วงกลางไปจนถึงสุดหาดทางด้านใต้ เป็นบริเวณที่มีธุรกิจการบริการหนาแน่น ทั้งแหล่งอาหาร เครื่องดื่ม ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึก ตลอดจนแหล่งบันเทิงเริงรมย์ต่าง ๆ มากมาย
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กไปเดินเล่นได้ นอกจากหลังจากเล่นน้ำทะเลแล้ว ก็มีมากมายหลายที่ เช่น มิโมซ่า, อาร์ต อินพาราไดซ์, สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ก, ปราสาทสัจธรรม, จุดชมวิวเขาพระตำหนัก, พิพิธภัณฑ์หลุยส์ ทุสโซด์ส แว็กซ์เวิร์ค,และเมืองจำลอง เป็นต้น
♥ บทความแนะนำน่าอ่าน : 3 ที่เที่ยวเด็ด! สร้างการเรียนรู้ช่วงวันหยุด…ที่เด็กๆ ห้ามพลาด
การเดินทาง : สำหรับการเดินทางไปเที่ยวพัทยา แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่นำรถส่วนตัวไป โดยจากกรุงเทพ ฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดชลบุรีได้ 4 เส้นทาง คือ ใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี, ใช้เส้นทางสายกรุงเทพฯ-มีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา-บางปะกง เข้าสู่จังหวัดชลบุรี, ใช้เส้นทางสายเก่า ถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ ไปจนถึงแยกอำเภอบางปะกง และให้แยกเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 34 ไปจนถึงจังหวัดชลบุรี และใช้เส้นทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิดๆก็พาเด็กๆ ถึงที่หมายโดยไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
2. เกาะแสมสาร
เป็นเกาะหนึ่งในเขตความดูแลของกองทัพเรือที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้บนเกาะไม่อนุญาตให้ค้างคืนได้ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปเที่ยวแบบ One Day Trip ได้ค่ะ นอกจากเป็นเกาะที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ และปะการังอันสมบูรณ์แล้ว
เกาะแสมสาร ยังมีความน่าสนใจที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพลาดที่จะพาเด็กๆไปเที่ยว เพราะเกาะแสมสารเป็น 1 ใน 9 เกาะ ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ
โดยเริ่มต้นขึ้นจาก การที่กองทัพเรือได้น้อมเกล้าฯ ถวายเกาะแสมสารเข้าร่วมสนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริให้ดำเนินงานที่เกาะแสมสาร คล้ายคลึงกับเกาะปอร์โครอลล์ ของประเทศฝรั่งเศส คือ เป็นทั้งแหล่งศึกษาและแหล่งสร้างจิตสำนึก และทรงมีพระราชกระแสแนะนำแนวทางการสร้างความรู้ ความเข้าใจและสร้างจิตสำนึกในเรื่องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในด้านพันธ์ไม้และระบบนิเวศต่อเยาวชน ในลักษณะที่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตอันก่อให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับธรรมชาติ ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
โดยเนื้อหาในการจัดแสดง สำหรับพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยแห่งนี้ ในหลักทางสากล เรียกว่า NATURAL HISTORY MUSEUM อันเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงวัตถุในทางธรรมชาติทั้งในด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ทางทะเลที่เป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ตั้งแต่ วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. – 17.00 น.หยุดทำการในทุกๆวันจันทร์ มีค่าบำรุงพิพิธภัณฑ์ฯสำหรับเด็กนักเรียนไม่เกินชั้น ม.6 คนละ 20 บาท ส่วนผู้ใหญ่คนละ 50 บาท
ทั้งนี้การเข้าเกาะแสมสารนั้นก็มีค่าธรรมเนียมอีกด้วยเช่นกัน ดังนี้
- ผู้ใหญ่ 300 บาท(อายุ18ปีขึ้นไป)
- เด็ก 220 บาท (อายุไม่เกิน 18ปี หรือกำลังศึกษาไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่6)
- ต่างชาติ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 600บาท
**ค่าธรรมเนียมนี้สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ แต่ไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์
ทั้งนี้เกาะแสมสาร ไม่มีกำหนดปิดเกาะ เปิดให้บริการทุกวัน 365 วันต่อปี และเปิดรับบัตรคิว 06.00 น. (ประตูรั้วด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ จุดซื้อตั๋วเรือจะเปิดประมาณตีห้า) แต่จะไม่รับจองล่วงหน้า โดยเปิดรับนักท่องเที่ยววันละ 500 คน
แนะนำ ให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆไปช่วงวันธรรมดา เพราะคนจะน้อยกว่าเสาร์อาทิตย์ และให้รีบมาต่อคิวเพื่อรับบัตร เพราะมีการจำกัดนักท่องเที่ยว ถ้าเต็มก็ต้องรอวันถัดไป โดยจะมีเรือข้ามเกาะ จะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 100 คน เรือออกเป็นรอบๆ 9.00, 10.00, 11.00, 12.00, 13.00 น. คุณพ่อคุณแม่สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพอ่มเติมได้ที่ โทร. 038 432 471, 038 432 475 เว็บไซต์ www.tis-museum.org
