“ลูก” เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ ของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ประโยคนี้เชื่อว่าหลายๆคน ต้องเคยได้ยิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่เองแล้ว จะเข้าใจมากๆ ซึ่งทุกคนย่อมอยากให้ลูกน้อยที่เกิดมา ปลอดภัย แข็งแรง ปราศจากโรคภัย มีภูมิต้านทานที่แข็งแรง ซึ่งการ สร้างภูมิต้านทานให้ลูก คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างให้ได้ค่ะ
วันนี้ ทีมงาน Amarin Baby & Kids รวบรวม 8 วิธีเริ่ดๆ สร้างภูมิต้านทานให้ลูก มาฝากกัน คุณแม่ๆมีกันครบมั้ย ไปเช็กกันเลย
รวม 8 วิธีสุดเริ่ด! สร้างภูมิต้านทานให้ลูก
1.กินนมแม่
นมแม่ ถือว่าเป็นสารอาหาร ที่สำคัญ และดีที่สุดสำหรับลูกน้อย เพราะมีประโยชน์ยอย่างมากในเรื่องภูมิต้านทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี เพราะระบบการพัฒนาภูมิต้านทานอาจยังไม่สมบูรณ์ ทำให้มีโอกาสการติดเชื้อโรค ได้ง่ายกว่าเด็กโต เด็กที่กินนมแม่จะช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วย ที่สำคัญยังเชื่อมโยงความผูกพันระหว่างแม่ลูก
อีกทั้งนมแม่ ยังถือว่ามีส่วนประกอบของสารอาหารหลายร้อยชนิด ทั้งโปรตีน ไขมัน วิตามิน คาร์โบไฮเดรต เอนไซม์ ฮอร์โมน ไปจนถึงเม็ดเลือดขาว (Leukocytes) ที่เป็นสารภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อโรค ร่างกายของแม่ก็เช่นกัน และสารอาหารบางส่วน ก็ไม่สามารถเติมเต็มคุณประโยชน์ลงไปในนมประเภทอื่นๆได้ในภายหลัง ซึ่งจะพบเฉพาะในนมแม่เท่านั้น เพราะเหตุนี้ จึงทำให้มีหลายหน่วยงาน หันมารณรงค์ให้คุณแม่ๆเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น
2. อาหารเสริม
ลำไส้ของลูกน้อย จะมีการพัฒนาการย่อยได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สามารถให้ลูก เริ่มทาน อาหารเสริมได้ ซึ่งเด็กจะมีพัฒนาการ การเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเคลื่อนไหวมากขึ้นตามช่วงวัย จึงควรได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และจำเป็นต่อการเจริญเติบโต คือการได้กินอาหารครบ 5 หมู่และหลากหลาย ที่ไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่ง เพื่อช่วยให้ลูกเรียนรู้ถึงรสชาติ ลักษณะอาหารที่ต่างจากนมแม่ และฝึกทักษะเรื่องการกินอาหารที่เหมาะสมอีกด้วย
การเริ่มให้อาหารเสริม
- เริ่มให้อาหารเสริมทีละน้อยๆก่อน เช่น ข้าวต้มบดผ่านกระชอน โดยให้ใสๆ เพราะน้องยังไม่คุ้นกับการหัดกลืนกิน
- เวลาป้อน ควรเป็นช่วงที่ลูกท้องว่าง แต่ไม่หิวจัด พยุงให้นั่งแล้วป้อนปลายช้อนทีละน้อยก่อน เพื่อให้ลูกเคยชินกับการป้อนด้วยช้อน และกลืนข้าวบด
- ในระยะ 3 วันแรก หากไม่มีผื่นแดงเรื่อๆ ที่แก้ม แสดงว่าไม่แพ้ สามารถป้อนอาหารชนิดนั้นได้มากขึ้น ถ้าแพ้ให้งดอาหารชนิดนั้นไปอีก 1-2 เดือน จึงค่อยลองใหม่
- ให้ลองทานอาหารเสริมทีละชนิด เช่น น้ำซุป / ข้าวบด / ฟักทองนึ่งบด / ไข่แดงต้ม แต่ไม่ผสมรวมกัน เพราะถ้าเกิดอาการแพ้ แม่จะไม่ทราบว่าแพ้อาหารชนิดใด
- เมื่อลูกสามารถกินอาหารเสริมได้ 1 มื้อ ก็ควรจะทิ้งนม มื้อต่อไปให้ห่างออกไป 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้อาหารเสริมผ่านกระเพาะให้หมดเสียก่อน
- เมื่อลูกเริ่มคุ้นเคยกับอาหารเสริมมากขึ้น จึงค่อยเพิ่มปริมาณ
- เมื่อลูกอายุ 7-8 เดือน ควรเพิ่มอาหารเสริมเป็น 2 มื้อ และ จำนวนมื้อนม ก็จะลดลงเหลือ 4-5 ครั้งต่อวัน
- เมื่อลูกอายุ 10-12 เดือน ควรเพิ่มอาหารเสริมเป็น 3 มื้อ และจำนวนมื้อนม ก็จะลดลงเหลือ 3-4 ครั้งต่อวัน
คุณแม่ๆ คลิกอ่านต่อหน้า 2 เลยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. สร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน
การฉีดวัคซีน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วย สร้างภูมิต้านทานให้ลูก เพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อการต่อต้านเชื้อโรคต่างๆดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ ไม่ควรละเลย ที่จะพาลูกไปรับวัคซีนขั้นพื้นฐาน ตามที่กระทรวง สาธารณสุขกำหนด ส่วนวัคซีนทางเลือกนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สุขภาพของลูก และความต้องของคุณพ่อคุณแม่
ขอบคุณข้อมูลจากภาพจาก : แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค
4. สุขอนามัยที่ดี