♥ บทความแนะนำน่าอ่าน : โรคลมแดด วายร้ายหน้าร้อนของเด็กเล็ก
อ่านต่อ >> “ที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพ พาลูกไปช่วงปิดเทอม” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. เกาะมันใน
เกาะมันใน เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะมันที่มีทั้งหมด 3 เกาะ เรียกชื่อตามระยะทางจากฝั่ง เกาะที่อยู่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุดก็เรียกเกาะมันใน มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน โดยเฉพาะที่อ่าวหน้าบ้านมีปะการังที่สวยงาม ส่วนอ่าวโกงกางมีทรายเรียบ
อีกทั้งยังเป็นที่ดำเนินการโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล มีพันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ ตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยสถานีอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ เกาะมันใน เป็นอาคารชั้นเดียว ภายในจัดแสดงเรื่องราวของเต่าทะเลในประเทศไทย มีเต่าทะเลขนาดใหญ่หลายชนิดสตัฟฟ์ไว้ ใกล้ ๆ กับอาคารนิทรรศการมีอาคารเรือนไม้หลังเล็ก ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับหอยมือเสือ ด้านตะวันตกของอาคารนิทรรศการเป็นบ่อเพาะเลี้ยงและพักฟื้นเต่าทะเลซึ่งมี เต่าทะเลหลายชนิด ได้แก่ เต่าหญ้า เต่าตนุ เต่ากระ เลี้ยงไว้ในบ่อคอนกรีตให้ชมได้อย่างใกล้ชิด และปิดให้เข้าชม เวลา 08.30 – 18.00 น. จึงเหมาะจะเป็นทั้งที่เที่ยวและแหล่งการเรียนรู้อีกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยมารู้จักและเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเต่าทะเล เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ไม่ให้สุญพันธุ์ไป
นอกจากนี้ยังพบอีกว่าในช่วงเวลาน้ำลดจะเกิดเป็นทะเลแหวกเป็นสันทรายโผล่ขึ้นมาเป็นสันทรายทอดยาวจากเกาะมันในไปจนถึงเกาะมันกลาง มีระยะทางประมาณ 200 เมตร นับเป็นทะเลแหวกภาคตะวันออก ที่จะสร้างความมหัศจรรย์ใจให้กับเด็กได้ เป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง ที่สวยงามไม่แพ้ทะเลแหวกของทางภาคใต้เลยทีเดียว
เกาะมันใน อยู่ห่างจากแหลมแม่พิมพ์ 5 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที) อยู่ห่างจากปากน้ำประแสร์ 9.8 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) การเดินทางไป เกาะมันใน สามารถเช่าเรือไปได้จากทั้งสองแห่ง ทั้งนี้ หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ สถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์เต่าทะเล เกาะมันใน โทรศัพท์ (038) 616096, 657466
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
4. หาดเจ้าหลาว
อีกทั้งหาดทรายของ หาดเจ้าหลาว ยังทอดยาวไปจด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน เหมาะกับกิจกรรมทางน้ำอย่าง ว่ายน้ำ, บานาน่าโบ๊ท, ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งเพียง 2 กิโลเมตร
และหลังจากที่เล่นน้ำดูปะการังกันเรียบร้อย คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กๆไป เที่ยวชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ซึ่งอยู่ห่างจากหาดเจ้าหลาวเพียง 6 กิโลเมตร ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศึกษาธรรมชาติ และระบบนิเวศป่าชายเลนในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะเด็กๆ จะได้ศึกษาธรรมชาติจากนอกห้องเรียน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แบบนิเวศทัศนา ได้เดิมชมต้นไม้ พรรณไม้ ศึกษาวิถีชีวิตสัตว์ในอ่าวคุ้งกระเบน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งนี้ พื้นที่โดยรอบของป่าชายเลน เด็กๆและคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ สะพานเดินศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ในการเที่ยวชมตามจุดต่างๆ พร้อมกับข้อมูลความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนที่ติดอยู่ตรงศาลาเล็กๆ ให้ได้ทราบอยู่เป็นระยะ เรียกได้ว่านอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้ว ก็ยังจะได้ความรู้กลับบ้านไปอีกด้วย
โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน จันทบุรี เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น คุณพ่อคุณแม่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โทร 039-433-216-8
เว็บไซต์ http://www.fisheries.go.th/cf-kung_krabaen/forest.htm
อ่านบทความแนะนำน่าสนใจ คลิก!
- 5 เทคนิค ทำให้ทุกการ “ไปเที่ยว” คือ “โอกาสพิเศษ” สำหรับลูก
- ผิวลูกไหม้แดด ช่วงหน้าร้อน ดูแลอย่างไรดี?
อ่านต่อ >> “ที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพ พาลูกไปช่วงปิดเทอม” คลิกหน้า 4
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5. หาดชะอำ
อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี 41 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายเข้าชายหาด ระยะทาง 2 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบุรี มีร้านอาหารทะเล ที่พักริมหาด ให้บริการมากมาย รวมทั้งมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ทำ ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยาน บานาน่าโบ๊ท และขี่ม้ารอบหาด ทั้งยังเดินทางสะดวก เพราะด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก
ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่พาลูกๆเล่นน้ำที่หาดชะอำกันแล้ว หากขับรถเลยหาดชะอำมา 8 กิโลเมตร ก็จะพบกับ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซึ่งเป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2466 ได้รับขนานนามว่า “พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง”
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ เปิดเวลา 08.30-16.30 น. ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 16.00 น. ค่าเข้าชม ค่าธรรมเนียมเข้าชม (เฉพาะด้านล่างและโดยรอบ) ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก (อายุ 10-14 ปี) 15 บาท ค่าธรรมเนียมขึ้นชมหมู่อาคารพระที่นั่ง ท่านละ 30 บาท (ผู้ใหญ่และเด็ก) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 3250 8039 เว็บไซต์ www.mrigadayavan.or.th
อีกทั้งยังมี อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้และเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ความรู้และการฝึกอบรมระดับสากลด้านการอนุรักษ์พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายครบวงจร ตั้งอยู่ภายในบริเวณค่ายพระรามหก ถนนเพชรเกษม ระหว่างชะอำและหัวหิน ทางเข้าทางเดียวกับพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
โดยอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ที่นี่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมระดับสากลรวบรวมความรู้ตามรอยพระยุคลบาทในการฟื้นฟูพัฒนาสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน ป่าชายหาด ป่าเบญจพรรณ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม ภายในมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอุทยานทางทะเล ซึ่งเป็นสะพานไม้ลัดเลาะไปตามป่าชายเลน มีป้ายบอกพันธุ์ไม้ต่างๆ รวมถึงหอคอยให้ส่องดูนกสวยๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการอีก 8 สถานี ภายในศูนย์พลังงานสิ่งแวดล้อม ที่จะเพิ่มเติมความรู้สนุกๆ ด้านพลังงานให้กับเด็กๆ อีกด้วย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. หากคุณพ่อคุณแม่สนใจพาเด็กๆมาเที่ยวชมนิทรรศการ สามารถติดต่อเข้าชมล่วงหน้าได้ที่มูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิริธร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เบอร์โทรศัพท์ 0 3250 8396 และ 0 3250 8352
♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
6. หาดหัวหิน
ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของตัวเมือง มีทางลงหาดอยู่ที่ถนนดำเนินเกษม โดยหาดหัวหินมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียดเหมาะสำหรับให้เด็กๆเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศสุดคลาสสิก ด้วยหาดทรายขาวกว้างยาวสุดสายตา น้ำทะเลใสซัดสาดฟองคลื่นกระแทกโขดหินที่กระจายอยู่บริเวณปลายหาดด้านหนึ่งอย่างสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และนี่เองคือที่มาของชื่อหัวหิน
ทั้งนี้ก่อนกลับคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมพาเด็กๆ แวะไปที่ อุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นมาด้วยความร่วมแรงร่วมใจและความจงรักภักดีของคนในชาติ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของกองทัพบก อำเภอหัวหิน
โดยมีวัตถุประสงค์สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหา กษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ได้แก่ พ่อขุนรามคำแหง สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระนารายณ์ สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชื่อ “อุทยานราชภักดิ์” เป็นชื่อที่พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพื้นที่ประมาณ 222 ไร่ สถานที่แห่งนี้นอกจากเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของบุคคลทั่วไปแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ไว้สำหรับพักผ่อนแห่งใหม่ของหัวหินอีกด้วย โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 08.00-18.00 น.
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.rta.mi.th หรือหากคุณพ่อคุณแม่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามได้ที่ เบอร์ 0-2297-7581-4
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- พาลูกเที่ยวแบบไหน เสริมพัฒนาการ สร้างทักษะชีวิต!
- พาลูกขึ้นเครื่องบิน ครั้งแรก ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง ?
- จัดกระเป๋าพกพาของใช้ลูกเล็ก ฉบับประหยัดเงินในกระเป๋าพ่อแม่
- 29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้ แบบสบายใจ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : travel.kapook.com