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลย และสำคัญอย่างมาก คือเรื่องของความสะอาด ทุกสิ่งที่ลูกสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของใช้ ควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อกำจัด และป้องกันเชื้อโรค และตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ก็ควรดูแลรักษาความสะอาด และสุขอนามัยส่วนตัวเช่นกัน การ สร้างภูมิต้านทานให้ลูก โดยการฝึกให้ลูกมีระเบียบวินัยทางด้านสุขอนามัย คือรากฐานสำคัญของการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง เช่น
- การแปรงฟัน ควรฝึกให้เด็กได้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องยาก คุณพ่อคุณแม่ อาจจะหาตัวอย่าง คลิปการแปรงฟันมาเปิดให้ลูกดู เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน อยากมีส่วนร่วม เพราะเด็กในวัยนี้มักชอบเลียนแบบ ต้องค่อยๆ ฝึก เดี๋ยวเด็กๆก็จะคุ้นเคย และยอมทำตามไปเอง
- การล้างมือ เพราะเด็กเล็ก มักชอบเอามือเข้าปากอยู่ ดังนั้น การล้างมือย่อมสำคัญมากๆ เพราะเป็นการป้องกันเชื้อโรคที่อาจจะติดมากับมือเข้าสู่ร่างกายลูกได้ เพราะฉะนั้น หมั่นฝึกให้ลูกล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง หลังรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย
- การขับถ่าย เมื่อเด็กถึงวัยที่ต้องบอกลาผ้าอ้อม ก็ควรฝึกให้ลูกรู้จักการนั่งกระโถน หรือชักโครก รวมถึงการฝึกให้ขับถ่ายเป็นเวลา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเด็กส่วนใหญ่ไม่ยอมฝึกนั่งขับถ่าย ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก พอลูกไม่ย่อมขับถ่ายคุณแม่ก็จะดุ จะยิ่งทำให้เด็กรู้สึกกลัว ดังนั้น ควรให้เวลาลูกได้ฝึกนั่งนานขึ้น เปลี่ยนจากการต่อว่าเป็นคำชม จะทำให้เด็กมีกำลังใจ
5. ใส่ใจสภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อม มีผลต่อสภาพร่างกายของเด็กไม่น้อย ยิ่งช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ บางครั้งอาจทำให้เจ้าตัวเล็ก ไม่สบายเนื้อสบายตัว และมีอาการโยเยได้ ดังนั้น จึงควรหาทางรับมือ ป้องกัน ในแต่ละช่วงฤดูกาลไว้ เช่น ช่วงหน้าร้อน ก็ควรหาเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เส้นใยธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย ผ้าลินิน จะสบายตัวไม่อึดอัด ซักง่าย แห้งง่าย ส่วนช่วงหน้าฝน ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกคลุม ให้ความอบอุ่น
3 วิธีสุดท้าย ในการ สร้างภูมิต้านทานให้ลูก อ่านต่อหน้า 3 เลยค่ะ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
6. นอนหลับเพียงพอ
ช่วงที่ลูกนอนหลับสนิท ร่างกายจะหลั่ง Growth Hormones ออกมา ซึ่งทำให้ร่างกายลูกน้อยเจริญเติบโตตามปกติและขณะที่ลูกน้อยหลับ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้ ฉะนั้น การสร้างบรรยากาศภายในห้องนอนที่เหมาะสม ไม่รบกวนการนอนของลูก ก็มีส่วนช่วย สร้างภูมิต้านทานให้ลูก ได้เช่นกัน
6. ออกกำลังกาย
สำหรับเด็กเล็ก คงยังไม่สามารถที่จะออกกำลังกายได้แบบชัดเจนขนาดนั้น แต่คุณพ่อคุณแม่ สามารถที่จะคอยกระตุ้นด้วยการเล่นกับลูก อาจจะเป็นการเล่นหยอกล้อ ให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกาย คว่ำ คลาน เดิน ตามความเหมาะสมของวัย ซึ่งจะทำให้ลูกได้ออกกำลังแขน ขา ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเลือดในร่างกาย ทำให้ลูกน้อยอารมณ์ดี และแข็งแรง
ในช่วงอายุ 1-3 ปีแรก พบว่าเด็กต้องการการเรียนรู้ทางด้านการทรงตัว การนั่ง การยืน เคลื่อนไหวที่ถูกต้อง การประสานงานระหว่างมือ ตา เท้า การเคลื่อนไหวในที่ต่างๆ เช่นที่แคบ ที่กว้าง การออกกำลังกายจะทำให้การพัฒนาการของเด็กทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์รวมทั้งความฉลาดดำเนินไปด้วยดี การที่จะให้เด็กออกกำลังกายพ่อแม่จะต้องทำเป็นตัวอย่างให้เด็กเห็นและปฏิบัติ
8. เสริมวัคซีนทางใจ
ข้อสุดท้ายนี้ ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ควรปฏิบัติเลยค่ะ ภาวะอารมณ์ และจิตใจของผู้เป็นพ่อ และแม่ จะส่งผลต่อลูกน้อยโดยตรง ยิ่งอารมณ์ดีมีความสุขในการเลี้ยงลูกมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าคุณได้สร้างความสุข และสร้าง ภูมิต้านทานทางใจให้ลูกมากเช่นกันค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 8 วิธี สร้างภูมิต้านทานให้ลูก คุณพ่อคุณแม่หลายคนได้อ่านแล้ว เชื่อว่าไม่เกินความสามารถแน่นอน เพื่อลูกน้อยที่เรารัก ทำได้อยู่แล้ว ใช่มั้ยคะ
ขอบคุณที่มา : www.thaibreastfeeding.org
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่